บทที่3 ตอน พระคู่หมั่นของข้า
เหมยเหมยกับเถาเถากล่อมข้าอยู่นานเพื่อจะให้ข้ากลับจวน
' เอาวะ!! ไหนๆ ก็เป็นคนปัญญาอ่อนแล้วก็ค่อยหาวิธีกลับมาเป็นถานเอ๋อร์ทีหลังแล้วกัน '
" เหมยเหมยข้าอยากกินน้ำตาลปั้น " เมื่อข้าคิดว่าย้อนยุคมาแล้วก็คงไม่พ้นน้ำตาลปั้นหรอก
'นี่ยังต้องเรียนรู้หลายอย่างอีก ถ้ามีอินเทอร์เน็ตหรือสมาร์ตโฟนก็ดีหรอก' ข้าได้แต่คิดในใจมองดูทุกอย่างรอบๆ ตัว
" บ่าวจะไปหามาให้นะเจ้าคะ คุณหนูรออยู่กับอี้เถาตรงนี้นะเจ้าคะ " เหมยเหมยกำชับข้าเสร็จนางก็เดินออกไป
" ถือว่ามาพักร้อนยาวๆ แล้วกัน เฮ้อ! " ข้าถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ
เถาเถาคอยนั่งเฝ้าข้าเอาไว้ ทำอย่างกับข้าเป็นเด็กไปเสียได้
ไม่นานนักเหมยเหมยก็มาพร้อมกับน้ำตาลปั้นเป็นรูปอะไรก็ไม่รู้ กินๆ ไปเหอะ ตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้ว
ข้าเดินตามหลังพวกนางต้อยๆ ผู้คนมองข้ามากมายแต่ข้าหาได้สนใจ
" นั่นหรือลูกสาวคนเล็กตระกูลหลินน่ะ " ชายไว้หนวดหน้าแก่พูดขึ้น
" ใช่ๆ นางผู้นี้แหละที่เป็นคนโง่ " ชายหน้าโจรพูดขึ้นเสริม
" ข้าไม่ได้โง่เสียหน่อย!!! พวกคนปากมาก!! ไอ้ลิงหลอกเจ้า!!! " ข้าเผลอลืมตัวตวัดด่าคนพวกนั้นไป
ดีนะที่พวกเขาฟังคำหลังๆ ไม่รู้เรื่อง ไอ้เราก็ลืมไปว่าต้องแกล้งเป็นบ้า พอมาคิดดูแล้วก็ดันลืมตัวเสียได้
" คุณหนูอย่าไปฟังผู้อื่นพูดเลยเจ้าคะ คุณหนูของบ่าวไม่ได้โง่เสียหน่อย " เหมยเหมยพูดปลอบข้า
ข้าโมโหนิดหน่อยก็เดินกระฟัดกระเฟียดนำหน้าพวกนางไปหลายก้าว
เดินไปเดินมาไปชนเข้ากับเสาไฟ
ข้าเงยหน้ามองขึ้นไปกับพบชายสูงประมาณเกือบร้อยเก้าสิบได้
" ท่านหลินเจียงอ๋อง!! บ่าวขอประทานอภัยแทนคุณหนูของบ่าวด้วยเจ้าคะ " พวกนางรีบก้มลงแถบเท้า นั่งขอขมาอย่างนั้น
ข้าเดินถอยออกมาเพื่อดูหน้าตาของเขา
เขาหน้าตาเหมือนชายที่ข้าฝันมาหลายเดือน ตัวจริงกลับดูดีจนสรรหาคำมาบรรยายไม่ได้
ข้าตั้งสติทำท่าทางโกรธใส่เขา
" เจ้าเสาไฟฟ้า!!! สูงเสียขนาดนี้กลับมองไม่เห็นข้าหรือ!!! มองสูงนัก คอจะหักเสียเอา!!! " ข้าชี้หน้าต่อว่าเขา
" บังอาจยิ่งนัก!!! เจ้าพูดเช่นนี้ หัวคงไม่อยากรักษาไว้แล้วหรือกระไร!!! " เขาไม่พูดอะไรแต่อีกคนกลับดูโมโหยิ่งนัก
" ข้าพูดความจริง!! คนของท่านตัวสูงเยี่ยงเสาไฟฟ้า แต่กลับไม่มองต่ำลงมาดูคนเตี้ยอย่างข้า! "
ถึงจะสูงไม่เกินร้อยหกสิบก็เหอะ แต่ร่างกายนี้กลับเตี้ยและอ่อนแอกว่าร่างจริงของข้ามาก
" นี่เจ้า!!! " คนของเขากำลังจะพูด แต่กลับโดนเขาห้ามเอาไว้เสียก่อน
" เถาจื่อ... เถียงกับนักปราชญ์ยังได้ความรู้กลับมา เถียงกับคนโง่จะเสียเวลาเอาเสียเปล่า เจ้าคิดว่าคุ้มหรือ "
เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ปากยิ่งร้ายนัก
" หน้าตาท่านก็ดี เสียอย่างเดียว! ปากพูดไม่เข้าหู!! " ข้าก็ไม่อยากมายอมรับว่าเป็นคนบ้าหรอกนะ
" ท่านอ๋อง นางผู้นี้คือหลานสาวของท่านผู้เฒ่าหลินขอรับ นางปัญญาไม่ดีมาตั้งแต่เกิด " เถาจื่อรายงานท่านอ๋องของเขา
เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะไม่ได้ยินนะ ตอนนี้ข้าไม่ได้บ้าเสียหน่อย มันเป็นแค่การแสดง!! ได้แต่เจ็บใจนัก!
" อีกไม่นาน นางก็จะเป็นนายเจ้าอีกคนแล้ว เจ้าจะว่านางได้อย่างไรเถาจื่อ " เขาพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง สงบดั่งสุสานที่ให้ความรู้สึกเหมือนจะตาย
" เหมยเหมย ท่านผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? " ข้าหันไปถามนางและย่อตัวนั่งลง ถึงปกติจะเตี้ยอยู่แล้วพอนั่งแบบนี้ยิ่งเตี้ยไปใหญ่
" คุณหนูเจ้าคะ กลับไปที่จวนแล้วบ่าวจะบอกทุกอย่างเลยเจ้าคะ ตอนนี้คุณหนูกลับจวนกับบ่าวเสียก่อนเถิด " นางกล่อมข้าให้ข้ากลับจวน
ข้าลุกขึ้นยืนและหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง พร้อมกับยื่นน้ำตาลปั้นที่กินไปนิดเดียวให้กับเขา
" ข้าเสียมารยาทกับท่านแล้ว ถือเสียว่านี่เป็นคำขอโทษจากข้า ท่านจะรับหรือไม่ก็ตามใจ " กินยังไม่ทันไรก็รู้สึกเสียดายนิดๆ แฮะ
เขารับน้ำตาลปั้นไป แล้วก็เดินจากไป
" น้อมส่งท่านหลินเจียงอ๋อง " เหมยเหมย เถาเถา พูดจบนางก็พาข้ากลับจวน
' จวนตระกูลหลิน ' นามสกุลเหมือนเราเลยแฮะ
" น้องสามกลับมาแล้วหรือ... กลับเสียดึกดื่นเช่นนี้ ท่านพ่อจะลงโทษเจ้าได้ " ถ้าให้เดานางคงเป็นลูกช่างพูดแหละ
" เถาเถา นางคือใครหรือ " ข้าหันกลับไปถามเถาเถา
" คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ " นางตอบข้า ข้าหันไปยิ้มให้กับนาง
" ยิ้มอะไรของเจ้า!! " นางมองข้าด้วยความเคือง
" พี่ใหญ่... ท่านเกิดมาไม่เคยพูดหรือเจ้าคะ ข้าเดินเข้ามายังไม่ถึงสามก้าวท่านพี่ก็พูดยืดยาวเสียแล้ว
พูดมากจะไม่มีผู้ชายมาขอนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้สั่งสอนนะเจ้าคะ ข้าแค่เตือนท่านในฐานะน้องสาว " ข้ายิ้มให้กับนาง
" เสี่ยวถาน!!! เจ้าจะกำเริบใหญ่เกินไปเสียแล้ว!!! " นางขึ้นเสียงใส่ข้า แต่ข้าหาได้กลัวไม่
ข้าแกล้งทำเป็นอ่อนแอ ' ถ้าตัวเองในภพก่อนมาเห็นตัวเองในสภาพนี้คงแหวะน่าดู '
" ท่านพี่อย่าโกรธข้าเลย ข้าแค่เป็นห่วงท่าน ท่านพี่อย่าเข้าใจข้าผิดเลย " แกล้งบีบน้ำตา ทำตัวอ่อนแอ ช่างน่ะแหวะเสียจริง
เอาเถอะ ไม่รู้ว่าเสี่ยวถานเจออะไรมาบ้าง ในเมื่อมาอาศัยร่างนางก็ช่วยนางเสียหน่อย
" น้องสาม ปากของเจ้าพูดว่าหวังดี ความจริงเจ้าก็แค่อิจฉาข้าเท่านั้นแหละ!!! " นางพูดจบก็เข้ามาผลักข้า ทำให้ข้าล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
" ซู่หนาน!!! เจ้ากล้าทำร้ายเสี่ยวถานหรือ!!! " ท่านปู่เดินเข้ามาเหมือนกับโกรธนางมาก
" ท่านปู่!!! ไฉนท่านถึงปกป้องนางมากกว่าข้ากัน!! ข้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่แต่นางเป็นแค่ลูกคนสุดท้อง!!! " หนานหนานมองข้าด้วยความโกรธแค้นยิ่งนัก
ไม่ติดว่าข้าปัญญาอ่อนอยู่ข้าเดินไปต่อยหน้าเจ้าจมูกหักแน่หนานหนาน!
" เสี่ยวถานเจ้าเป็นอะไรหรือไม่ ให้ปู่ดูบาดแผลของเจ้าเสียเถิด " ท่านปู่ไม่ตอบคำถามนาง
" ข้าไม่เป็นอะไร ท่านปู่อย่าโกรธนักเลย ไม่ดีต่อสุขภาพของท่าน " ข้ารีบลุกขึ้นพยุงท่านปู่เอาไว้
" เจ้าดู!!! นางดีกับเจ้าขนาดนี้เจ้ากลับกลั่นแกล้งนางทุกวัน ดี!!! วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้า!!! เอานางไปโบยสามสิบไม้!!! " ท่านปู่โมโหสั่งให้บ่าวลงโทษนาง
" ข้าทำอันใดผิด!!! ท่านปู่ท่านลำเอียง!!!! " นางส่งเสียงโมโหวกเหวกโวยวายใหญ่
" โบยนางอีกยี่สิบไม้!!! ไม่ต้องผ่อนแรง!!! " ท่านปู่ยิ่งโกรธกว่าเดิม
" ท่านปู่โบยนางแค่สามสิบไม้ก็สมควรแล้ว อย่างลงโทษนางเพิ่มเลยเจ้าคะ " ข้าขอร้องท่านปู่ทันที ขืนท่านปู่โบยนางห้าสิบไม้ วันหลังนางไม่ฆ่าข้าหรือ
" เจ้าปกป้องนาง!!! เจ้าลืมแล้วหรือว่านางเคยแกล้งอะไรเจ้าน่ะ!!! " ท่านปู่ยิ่งอารมณ์เสียกว่าเดิม
" ท่านปู่เห็นแก่ข้าเถิด... ข้าจำได้ว่านางแกล้งข้าไว้อย่างไร ถ้าข้าไม่ดีต่อนาง นางก็จะไม่ดีต่อข้า " ข้าพยายามหาเหตุผลมาช่วยคนที่แกล้งข้า เจ้าหัดสำนึกไว้เสียบ้างหนานหนาน
