บท
ตั้งค่า

CHAPTER 5

อย่ามาใกล้กันจะดีกว่า

แดดในสนามแผดร้อนจนผิวฉันกำลังจะไหม้

โอเค...ฉันก็พูดเกินจริงไป

ว่าแต่ยูกิสะแพ้แดดใช่ไหมตอนนี้ถึงไปหลบใต้ต้นไม้? ในนิยายบอกว่าแวมไพร์แพ้แดดและกระเทียม

เดี๋ยวนะ...นี่ฉันจะห่วงเขาไปทำไมกัน?

“ว้าว ยูกิสะจับด้วงเจ็ดเขาได้เหรอ? สุดยอดไปเลย!” สาวๆ กรูเข้ารุมดูด้วงที่เขาถือไว้ในมือ

อ่อ...ที่เขาไปนั่งในร่มเพราะจะไปจับด้วงที่หลบแดดนั่นเอง

เรากำลังเก็บตัวอย่างแมลงกันอยู่ แสงแดดส่องสว่างเป็นประกายทำให้สนามหญ้าดูวาวระยิบระยับ

น่าแปลกที่แวมไพร์ไม่แพ้แดด หรือเขาจะใส่ครีมกันแดดแวมไพร์?

ที่น่าแปลกอีกอย่างคือทั้งที่บอกว่าเบื่อเรียนแต่พออยู่กลางแจ้งและได้ชื่นชมธรรมชาติแบบนี้ดูเขามีความสุขและสดชื่นต่างกับเวลาอยู่ในห้องเรียนลิบลับ

“อ๊ะ ผีเสื้อซาซาคิอะ ชารอนดะ!” ฉันไขว่คว้าผีเสื้อสีม่วงลายจุดขาวสวยที่บินผ่านมา ผีเสื้อสายพันธุ์นี้สง่างามจนได้ชื่อว่าผีเสื้อจักรพรรดิ

ฉันกำลังจะจับมันได้อยู่แล้วแต่ปีกบางกลับขยับบินผับๆ หนีสูงขึ้นไปเสียก่อน

“ฮึบ!” นี่ขนาดกระโดดแล้วยังคว้าไม่ถึงเลยอ่ะ! เสียดายจัง

“ไม่จับให้อ่อนโยนกว่านี้หรือไง?” ยูกิสะเห็นฉันเข้าก็เดินมาและยื่นมือออกไปหาผีเสื้อ “ผีเสื้อจะตกใจเอา”

“ก็ฉันกลัวจับมันไม่ได้นี่นา”

เมื่ออยากได้มากๆ บางทีก็ต้องใช้กำลังหรือความกระด้างบ้างมั้ย?

มือของยูกิสะที่ยืดขึ้นอยู่สูงกว่าฉันมากจนถึงระดับผีเสื้อ แต่ทั้งที่ตะครุบมันได้ในอึดใจเดียวเขากลับไม่ทำอย่างนั้น

ตรงกันข้าม...ผีเสื้อกลับบินต่ำลงๆ เหมือนบินไม่ขึ้นก่อนจะเกาะลงเหนือเรียวนิ้วยาวของเขาราวกับร่อนลงตอมน้ำหวาน

ดวงตาของฉันเบิกกว้าง

อา...นี่หรือพลังของแวมไพร์...!?

แม้จะทรงอำนาจราวกับเสียงคำรามทว่ากลับเลือกที่จะไร้เสียง แม้จะว่องไวทว่ากลับเลือกช้าและเนิบเหมือนอสรพิษที่เลื้อยเชื่องช้า กระนั้นกลับกล่อมแม้แต่สัตว์บอบบางและตกใจง่ายอย่างผีเสื้อให้เชื่องคามือ

น่าแปลกเหลือเกินที่ผีเสื้อปีกสวยหาได้หวาดกลัวเมื่อเกาะเรียวนิ้วนั้นทั้งที่เขาเป็นแวมไพร์

“เอ่อ...ขอบใจ” ฉันขอบคุณยูกิสะเมื่อเขายื่นผีเสื้อให้ฉันเก็บใส่กล่อง

ทันใดนั้นร่างสูงเริ่มโซเซเหมือนจะเป็นลมยังไงยังงั้น

“ยูกิสะนายเป็นอะไรไป? แพ้แดดเหรอ?”

“อา...รู้สึกแย่ชะมัด” ในที่สุดเขาก็เซถึงกับต้องอิงแผ่นหลังกับต้นไม้แล้วค่อยๆ ทรุดร่างลงไป

“ยูกิสะ!!??”

ที่นี่คือห้องพยาบาล

ยูกิสะนั่งอยู่บนเตียงโดยที่พยาบาลขอให้ฉันเป็นคนหยิบโคลด์แพ็คมาประคบหน้าผากให้เขา พยาบาลบอกว่าเธอติดธุระและกำลังจะต้องรีบกลับ

ใบหน้าของยูกิสะยิ่งดูคมคายอย่างประหลาดเมื่อได้มีเวลามองอย่างไม่มีสิ่งอื่นรบกวนแบบนี้

นี่นะหรือความงดงามของแวมไพร์? ในจินตนาการของมนุษย์ที่เขียนขึ้นเป็นเรื่องราวล้วนแต่เล่าถึงความสง่างามถึงขั้นน่าหลงใหลที่ใช้ล่อเหยื่อไปสู่ความตาย

