บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 แสดงตัว

เวลา 09.30 น.

ตอนนี้เลยเวลาทำงานมาแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่นิวเยียร์ยังไม่ถึงที่ทำงาน

“นิวเยียร์ยังไม่มาเหรอ?” เมเม่เอ่ย

“ยังไม่เห็นเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวลองโทรตามดูก่อน บางทีอาจจะรถติดก็ได้ค่ะ เช้านี้ฝนตกหนักด้วย” เหมยตอบ

“ไม่งั้นวันนี้เราจะปล่อยข่าวไม่ทันนะ เพราะรูปอยู่ที่นิวเยียร์หมดเลย” เมเม่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด

“ได้ค่ะ พี่เม่ เดี๋ยวเหมยจะรีบโทรตามให้นะคะ”

“อ้อ! เหมย เธอรู้จับกับเตชินทร์ด้วยเหรอ?” เมเม่หันมาถามเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนได้

เหมยดูอ้ำอึ้งเล็กน้อย เรื่องนี้เธอไม่ได้อยากเอามาเล่าให้ใครฟัง แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นต่อหน้าเจ้านายของเธอ แล้วเมื่อคืนเจ้านายเธอก็ออกตัวปกป้องขนาดนั้นด้วย จึงตัดสินใจเล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างเธอกับเตชินทร์ให้เมเม่ฟัง

“ไม่เป็นไร ถ้าเธอลำบากใจก็ไม่ต้องพูดก็ได้ แต่หวังว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบกับงานที่เธอรับผิดชอบก็พอ” เมเม่ทำหน้าเข้าใจ

“ฉันเล่าให้พี่เมเม่ฟังได้ค่ะ เพียงแต่..ฉันอยากให้พี่ช่วยบางอย่างฉันด้วย” แววตาเธอมีความอ้อนวอน

“เธอจะให้พี่ช่วยอะไร?”

“หากเตชินทร์มาถามหาฉันที่นี่ ขอให้พี่บอกเขาว่าฉันลาออกไปแล้ว”

“ได้ แต่เธอต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังนะ จะได้รู้ว่ามันใหญ่โตแค่ไหน พอที่จะให้ฉันออกตัวปกป้องเธอจนสุดความสามารถหรือไม่”

“ค่ะ” เหมยพยักหน้าแล้วเล่า “เตชินทร์เป็นพ่อของเนวาค่ะ ฉันกับเขาเคยคบกันตอนเรียนมัธยมปลาย แล้วเลิกกันตอนที่เขาได้เดบิวต์เป็นศิลปินก่อนที่จะเรียนจบ 3 เดือนค่ะ”

“เตชินทร์กับเธอเคยเป็นแฟนกัน! แล้วยังเป็นพ่อของเนวาด้วย!” เมเม่ตกใจมาก “แล้วทำไมตอนที่พี่มอบหมายงานนี้ให้ เธอไม่ปฏิเสธล่ะ?”

“เหมยไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานค่ะ อีกอย่าง กลัวว่าพี่เม่จะลำบากใจด้วย”

เมเม่รู้สึกเห็นใจ “แกจะคิดแบบนี้ไม่ได้นะเหมย หากพนักงานของฉันทำงานแล้วไม่มีความสุข พวกเขาก็อยู่ที่นี่ได้ไม่นาน หากพวกเธอเจองานไหนที่ได้รับมอบหมายแล้วรู้สึกว่ามันลำบากใจจริงๆ ก็แจ้งพี่ได้ พี่จะไม่บังคับแน่นอน เธอยังจำวิสัยทัศน์ของการทำงานที่นี่ได้ไหม?”

“ทำงานอย่างมีความสุข สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานด้วยรอยยิ้ม อยู่กันฉันพี่น้อง ไม่แยกแยะสูงต่ำ” เหมยเอ่ย

“ใช่ ดังนั้นเธออย่าเก็บเรื่องทุกอย่างเอาไว้คนเดียว เพื่อนที่ทำงานทุกคนล้วนรับฟังเธอปัญหาของกันและกันได้ อีกอย่าง กฎของบริษัทเราก็มีเหมือนกันว่าจะไม่นำปัญหาของเพื่อนร่วมงานไปนินทาข้างนอกเด็ดขาด ทุกคนต้องรักกันและช่วยเหลือกัน ทำให้ที่นี่เหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ทุกคนถึงจะทำงานอย่างมีความสุขได้”

เหมยยิ้มอย่างตื้นตัน เจ้านายของเธอใจดีที่สุด

“ฉันอยากให้พี่ปกปิดที่อยู่ของฉันกับเนวาด้วยค่ะ”

“ทำไมต้องปกปิดที่อยู่ด้วยล่ะ?” เมเม่เกิดความสงสัย เตชินทร์คงไม่ตามทำร้ายเธอใช่ไหม?

“ฉันไม่อยากให้เขารู้การมีอยู่ของเนวาค่ะ เราอยากใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกอย่างมีความสุขมากกว่าค่ะ”

“แต่สิ่งที่พี่เห็นเมื่อคืนมันไม่น่าจะใช่นะเหมย พี่รู้ว่าเธอยังเจ็บปวด เตชินทร์ก็เหมือนกัน เธอจะไม่อยากเจอเขาอีกเลยจริงเหรอ? ไม่ต้องการให้เขารู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของเนวาจริงเหรอ?”

“ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกจริงๆ ค่ะ เมื่อคืนเขาพยายามขอโทษฉัน และอยากกลับมาคบกันเหมือนเดิม หากเขารู้การมีอยู่ของเนวาก็ยิ่งไม่ยอมแพ้แน่นอน พี่ก็รู้ว่าฐานะเขาตอนนี้เป็นยังไง ฉันไม่อยากให้ชื่อเสียงของเขาส่งผลกระทบกับเนวา” เหมยอธิบายอย่างจริงจัง

“แล้วเพราะอะไรทำไมเธอทั้งสองถึงเลิกกันล่ะ?”

“ตอนนั้นเขาได้เดบิวต์เป็นนักแสดง เพื่อชื่อเสียงและเงินทองเขาก็บอกให้เราอยู่ห่างกันสักพัก จะไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยไม่ได้อีก จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าเขากำลังมีกระแสคู่จิ้นกับนักแสดงร่วมสังกัด หลังจากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อฉันมาอีกเลย จนผู้จัดการส่วนตัวของเขามาหาฉันแล้วบอกให้เลิกยุ่งกับเขาอีก บอกว่าเขาคบกับดาราสาวคนนั้นแล้ว เพียงแต่ไม่กล้าโทรมาบอกเลิกฉันเท่านั้น”

“ทำไมเธอไม่บอกเรื่องที่เธอท้องให้เขารู้ล่ะ เขาควรมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบนะ” เมเม่เริ่มหัวร้อน

“ฉันพยายามเข้าหาเขาหลายครั้งแล้ว แต่การจะเจอเขาได้มันไม่ง่ายเลย เบอร์โทรเขาก็เปลี่ยนใหม่อีก”

“แล้วทำไมเธอไม่แสดงตัวไปเลยล่ะ ประกาศให้คนทั้งประเทศได้รู้ไปเลย” เมเม่เอ่ยอย่างอารมณ์ร้อน ยิ่งฟังยิ่งโมโหผู้ชายแบบนี้

“ตอนนั้นฉันรักเขามาก ไม่อยากทำลายอนาคตของเขา และตอนนั้นก็ยังรู้สึกดีที่ได้เห็นเขามีความสุขด้วย”

“ปล่อยให้ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้นมีความสุข โดยที่ตัวเองต้องเป็นทุกข์และเสียใจอยู่คนเดียวเนี่ยนะ”

“ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่นี่คะ ยังไม่รู้ถึงความลำบากที่ต้องดิ้นรนสู้เพื่อลูกในท้องเพียงลำพัง หากเป็นตอนนี้เหรอ ฉันไม่มีทางปล่อยให้เขาเฉิดฉายอย่างมีความสุขแบบนี้หรอกค่ะ จะมาเปิดตัวตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว จากที่กระแสจะโจมตีเขา ก็จะหันมาโจมตีฉันแทนมากกว่า ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้วพึ่งจะมาเรียกร้อง ดรามาได้โจมตีฉันจนไม่กล้าออกไปไหนแน่นอนค่ะ” เหมยเริ่มใส่อารมณ์

“ได้ งั้นเดี๋ยวพี่จะแจ้งฝ่ายบุคคลให้” เมเม่เข้าใจและเห็นใจ

คฤหาสน์ของฌอร์น

เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะไปทำงานสายแล้ว นิวเยียร์รีบลุกขึ้นแต่งตัวแล้วออกจากบ้านของฌอร์นทันที ปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้ตัวว่าคนตัวเล็กได้ออกจากบ้านไปแล้ว เธอออกมาโบกรถแท็กซี่แล้วตรงไปบริษัทอย่างรีบร้อน

“พี่เมเม่ได้ฆ่าฉันตายแน่” หญิงสาวพึมพำ ภาวนาขอให้เวลาหยุดเดินสักหนึ่งชั่วโมง

เมื่อมาถึงหน้าสำนักงาน นิวเยียร์รีบวิ่งสี่คูณร้อยเข้าลิฟต์อย่างเร่งรีบ จนมาถึงหน้าห้องทำงานของเมเม่ เธอจัดเสื้อผ้าแล้วขออนุญาตเข้าไป

“ขอโทษที่มาสายค่ะ” หญิงสาวยิ้มแหย๋

เมเม่นั่งกอดอก “อธิบายมาสิว่าทำไมถึงมาสาย”

“คือว่า….” เธออ้ำอึ้งเหมือนจะอธิบายไม่ได้

“ไม่เป็นไร ตอนนี้แค่ส่งรูปมาให้พี่ในอีเมลด่วนเลย” เมเม่ไม่อยากรอช้า

“เอ่อ….คือออออ…..”

“อย่าบอกนะว่าลืมเอามา!” เมเม่ขมวดคิ้ว เมื่อเห็นนิวเยียร์นิ่งก็โมโห “นิวเยียร์!”

หญิงสาวแทบทำตัวไม่ถูก เป็นเพราะเขาคนเดียวเลยที่ทำให้เธอโดนดุแบบนี้

ระหว่างนี้เหมยก็เปิดประตูห้องเข้ามา “เยียร์ ทำไมแกพึ่งมา?” เหมยสำรวจมองชุดที่เพื่อนใส่ตอนนี้ มันเป็นชุดเมื่อคืนไม่ใช่เหรอ?

“เหมย เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังนะ” นิวเยียร์กระซิบ

เมเม่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “นั่งลง!” เธอสั่ง

นิวเยียร์นั่งแล้วมองหน้าผู้จัดการอย่างหวาดหวั่น ปกติเธอไม่เคยถูกเมเม่ดุเลย พอโดนเข้าก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน

“เหมย ขอเครื่องดื่ม M100 ให้นิวเยียร์ขวดหนึ่ง” เมเม่เอ่ย ดูจากสภาพของลูกน้องตอนนี้แล้วรู้สึกรับไม่ได้ ไม่กระปรี้กระเปร่าเอาเสียเลย

“ค่ะ” เหมยรับคำสั่งแล้วออกไปหยิบเครื่องดื่มในตู้เย็นมาให้เพื่อนสาว

“ขอบคุณค่ะบอส” นิวเยียร์ยิ้มอย่างเขินอาย

“นั่งพักก่อน แล้วค่อยกลับไปเอากล้องมา” เมเม่ถอนหายใจ

“คือว่า….”

ก๊อก! ก๊อก!

“ขออนุญาตค่ะบอส” แนนเปิดประตูเข้ามาแล้วยิ้ม

นิวเยียร์สูดหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะอธิบายให้เมเม่ฟังอยู่แล้วแต่ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน

“มีอะไรเหรอ?” เมเม่ถาม

“มีแขกมาขอพบค่ะ”

“ใคร?” เมเม่สงสัย

“ฉันเอง” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ก็ปรากฏร่างของฌอร์นที่ผลักประตูจนสุดแล้วเดินเข้ามาอย่างสง่า

“ฌอร์น?” เมเม่ดูแปลกใจแล้วยืนขึ้นต้อนรับแขกพิเศษ

“ไม่เจอกันนานเลยนะ เมเม่” ฌอร์นเอ่ยทักทาย

เมเม่ยิ้มแล้วหันไปสั่งนิวเยียร์ที่นั่งตัวแข็งทื่อ

“นิวเยียร์ พี่ขอที่นั่งให้คุณฌอร์นหน่อยสิ”

นิวเยียร์ลุกออกจากเก้าอี้ที่นั่งแล้วขยับไปยืนอยู่ข้างๆ

“นั่งก่อนสิ ฌอร์น” เมเม่เชิญ

“ขอบใจ แต่ฉันมาที่นี่เพื่อเอาของมาส่งให้เท่านั้น” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมวางกล้องลงบนโต๊ะทำงานของเมเม่ “ขอโทษที่ทำให้เธอมาสาย เป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้เธอเหนื่อย อย่าโทษเธอเลย” เขาเอ่ยพร้อมโอบเอวบางมาประชิดข้างกาย

“อ้อ..เหรอ..” เมเม่พยักหน้าช้าๆ ยังอยู่ในอาการตะลึง

“ฉันไม่ได้แตะต้องข้อมูลข้างใน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีความลับรั่วไหล” เขาบอก เพราะการเป็นนักข่าวข้อมูลถือว่าสำคัญมาก ไม่สามารถเปิดเผยหรือปล่อยให้หลุดออกไปได้แม้แต่น้อย จึงต้องอธิบายเพื่อความสบายใจ

นิวเยียร์ยืนตัวแข็งทื่อ ตอนนี้เธอเหมือนคนเป็นใบ้และเป็นเหมือนขอนไม้ท่อนหนึ่ง

“ตอนนี้ก็เอาของมาส่งคืนให้แล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ฝากทักทายไรอั้นด้วย” เขาเอ่ยลากับเมเม่

“ค่ะ ขอบ..ขอบคุณ” เมเม่ยังตะลึงไม่หาย

ชายหนุ่มกระซิบข้างหูคนที่ยืนแน่นิ่ง “เธอต้องมีอะไรตอบแทนให้ฉันนะ แล้วฉันจะเรียกชดเชยภายหลัง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

หลังจากที่ฌอร์นจากไปแล้ว นิวเยียร์ก็เริ่มรู้สึกร้อนรนเมื่อถูกสายตาหลายคู่จับจ้อง

“นิวเยียร์! พี่ต้องการคำอธิบาย!” เมเม่เอ่ยอย่างจริงจังพร้อมใคร่รู้

*******

...อิมาเฟียมันร้าย มันแผนสูงม๊ากกกกก

...อยากแสดงตัวแหละ ดูออกนะจ้าาาาาาาา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel