ตอนที่ 7 [F&P] อาณาจักรตระกูลเฉิน
Fei Zhen talk
"วันนี้คุณจะกลับเลยไหม ถ้ารู้สึกเหนื่อย เปิดห้องนอนอีกห้องได้"
ผมถามซูหนี่เพราะผมไม่อยากใจร้ายกับเธอมากเกินไป ปกติผมจะไล่ให้เธอกลับไปทันทีที่กิจกรรมบนเตียงเสร็จสิ้นลง แต่ผมเห็นว่าเวลาที่นอนกับเธอใกล้จะครบหนึ่งปีแล้ว ก่อนที่เราสองคนจะจากลากัน ผมควรใจดีกับเธอบ้าง
"ซูหนี่นอนกับคุณได้ไหมคะ"
เธอถามผมออกมา ถ้าผมไม่หลงตัวเองจนเกินไป ผมคิดว่าจริงๆ แล้วเธออยากนอนเคียงข้างผมบนเตียงเหมือนคนรักบ้าง แต่ผมไม่สามารถให้เธอได้จริงๆ ผมควรตอบเธออย่างตรงไปตรงมาเพื่อตัดความหวังทั้งหมดที่เธอมี
"ไม่...ผมจะนอนกับคนที่ผมจะแต่งงานด้วยเท่านั้น"
แม้คำตอบของผมจะทำให้ซูหนี่เจ็บอยู่ในใจลึกๆ แต่ผมจำเป็นต้องพูดแบบนี้ เธอไม่ควรตกหลุมรักผม สถานะของเราสองคนคือคู่นอนเท่านั้น เธอต้องยอมรับกฏนี้ให้ได้
"มันพอมีทางเป็นไปได้ไหมคะที่เราจะเป็นมากกว่าคู่นอน"
ตอนนี้เสียงจของเธอเริ่มสั่นเครือ ผมรู้ในทันทีว่าเธอกำลังจะร้องไห้ แต่ผมจะไม่โกหกหรือให้ความหวังกับเธอ ครบหนึ่งปีเมื่อไหร่ สถานะคู่นอนจะสิ้นสุดลง
"ไม่มีทาง ซูหนี่...ผมจะไม่โกหกคุณนะ ผมรู้ว่าคุณรู้สึกกับผมยังไง แต่ผมให้คุณมากกว่านี้ไม่ได้ และผม...ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว"
...
Shu Ni talk
เหมือนหัวใจของฉันกำลังแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ฉันไม่ควรลงมาเล่นเกมนี้ตั้งแต่แรก และไม่ควรเผลอใจให้แก่เขาเลยเพราะที่จริงแล้ว ความสัมพันธ์ของเรา มันคือเซ็กเท่านั้น ซึ่งมันเป็นได้แค่เท่านี้จริงๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เหนื่อย ฉันกลับบ้านเลยดีกว่า"
ตอนนี้ฉันอยากรีบออกไปจากตรงนี้ น้ำตาของฉันกำลังจะเอ่อล้นไหลออกมาแล้ว ฉันไม่ต้องการให้เขาเห็น ฉันจึงรีบลุกขึ้นแต่งตัว
"เจียวจ้าน มึงพาคุณซูหนี่ไปส่งที่บ้านตอนนี้"
คุณเฉินโทรหาลูกน้องมือขวา เจียวจ้านเคยบอกฉันว่า ปกติถ้าเป็นผู้หญิงก่อนหน้านั้น คุณเฉินจะให้ลูกน้องปลายแถวไปส่ง แต่สำหรับฉันที่ดูแลปรนนิบัติเขาดีมาก เขาจึงให้เจียวจ้านเป็นคนดูแลฉันแทน
"ขอบคุณนะคะ เวลาของซูหนี่เหลือประมาณหนึ่งเดือน ซูหนี่จะทำมันให้ดีที่สุด ซูหนี่กลับก่อนค่ะ" ฉันลาเขาและเดินออกจากห้องไป
...
Fei Zhen talk
ผมนั่งลงบนโซฟาและคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในหัวของผมมีเพียงแค่พลอยเท่านั้น ผมย้อนคิดถึงอดีต คิดถึงวันแรกที่ผมได้พบกับเธอ เด็กน้อยแสนสวย ที่ชื่อว่าพลอย...
สิบปีที่แล้ว
เฉิน เฟยเจิน เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปี ผมเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง แม่ของผมเป็นผู้หญิงไทย ส่วนพ่อเป็นชาวฮ่องกง พ่อเป็นนักธุรกิจที่ไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่เพราะความขยันของพ่อ และนิสัยที่ไม่เคยยอมแพ้ให้กับโชคชะตา ท่านเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ และคอยมองหาลู่ทางทำมาหากินตลอด ซึ่งท่านคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ท่านจึงเดินทางมาดูทำเลที่ประเทศไทยและท่านก็ได้พบกับแม่
แม่เป็นครูสอนภาษาจีนที่โรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพ เมื่อพ่อกับแม่พบกัน ท่านก็ตกหลุมรักแม่ในทันที เพราะความสวยและจิตใจดีของแม่ ทำให้พ่ออยากได้เป็นภรรยา ท่านทั้งสองศึกษาดูใจกันเพียงไม่นาน จากนั้นก็แต่งงานกันในที่สุด และแม่ก็ได้ให้กำเนิดผมและเฟยหลง...น้องชายของผม ออกมา โดยเราสองคนพี่น้องเกิดที่ประเทศไทย ส่วนแม่ได้ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว และตอนนั้นพ่อก็เริ่มทำธุรกิจในประเทศไทยบ้างแล้ว ซึ่งธุรกิจไปได้ดีทีเดียว
การทำธุรกิจในประเทศไทยของพ่อ ใช้ชื่อแม่เกือบทั้งหมด และพ่อก็ยกบริษัทและทรัพย์สินให้แก่แม่ทุกอย่าง ธุรกิจในไทยของพ่อช่วงแรกๆ มีการกู้ยืมแบงค์มาช่วยเรื่องสภาพคล่องบ้าง และมันทำให้ครอบครัวของเราได้พบกับครอบครัวของพลอย
แม่ของพลอยเป็นผู้จัดการสินเชื่อธุรกิจธนาคาร ท่านดูแลวงเงินสินเชื่อให้แก่บริษัทของพ่อเกือบทั้งหมด เพราะท่านเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่เก่งมาก ท่านวางแผนทางการเงินให้กับครอบครัวผม และดูแลการเงินของบริษัทจนสนิทกับแม่ของผม เรียกได้ว่าจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกับลูกค้ากลายมาเป็นเพื่อนกัน เพราะนิสัยที่คล้ายๆ กัน จึงคุยกันถูกคอ
วันหนึ่งพ่อแม่ผมเชิญให้แม่ของพลอยมาทานข้าวที่บ้าน มันทำให้ผมได้พบกับพลอย เด็กน้อยอายุสิบปี หน้าตาสะสวยน่ารักตั้งแต่เด็ก พลอยพูดได้สามภาษา ไทย อังกฤษ และจีนแมนดาริน เพราะเธอเรียนโรงเรียนที่สอนภาษาจีนด้วย และที่สำคัญเพื่อนคนสนิทของแม่พลอยก็เป็นคนจีน เธอจึงพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว
วินาทีที่ผมเห็นเธอเดินเข้ามา เธอดูน่ารักและสดใสมากๆ เธอชอบร้องเพลงและยังชอบเต้นอีกด้วย แม่ของพลอยสนับสนุนสิ่งที่ลูกชอบ โดยให้เธอเข้าคลาสเรียนการเต้น
"หนี่ห่าว หว่อเจี้ยวพลอย" เธอเดินเข้ามาและทักทายผมด้วยภาษาจีน
"พลอยลูก พี่เขาพูดไทยได้จ้า" แม่ของพลอยบอกกับลูกสาวทันที
"อ้าวหรอคะ สวัสดีค่ะพี่ หนูชื่อพลอยค่ะ"
เธอยกมือไหว้ผมและกล่าวทักทายสวัสดี ซึ่งมันเป็นการเจอกันไม่นาน แต่ผมกลับชอบเธอมากๆ ไม่ใช่แค่หน้าตาที่น่ารัก น้ำเสียงสดใสหวานไพเราะจับใจ แต่มารยาทที่เธอมีต่อผู้ใหญ่ มันทำให้เธอยิ่งดูน่ารักมากขึ้นไปอีก พลอยเป็นเด็กนอบน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก
เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย พลอยและแม่ของเธอก็ลากลับบ้าน มันเป็นการพบกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ทำให้ผมจดจำเธอมาตลอด
ส่วนธุรกิจที่ฮ่องกงของพ่อก็ไปได้ดี ทำให้ต้องมีคนกลับมาดูแล แต่เดิมพ่อมีธุรกิจโรงแรมที่เป็นโรงแรมแห่งแรกที่ฮ่องกงและขยายออกไปอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย ตามด้วยธุรกิจจิลเวลรี่ ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจคาสิโนที่เปิดในมาเก๊าอีกด้วย
พ่อกับแม่มีผมและน้องชาย (เฉิน เฟยหลง) ซึ่งเป็นทายาทที่จะสืบทอดธุรกิจเพียงสองคน และผมซึ่งเป็นลูกชายคนโต ต้องเสียสละกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศฮ่องกงตอนอายุสิบเก้าปี เพื่อจะได้ดูแลธุรกิจของพ่อต่อ และหลังจากนั้นผมก็แทบไม่ได้กลับประเทศไทยเลย แต่แม่ของผมยังติดต่อแม่ของพลอยอยู่บ้าง ท่านทั้งสองยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันเสมอ
ส่วนน้องชายของผม อยู่ไทยเกือบจะถาวรแล้ว แต่ก็ดีที่มันอยู่ไทย มันคอยส่งข่าวของพลอยให้ผมตลอด ที่สำคัญ...มันเนี่ยแหละที่เป็นคนคอยแอบดูพลอยห่างๆ แทนผม ไม่ว่าใครจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอ จะมีมันคอยสกัดให้ทุกครั้งไป
ผมรู้ว่าพลอยชื่นชอบการร้องและการเต้นมาก เธอเดินตามความฝันของเธอจนสำเร็จ เธอไม่เคยลดละความพยายาม แม้เธอจะมีพรสวรรค์แต่เธอก็มีพรแสวงด้วยเช่นกัน จึงทำให้เธอมาไกลได้ถึงขนาดนี้ และถึงแม้ผมจะเป็นคนขี้หวงขี้หึง แต่ผมก็ชื่นชมไปกับความสำเร็จของเธอตลอด
เธอไม่ได้เข้าเรียนเหมือนเด็กทั่วไป เธอแทบไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่น แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เข้าสอบตลอดจนจบมัธยมปลายเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ได้ เธอเป็นคนที่ขยันมากๆ ผมภูมิใจในตัวเธอมากจริงๆ
_____________________
