บทที่2
หลังจากที่เปียโนกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวจากอุบัติเหตุ
"พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ"
"มาแล้วเหรอลูก"
เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาถามลูกสาว ในสายตาของนิลภพเปียโนยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอ
รอยยิ้มของเปียโนฉีกขึ้นกว้างเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ เตียงผู้ป่วย นิลภพไม่ได้นอนพักที่ห้องพิเศษแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ตัวเขาไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนการรักษาตัวทำได้เพียงนอนพักที่ห้องผู้ป่วยรวมเท่านั้น
"หนูรีบกลับมากลัวพ่อจะเหงา"
"เหงาที่ไหนล่ะ ดูสิข้าง ๆ ก็มีแต่เพื่อน"
ชายวัยเกือบหกสิบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าตามร่างกายจะมีแต่รอยฟกช้ำก็ตามที
"แล้วคุณหมอบอกหรือเปล่าคะว่าจะให้พ่อกลับบ้านวันไหน"
"พ่อก็ไม่รู้แต่เห็นว่าพ่อต้อง x-ray อีกรอบ"
" x-ray ??"
คำพูดของพ่อทำเอาเปียโนชะงักเล็กน้อย เธอรู้ได้เลยว่าต้อง x-ray ส่วนไหนทว่าตอนนี้เธอยังไม่มีแม้เงินที่ต้องเตรียมผ่าตัด
"พ่อค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ"
เปียโนสาวเท้าออกจากเตียงผู้ป่วยมุ่งหน้าออกไปที่แผนกอายุรกรรมระบบประสาทและสมองเธออยากจะขอคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดหากจะผ่าตัดตอนนี้เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น
ใบหน้าสวยคมดวงตากลมโตเหมือนจะหวั่นวิตกมากมาย สองมือเรียวงามบีบกันแน่น
"ขอโทษนะคะ คุณพยาบาลหนูอยากพบคุณหมอค่ะ คือ...หนูเป็นลูกสาวนาย นิลภพ ค่ะ"
"สักครู่นะคะ"
เปียโนเธอยืนรอสักพัก คุณหมอเจ้าของไข้ก็เดินมาพบ ใบหน้าคุณหมอใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ยิ้มเล็กน้อยจ้องมองใบหน้าเด็กสาวด้วยความเอ็นดู
"สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูอยากจะขอเวลาเลื่อนการผ่าตัดออกไปสักนิดได้ไหนคะ ตอนนี้หนูยังไม่พร้อมเรื่องค่ารักษา"
"ได้ครับ แต่หมอก็ไม่อยากให้ปล่อยไว้นานเกรงว่ามันจะมีผลกระทบหลายด้าน หากเลื่อนก็อย่าให้มากกว่าหนึ่งเดือนนะครับ เพราะตอนนี้มันก็ไม่ได้ใหญ่มากหากปล่อยไว้นานมันจะโตมากกว่านี้อาจจะทำให้การผ่าตัดยากขึ้น"
"ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ"
หลังจากไปพบคุณหมอเจ้าของไข้มาแล้ว เปียโนเธอกลับมาที่เตียงผู้ป่วยอีกครั้งแม้ว่าภายในหัวจะแอบกังวลมากมายทว่าต่อหน้าพ่อแล้วเธอจำเป็นต้องฝืนยิ้มร่าออกมา
"ไปไหนมาลูก"
"อ้อ คือหนูแวะไปถามอาการพ่อเท่านั้นค่ะ อีกสองวันก็กลับบ้านได้แล้วนะ"
"ดีเหมือนกัน พ่อเองก็เบื่อโรงพยาบาลเต็มทีแล้วเอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ อันที่จริงพ่อก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รอยฟกช้ำตามร่างกายเท่านั้น"
นิลภพพูดพร้อมรอยยิ้มส่งให้ลูกสาว เปียโนเองก็ยิ้มรับแต่ภายในใจเธอแอบกังวลมากมายอยากจะให้พ่อได้ผ่าตัดเร็ววัน
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่นิลภพก็สั่งให้ลูกสาวกลับมาห้องพักไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเฝ้าให้ลำบากเพราะตัวเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก และยังพอช่วยเหลือตัวเองได้
ส่วนเปียโนเธอเดินทางกลับมาที่ห้องพักที่อาศัยอยู่กับพ่อ ใบหน้าของเธอดูจะเหนื่อยล้าเล็กน้อยตึกสูงตระหง่านนี้เป็นอพาร์ตเมนต์ระดับกลางภายในห้องไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์มากมายอะไร มีแค่ทีวีและของใช้จำเป็นที่วางอยู่ในห้องโถงและยังมีห้องนอนส่วนตัวแยกออกไปอีกห้อง นิลภพเลือกที่จะเช่าห้องแบบนี้เพราะคิดเห็นใจลูกสาว อย่างน้อย ๆ น่าจะมีห้องที่แยกออกเป็นส่วนตัว ส่วนราคานั้นสี่พันกว่าบาท ถือว่าแพงสำหรับเขาในตอนนี้ หากถามว่าทำไมถึงมีค่าเช่าได้จ่ายทุกเดือนเพราะเขาขายสมบัติที่เป็นของภรรยาที่ควรเก็บไว้ให้ลูกแต่เพราะความจำเป็นเลยต้องกัดฟันสละพื้นที่ต่างจังหวัดทิ้ง
"สำลี ฉันกลับมาแล้ว" เปียโนมุ่งหน้าไปอุ้มแมวตัวสีขาวสะอาด หน้าตาของมันน่ารักแสนรู้ เปียโนรับแมวตัวนี้มาเลี้ยงได้สองปีเพราะเห็นว่ามันน่าสงสารนอนขดตัวหนาวสั่นอยู่หน้าเซเว่นแถวบ้านจนตอนนี้แม้ว่าเธอจะไม่มีอะไรเหลือก็ยังอุตส่าห์หอบมันมาอยู่ห้องเช่าด้วย
หลังจากที่เปียโนอุ้มแมวตัวนั้นก็วางมันลงจัดการเทอาหารให้กินเรียบร้อยก่อนที่เธอจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปทำงานพาร์ตไทม์ร้านกาแฟแถวห้างเป็นรายได้เสริมที่ช่วยให้เธอได้มีเงินไปเรียนหนังสือ
ใบหน้าเรียวสง่างามสวมเสื้อผ้ารัดกุมดูเรียบร้อยก่อนที่เธอจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ในซอยให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อทำหน้าที่พนักงาน ไม่กี่อึดใจที่วินมอเตอร์ไซค์ก็ขับมาส่ง เปียโนรีบล้วงเงินในกระเป๋าให้จากนั้นก็เหมือนจะเร่งรีบเธอทั้งกึ่งเดินกึ่งวิ่งเมื่อมาถึงร้านก็รีบคว้าผ้ากันเปื้อนมาสวมใส่จังหวะนั้นเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น
ครืด ครืด
เปียโนรีบเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วกดรับสายเพื่อนของเธอ
"ว่าอย่างไรแมงเม่า?"
"เปียโนฉันโทรถามผู้จัดการให้แล้วนะ วันนี้ว่างหรือเปล่าพี่เขาอยากเจอ"
"วันนี้เลยเหรอ คือตอนนี้ฉันมาอยู่ที่ร้านแล้วน่ะสิ"
"ก็ลาสักวันซิ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนะหากแกอยากได้ค่าผ่าตัดพ่อฉันว่างานนี่มันน่าจะหาเงินได้เร็ว"
เปียโนเงียบไปสักพัก แม้ว่างานแบบนั้นเธออาจจะไม่ค่อยชอบทว่าเป็นทางเดียวที่เธอจะมีเงินเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลพ่อของเธอ เปียโนครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"งั้น ฉันจะลองดู"
เปียโนตัดสินใจลางานเจ้าของร้านด้วยเหตุผลที่พ่อเข้าโรงพยาบาลเธอไม่ได้บอกความจริงว่าจะไปที่ไหน กลัวว่าหากที่นั่นไม่เหมาะกับเธออย่างน้อย ๆ ก็มีงานที่นี่รองรับ
เปียโนเดินทางมาพบเพื่อนที่เลานจ์ขนาดใหญ่ ส่วนเจ้าของเป็นนักธุรกิจหนุ่ม ที่ชื่อเควินวัยสามสิบปี
"ยัยเปียทางนี้" แมงเม่ายืนรอเพื่อนที่หน้าร้าน เพื่อที่จะพาเปียโนไปพบผู้จัดการสาวที่ดูแลที่นี่แทนเจ้าของ ส่วนเจ้าของจะเข้ามาแค่ตรวจงานเท่านั้น
"ที่นี่?"
"เขาเรียกว่าเลานจ์ เป็นสถานที่สำหรับคนรวยชอบมาปาร์ตี้ เข้าไปข้างในกันเถอะ"
"......"
