CHAPTER 8 เก็บอาการหน่อย
Meen Talk
ฉันตอบไลน์ทั้งของไอ้มาวินและของพี่ปืนไปแล้ว และนั่งเล่นนั่นเล่นนี่ให้ตัวเองลืมความเศร้าอยู่เกือบชั่วโมง เพราะนอนไม่หลับ พอกำลังจะทิ้งตัวนอน จู่ ๆ ก็มีคนโทรเข้ามาหาฉันซะก่อน พอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์นั้นอีกแล้ว
“ฮัลโหลค่ะ”
(กลับบ้านทำไมไม่บอกพี่) ปลายสายตอบกลับมา
“พี่มาร์ติน?”
(ก็ใช่น่ะสิ แล้วนี่บ้านอยู่ไหน พี่จะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ)
“พี่จะบ้าเหรอ นี่มันดึกแล้วนะ พี่จะมาทำไม? แล้วอีกอย่าง...เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักหน่อย” ฉันเสียงแผ่วในประโยคสุดท้าย มันเจ็บนะ…แต่ฉันก็ต้องยอมรับมันให้ได้สิ เพราะมันคือความจริงและเป็นสิ่งที่ฉันเลือก
(ไม่เป็นเหรอ? แล้วเมื่อคืนมันคือไรวะ?) ใจฉันอ่อนยวบทันทีที่พี่มาร์ตินตอบกลับมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง
“มันก็แค่ความฝัน...พี่ไม่ต้องคิดถึงมันอีกก็ได้” หากฉันความสำคัญจริง วันนี้เขาคงไม่ทิ้งฉันไปแบบนี้หรอก
(มันไม่ใช่ความฝันเว้ย มันคือความจริง ความจริงคือมีนเป็นเมียพี่) หัวใจฉันมันเหมือนพองโตขึ้นมาอีกครั้ง และไม่รู้ทำไมจู่ ๆ น้ำตาฉันก็ไหลออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากปากพี่มาร์ติน
(พี่ขอโทษที่เมื่อเช้าพี่ออกโดยไม่บอกมีน แต่พี่มีเหตุผล)
“.....”
(พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งมีนนะ..พี่ต้องรับผิดชอบ)
“ถ้าพี่มองว่ามันคือความรับผิด ก็อย่าเลย…”
(มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะมีน)
“แล้วมันคืออะไร?”
(มาหน้าบ้าน พี่รออยู่)
“อะไรนะ?” ได้ยินแค่นั้นฉันก็เด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเปิดผ้าม่านดู ก็พบว่ามีรถคันนึงจอดอยู่ที่รั้วหน้าบ้านจริง ๆ และผู้ชายที่ยืนอยู่ที่ประตูรั้วคือพี่มาร์ติน
(ลงมาเปิดประตูให้พี่สักที ยุงมันกัด)
“อื้อ ๆ ”
ฉันกดวางสาย ก่อนจะรีบวิ่งลงไปที่หน้าบ้านแล้วเปิดกดเปิดประตูรั้ว พี่มาร์ตินยืนมองฉันยิ้ม ๆ ก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอดซึ่งฉันเองก็กอดพี่มาร์ตินตอบเช่นกัน
“ที่บอกว่าไม่ใช่แค่นั้นมันแค่ไหนเหรอ?” ฉันถามหลังจากที่พี่มาร์ตินผละตัวออกไป
“พี่ว่าพี่ชอบมีน”
เหมือนมีใครเอาไม้หน้าสามมาฟาดหน้าฉันอย่างจัง หน้ามันชาไปหมด ฉันมองหน้าพี่มาร์ตินแบบอึ้ง ๆ มันเกินคาด…เกินฝันจริง ๆ
“และนี่คือความจริง อย่าคิดว่ามันคือความฝันอีกล่ะ”
“ถึงมันจะเป็นความจริง แต่มันก็เหมือนความฝันเลยอ่ะ ฮือ ๆ ” ฉันตอบออกไปทั้งน้ำตา หลังจากที่เงียบไปนาน ไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะมีวันนี้ ฉันเฝ้ามองพี่มาร์ตินแบบนี้มาตลอดสามปี ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งพี่มาร์ตินจะมายืนตรงนี้และพูดกับฉันแบบนี้
“ไม่ร้องไห้สิเด็กขี้แย…” ไม่พูดเปล่า พี่มาร์ตินดึงฉันเข้าไปกอดแล้วลูบหัวฉันเบา ๆ เป็นเชิงปลอบ
“ก็จะไม่ให้ร้องได้ไงเล่า ก็คนมันดีใจ” ฉันพูดเบา ๆ เสียงอู้อี้แล้วก็ซุกหน้าลงกับอกอุ่น ๆ ของเขาอย่างเขินอาย กลิ่นหอมที่คุ้นเคยมันโคตรดีต่อใจ
แล้วจะกลับเมื่อไหร่?” พี่มาร์ตินเอ่ยถามแล้วก้มมองหน้าฉัน
“เปิดเทอมอ่ะ” ฉันผละออกแล้วเงยหน้ามองพี่มาร์ตินยิ้ม ๆ พี่มาร์ตินเองก็ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาที่แก้มให้ฉันเบา ๆ
“นานจังวะ งี้ก็คิดถึงแย่”
“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้พี่หนีหนูไปเมื่อเช้าล่ะ”
“พี่ขอโทษครับ” พี่มาร์ตินพูดออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมกับจับมือของฉันไว้
“อื้อ..รู้แล้ว”
“ไม่ถามหน่อยเหรอว่าพี่มาบ้านเราถูกได้ไง” พี่มาร์ตินถามต่อและฉันก็ส่ายหน้าแทนคำตอบทันที
“ไม่อ่ะ พี่คงตามจีพีเอสมาใช่ป่ะ?”
“ฉลาด”
“แน่นอน”
“งั้นพี่กลับก่อนนะ” พี่มาร์ตินยิ้มและยกมือมายีหัวฉันเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยลาด้วยสีหน้าเศร้าลงนิด ๆ ไม่นิดหรอก ตอนนี้ฉันเศร้ามากเลยแหละ
“ไม่อยากให้กลับเลย…” ฉันตอบกลับไปเสียงแผ่วแล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเอง
“จะให้พี่นอนที่นี่หรือไง? เดี๋ยวคนอื่นเค้ารู้เข้าเขาจะมองเราไม่ดีนะ” พี่มาร์ตินตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็ช่างเขาสิ”
“ไม่งอแงสิ”
“อ่ะ แฮ่ม!”
เสียงกระแอมกระไอดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ฉันกับพี่มาร์ตินผละออกจากกัน แล้วหันไปมองคนมาใหม่ทันที และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ป๊าฉันเองแหละ ไม่รู้ลงมาตอนไหน…
“ปะ..ป๊ายังไม่นอนอีกเหรอคะ?”
ได้ยินแบบนั้นพี่มาร์ตินจึงยกมือไหว้ป๊าของฉันทันที สีหน้าพี่มาร์ตินดูกังวลเล็กน้อย เมื่อป๊าของฉันมองพี่มาร์ตินอย่างจับผิด แหงสิ..ก็ป๊าหวงฉันมาก ๆ
"ก็ลูกสาวป้าวิ่งออกมาจากบ้านกลางดึกแบบนี้ ป๊าก็เลยตามออกมาดู” ป๊าตอบแล้วเดินมาหาเราทั้งคู่
“ไม่เข้าไปนั่งคุยกันข้างในล่ะ ตรงนี้ยุงมันเยอะแล้วน้ำค้างก็ลงแล้วด้วย เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ” ป๊าบอกต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ความจริงป๊าฉันใจดีมาก แต่แค่หวงฉันมากไปหน่อย เวลามีผู้ชายมาเกาะแกะ ท่านก็จะแค่เข้ามาดู แต่ท่านก็ไม่ได้ห้ามหรอกนะ ต้องการให้ทุกอย่างอยู่ในสายตาท่านเท่านั้นเอง
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะกลับแล้ว"” พี่มาร์ตินเอ่ยบอกด้วยท่าทางสุภาพ
“ขับรถกลับดึก ๆ ตื่น ๆ มันอันตรายนอนพักซะที่นี่ก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับไปตอนเช้าไม่ดีกว่ารึ? ห้องหับก็มีตั้งมากมาย อีกอย่างจะได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันด้วย เป็นใครมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร…” ป๊าพูดได้ตรงใจหนูมากเลยค่ะ
เดี๋ยวนะ แกเก็บอาการหน่อยสิมีน!