ใครจะรู้ว่าเรื่องแบบนั้นไม่ใช่นิยาย การเผชิญหน้ากับแวมไพร์ตัวจริงได้เกิดขึ้นกับฉันแล้ว

“สรุปว่าแวมไพร์แพ้แดดสินะ แล้วยังทำเป็นเก่งออกไปกลางสนามอีก” ฉันอดบ่นไม่ได้เมื่อยูกิสะลืมตา เขาคงรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว

“แดดไม่ทำให้ฉันเดือดร้อนหรอกน่า” ดวงตาสีเทาเข้มเลื่อนจับเหนือใบหน้าของฉัน ริมฝีปากหล่อเหลายกยิ้มบางเบาที่ดูแอบร้ายทว่าสง่างามอย่างไม่น่าให้อภัย “เธอกลัวแดดมากกว่าฉันอีกไม่ใช่หรือไง?”

ฉันสะอึกก่อนกลบเกลื่อนด้วยการพูดออกไปเสียงดัง “ผู้หญิงก็ต้องกลัวดำป่ะล่ะ? ยังไงก็เหอะถ้าฉันถูกแดดอย่างมากก็แค่เกรียม แต่ในตำราบอกว่าถ้าแวมไพร์ถูกแดดแวมไพร์จะตาย”

น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย เกิดเป็นมนุษย์ดีกว่าเป็นไหนๆ

“นายจะตายได้เลยนะ” ฉันเสียงแผ่วลงด้วยความเป็นห่วง

“ฉันไม่ได้แพ้แดด” ยูกิสะยิ้มเอ็นดูในความเป็นห่วงของฉัน “แค่หิวไปหน่อยเท่านั้น”

“ห๊ะ!?”

ลืมสนิทเลย นี่เขาไม่ได้ดื่มเลือดฉันมาสองวันแล้วนี่ หนำซ้ำเขายังบอกด้วยว่าหลังจากลิ้มรสเลือดฉันแล้วก็อยากดื่มเลือดฉันคนเดียว

งั้นแสดงว่าเขาไม่ได้ไปล่าเหยื่ออื่นเลยงั้นสิ?

“ฉันหิวมากจนจะตายอยู่แล้ว”

“เฮือก! อ๊ะ...!?”

จู่ๆ มือแกร่งเคลื่อนมาล็อคข้อมือของฉันไว้ทั้งสองข้างโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ถึงจะตั้งตัวทันฉันก็คงสู้แรงของยูกิสะไม่ได้อยู่ดี

“ด...เดี๋ยวยูกิสะ...อื้อ...!”

ฉันถูกกดลงกับเตียงจนแผ่นหลังนาบกับฟูกก่อนที่ใบหน้าคมคายจะโน้มลงมาจนใกล้...

ใบหน้าที่ชวนหลงใหลราวกับยาพิษเคลือบน้ำตาลกำลังลอยอยู่เหนือลำคอของฉัน...ดูสง่างามราวกับมายาที่เย้ายวนให้เหยื่อลุ่มหลงและตะลึงงัน

ทว่าทั้งที่รู้ว่ามันเป็นกับดักอันตรายทำไมฉันถึงได้เหมือนถูกสะกดเอาไว้อีกครั้ง? ฉันเป็นเหมือนผีเสื้อตัวนั้นที่รู้ว่าหากร่อนลงบนเรียวนิ้วของเขาก็จะต้องถูกจับไป

แต่ฉันไม่ได้อยากเสียเลือด

“ม...ไม่...อย่าทำฉันเลย” ฉันหลับตาและตัวสั่น

ทว่าใบหน้าคมกลับชะงักหยุดก่อนถึงลำคอของฉัน นั่นทำให้ฉันประหลาดใจและลืมตาอีกครั้ง

ทำไมเขาถึงได้มองมาด้วยสายตาที่ร้อนระอุเช่นนั้น? 

ทันใดนั้นมือแกร่งข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นเคลื่อนกระตุกเสื้อของฉันจนกระดุมกระเด็นออก แว่วเสียงปลิดขาดของเส้นด้ายในห้องเงียบ

ปึ้ด!

ฉันเห็นบราเซียร์และเนินอกขาวจัดของตัวเองเคียงข้างมือแกร่งที่ทึ้งเสื้อฉัน ดวงตาสีภูผาหิมะเยือกเย็นพลันโชนประกาย

ความเหนื่อยล้าและอิดโรยในดวงตาแวมไพร์สลายหายไป

“อึก...ย...ยูกิสะ...อ๊ะ...!” 

สะดุ้งแผ่วเมื่อใบหน้าคมตวัดเลียผิวเปลือยเปล่าเหนือเนินอกของฉัน เขาลากปลายลิ้นร้อนชื้นจากริมหัวใจซ้ายสุดลงสู่ร่องอกฉันก่อนไล่ขึ้นไปตามเนินเนื้อบางแนบแนวตะเข็บบราเซียร์อีกด้าน

“แฮ่ก...อึก...!”

ฉันขนลุกซู่  ทั้งร่างสั่นเทิ้มเมื่อแวมไพร์เคลื่อนใบหน้าและรินรดลมหายใจแรงราวกับนักล่าต่ำลงไปจากบราเซียร์ส่วนล่าง...

ผิวเปลือยเปล่ากระตุกเมื่อริมฝีปากประดับคมเขี้ยวงับดูดดื่มใต้บราเซียร์ของฉัน...! 

“โอ๊ย...อ๊า...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel