บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองคนยิ้มให้กัน ก่อนที่กายจะเดินนำแพรทับทิมกับแก้มใสไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ พอคล้อยหลังได้ไม่เท่าไหร่ แก้มใสก็หันมากระซิบกระซาบกับแพรทับทิม

“เพิ่งรู้ว่าลูกศิษย์วัดที่นี่หล่อยังกับนายแบบ อยู่มาตั้งเป็นอาทิตย์ ทำไม๊...ทำไมถึงไม่เจอก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้”

“นี่ที่แกยืนแข็งทื่อ เพราะมองผู้ชายอยู่เนี่ยนะ”

“อื้อ…ก็เขาหล่อ”

“สำรวมหน่อยยัยแก้ม เพิ่งสึกพราหมณ์มาหยกๆ นี่ม่อผู้ชายแล้วเหรอยะ..ห๊า!” แพรทับทิมแหวใส่เพื่อนสนิท ที่หูตานั้นแพรวพราวจนน่าหมั่นไส้ รู้หรอกว่าชอบคนหล่อและผู้ชายตรงหน้าก็ตรงสเปคไม่น้อย แต่นี้มันในวัด

“ว่าแต่เขาชื่ออะไรนะ”

“กายมั้ง ถ้าฟังไม่ผิด” แพรทับทิมตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่กลับถูกแซวกลับ

“เออ…ใช่ๆ ว่าแต่นี่แกจำชื่อเขาได้ด้วยเหรอ”

“เอ้า! ก็ชื่อเขามันจำง่ายออก มีพยางค์เดียวด้วย เพราะถ้าชื่อพิสดารๆ ใครจะไปจำได้” เอ่ยจบก็ส่ายหน้าให้คนข้างๆ ที่คิดอะไรไปเรื่อย กระทั่งเดินมาถึงรถ

“เชิญครับ”

“ขอบคุณค่ะ” คนที่รีบขอบคุณแล้วเปิดประตูก้าวเข้าไปนั่งหน้าคนขับคือแก้มใส ส่วนแพรทับทิมนั้นนั่งอยู่เบาะหลัง

กายเข้าไปนั่งในรถเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะขับออกไปจากวัดที่ตอนนี้เริ่มมืดสนิทลงไปทุกที ระหว่างทางแก้มใสก็ชวนเขาคุยนั่นนี่ ซึ่งมันก็ช่วยฆ่าเวลาได้มาก ถามไถ่กันไปมาจึงได้รู้ว่าแต่ละคนชื่ออะไรกันบ้าง พอใกล้ๆ จะลงทางด่วน กายก็สอบถามพิกัดที่ทั้งคู่จะให้เขาไปส่ง โดยแพรทับทิมให้เขาไปส่งเธอกับแก้มใสที่บ้านของแก้มใสที่เดียวพอ

“ขอบคุณมากนะคะคุณกาย ที่อุตส่าห์แวะมาส่งเราสองคน”

“ยินดีครับ” เสียงทุ้มของพลขับกิตติมศักดิ์เอ่ยรับแก้มใส ก่อนที่เขาจะแยกตัวกลับไป โดยมีแก้มใสโบกไม้โบกมือลาอยู่หน้ารั้วบ้าน แม้รถของกายจะเลี้ยวออกจากซอยไปแล้ว แก้มใสก็ยังไม่ยอมลดมือลง

“เข้าบ้านได้ยังยะ ฉันถูกยุงกัดจนจะเป็นไข้เลือดออกได้แล้วเนี่ย”

“เออ…โทษที มัวแต่ส่งผู้ชายจนลืมตัว”

“ย่ะ” แพรทับทิมเอ่ยรับทิ้งหางเสียง พร้อมกับส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท ในรถสองคนนี้คุยกับออกจะถูกคอ ส่วนเธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายนั่งฟังเงียบๆ พอ

“คืนนี้แกจะนอนค้างกับฉันไหม” พอเข้ามาในบ้านได้ แก้มใสก็เอ่ยถาม

“คงไม่อ่ะ ฉันอยากกลับไปนอนบ้าน”

“แกไหวแน่นะแพร”

“ไหวสิ ฉันยังหายใจอยู่ ก็ต้องสู้ต่อสิแก แม้ฉันจะ…” ยังไม่ทันที่แพรทับทิมจะได้พูดจบประโยค เสียงของแก้มใสก็แย้งขึ้น

“แกห้ามพูดว่าไม่มีใคร เพราะแกยังมีฉันกับไอ้ปุณ ที่รายหลังนี่บางวันมันจะพึ่งพาอะไรไม่ได้มากก็ตาม พูดถึงมันแล้วยังโกรธไม่หาย”

“ขอบใจนะแก้ม”

“อื้อ…ว่าแต่แกตัดสินใจเรื่องนั้นได้ยัง” เรื่องนั้นที่ว่า แพรทับทิมรู้ว่ามันคือเรื่องอะไร เธอแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ได้แล้ว”

“จะเทหรือจะทำต่อ”

“ทำต่อ” คำตอบของแพรทับทิมทำเอาแก้มใสตาโตเป็นไข่ห่าน แววตานี่วิ้งๆ บอกไม่ถูก

“หูย…แบบนี้ฉันขอเป็นแขกระดับวีไอพีได้ไหมอ่ะ แบบอยากจะลองเป็นผู้หญิงที่มีหนุ่มหล่อๆ ล้อมหน้าล้อมหลังดูบ้าง มันคงฟินมากแน่ๆ” แก้มใสยิ้มกริ่ม สงสัยจริงๆ ว่าการที่เธอจะไปเป็นแขกระดับวีไอพีที่คลับโฮสต์ ต้องมีเงินสักเท่าไหร่ อาจเทหมดบัญชี แต่ขืนทำแบบนั้นมีหวังที่บ้านได้ไล่เธอออกจากกองมรดกกันพอดี

“ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาเลย ไม่รู้หรอกว่าจะหล่อหรือไม่หล่อ”

“โอ๊ย! ผู้ชายที่มาเป็นโฮสต์มันต้องหล่อ ต้องมีซิกแพค กล้ามมันต้องแน่นๆ อยู่แล้วแก ไม่งั้นบรรดาสาวๆ จะเปย์ให้เหรอ เพราะโฮสต์ต้องใช้หน้าตาทำงาน เหมือนพวกนายแบบนั่นแหละ” พูดไปแก้มใสก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไปด้วย เพราะกำลังจินตนาการถึงตัวเองนั่งอยู่ท่ามกลางหนุ่มหล่อขี้เอาอกเอาใจ

“แกนี่รู้ดีกว่าฉันซะอีก เคยไปเปย์โฮสต์ที่ไหนมาป่ะเนี่ย” คำถามของแพรทับทิมทำเอาแก้มใสถึงกับสะดุ้งแล้วรีบแก้ต่างให้ตัวเองจนลิ้นแทบจะพันกัน

“เคยที่ไหน กะจะเปิดซิงที่คลับแกเนี่ยแหละ”

“คลับของฉัน” แพรทับทิมเอ่ยทวนประโยคที่ก่อนหน้านี้มันไม่เคยอยู่ในสมองมาก่อน เธอรู้ว่าพี่สาวเปิดคลับโฮสต์ แต่ก็ไม่เคยเข้าไปสักครั้ง ไม่ใช่เพราะถูกห้าม แต่เพราะไม่อยากเข้าไปเองต่างหาก ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง เธอจะได้เป็นเจ้าของมัน

“ใช่…คลับโฮสต์ของแก” แก้มใสเติมคำให้เต็มรูปแบบเสียหน่อย

“ไม่คิดไม่ฝันเลยใช่ไหม ว่าวันหนึ่งฉันจะมาเป็นเจ้าของคลับโฮสต์ งานที่ฉันรู้ว่ามันมีแต่ก็ไม่เคยสนใจ กระทั่งพี่พลอยเสียแล้วฉันต้องเข้าไปสานต่อ” พอพูดถึงพี่สาว น้ำตาของแพรทับทิมก็พลันเอ่อ เธอรู้ว่าคลับโฮสต์คือทุกอย่างของพี่ และที่เรามีทุกอย่างได้วันนี้ก็เพราะที่นั่น

แม้บางคนจะมองว่าที่นั่นไม่ดี มอมเมา แต่เธอก็จะสานต่อสิ่งที่พี่สาวทิ้งไว้ให้สักตั้ง ผลจะออกมาเป็นยังไงก็ค่อยว่ากัน ขอแค่เธอได้พยายามเต็มที่ ก็จะไม่เสียใจเด็ดขาด

“อย่าเศร้าๆ เดี๋ยวฉันพลอยเศร้าไปด้วย เราต้องยิ้มสู้สิแก” คำพูดของแก้มใสทำให้แพรทับทิมยิ้มตามไปอีกคน

“อื้อ…ยิ้มสู้ งั้นฉันกลับก่อนนะ”

“ขับรถดีๆ ถึงบ้านแล้วโทรมาหรือไลน์หาฉันด้วย”

“ได้” แพรทับทิมพยักหน้ารับ แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูเข้ารถที่จอดอยู่ข้างๆ รถอีกคันก็แล่นมาจอดปิดทางเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว และคนที่โผล่มาตอนนี้คือคนที่ลืมไปรับทั้งคู่ที่วัดนั่นเอง

“เอ๊ะ!…นั่นมันรถไอ้ปุณนี่นา หึ๋ย! มาอะไรตอนนี้ยะ”

“แพร แก้ม เราขอโทษ พอดีเราละ…” พอลงจากรถมาได้ ปุณก็รีบขอโทษพร้อมกับจะบอกเหตุผล แต่ก็ถูกแก้มใสขัด

“ลืม…แกจะบอกว่าลืมไปรับฉันกับแพรเนี่ยนะ แกรู้ไหมว่าฉันสองคนรอแกกี่ชั่วโมงกัน ฉันกับแพรเดินจงกรมรอแกจนเกือบจะเดินถึงเชียงรายอยู่แล้ว แค่นั้นยังไม่พอยังรอจนเกือบจะต้องนอนที่วัดต่ออีกคืน เพราะไอ้ความขี้ลืมของแก ดีแค่ไหนที่หลวงพ่อวานให้ลูกศิษย์ท่านมาส่ง ไอ้ปุณ ไอ้สมองยุง” แก้มใสเอ่ยยาวเป็นหางว่าว ยาวชนิดที่ว่าปุณได้แต่ยืนฟังตาปริบๆ สำนึกผิดไม่ทัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel