บท
ตั้งค่า

2.5

“เก็บปืนของพวกนายซะ คาวะสัญญาว่าจะภักดีกับฉัน เขาจะเลิกเป็นนักฆ่าแล้วมาเข้ากับเรา”

ฉันประกาศเสียงแข็ง พวกลูกน้องได้ยินก็หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทุกคนต่างเคลือบแคลงสงสัยในการตัดสินใจของฉันกอปรกับระแวงความเป็นนักฆ่าของคาวะ

“แต่... ถ้ามันทรยศเราล่ะท่านซายูริ”

ฉันไม่อาจแถลงไขต่อข้อกังขาของลูกน้องได้หมด แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจคือคาวะจะไม่มีวันทรยศอัยย์

“การที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ มันยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอ”

“.....”

ทุกคนเงียบกริบด้วยเถียงอะไรไม่ออก ใช่ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้ฉันคงกลายเป็นศพอยู่ข้างถนนไปแล้ว ไม่แน่จินเองก็อาจจะตายไปด้วยเช่นกัน ฉันไม่รู้จะขอบคุณหรือสาปแช่งความโชคดีนี้ดี บางทีตายๆ ไปเลยอาจจะดีซะกว่า

“อึก”

“ท่านซายูริ? หรือว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ลูกน้องคนหนึ่งที่สังเกตเห็นสีหน้าฉันทักขึ้น ทำให้คนอื่นๆ มองตาม ขณะที่ตัวต้นเหตุอย่างคาวะ ยืนยิ้ม

ยะเยือกอยู่ด้านหลัง

“อืม รู้สึกระบมนิดหน่อยตอนกลิ้งลงจากรถ ไม่ได้เจ็บ ไม่เจ็บมาก” ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ความเสียวปลาบที่ดุนดันอยู่นั้นทำให้ต้องแขม่วท้องน้อย กลั้นหายใจเอาไว้ต้านความรู้สึกวาบไหวที่กำลังบ่อนทำลายตัวตนของฉันจากข้างใน

“ท่านซายูริสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะคะ ป้าว่าไปให้หมอตรวจ”

“ไม่ ฉันอยากกลับบ้าน!”

ฉันสวนขึ้นทันควัน แม่บ้านยังพูดไม่ทันจบดีได้แต่เงียบอึ้ง พวกลูกน้องเองก็มองหน้ากันแบบสับสน

ฉันกัดฟันกรอดรู้สึกเจ็บใจที่ปล่อยให้เครื่องบ้าๆ นั่นมาคุกคามจิตใจ

กำหมัดแน่นอย่างพยายามตั้งสติ แล้วพูดออกมาด้วยเสียงที่นิ่งกว่าเดิม

“แบ่งคนเอาไว้เฝ้าจินที่นี่ ถ้าเขาฟื้นแล้วให้รายงานฉันทันที พรุ่งนี้ฉันมีเรียน... ป้าคะ ให้คนจัดห้องสำหรับแขกไว้ให้อัยย์หนึ่งห้องและห้องคนงานสำหรับเขาอีกหนึ่งห้อง”

“คะค่ะ ได้ค่ะ ป้าจะรีบโทรบอกเด็กเตรียมไว้ให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

แล้วแม่บ้านก็กุลีกุจอออกไปโทรศัพท์ ฉันเบือนสายตากลับมาจ้องบรรดาลูกน้องสี่ห้าคนที่กำลังมองฉันด้วยท่าทางกังวล

“ระหว่างที่จินพักรักษาตัว คาวะจะอารักขาอยู่ข้างๆ ฉัน พวกนายเลิกสงสัยในตัวเขาได้แล้ว”

“แต่มันเป็นนักฆ่า”

ยังมีคนแย้ง คำพูดฉันคงไม่เด็ดขาดและน่าเชื่อถือเท่าคุณพ่อสินะ

ในสายตาลูกน้องคงมองฉันเป็นลูกของหัวหน้าที่ต้องคอยปกป้องคุ้มครองไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ควรยำเกรงและเชื่อถือ

ฉันรู้สึกได้ถึงความต่างในบารมีของฉันกับคุณพ่อ แม้จะแอบน้อยเนื้อต่ำใจอยู่บ้างทว่าอย่างน้อยๆ ทุกคนก็เป็นห่วงในความปลอดภัยของฉัน

“การมีนักฆ่าอยู่ข้างกายไม่น่าอุ่นใจกว่าเหรอ”

ฉันเอ่ยเสียงเรียบ ขึ้นชื่อว่านักฆ่าย่อมมีฝีมือและไหวพริบมากกว่าคนปกติ ฉันไม่รู้ว่าคาวะทำอะไรได้บ้าง แต่ความแข็งแกร่งของเขาสามารถอ่านได้จากบรรยากาศเย็นยะเยือกรอบๆ ตัว

“เรียบร้อยแล้วค่ะท่านซายูริ กลับไปถึงก็น่าจะเตรียมห้องกันเสร็จพอดี” แม่บ้านเดินกลับมาบอก ฉันพยักหน้า หันไปส่งสายตาเรียกอัยย์กับคาวะ

“ไปกันเถอะ กลับซูซาคุกัน”

“ซายูริ” อัยย์วิ่งเข้ามากุมมือฉันระหว่างทางเดินออกจากโรงพยาบาลทำให้ร่างกายที่อ่อนไหวในทุกย่างก้าวของฉันรู้สึกมั่นคงขึ้นเล็กน้อย เมื่อพ้นสายตาของบรรดาลูกน้อง อัยย์ก็รีบกระซิบถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“พี่คาวะไม่ได้ทำอะไรซายูริใช่ไหม”

ฉันมองหน้าอัยย์อย่างอึ้งๆ หรือว่าเธอจะรู้... ฉันมองแววตาใสซื่อของอัยย์แล้วปฏิเสธความคิดนั้นของตัวเองทันที ไม่หรอก ไม่น่าจะรู้เรื่องรสนิยมจิตๆ ของคาวะ

“เปล่า ไม่มี” ฉันยิ้มเจื่อน ทั้งที่ปากปฏิเสธแต่ความรู้สึกรวดร้าวกลับทิ่มตำเต็มอก เหลือบไปมองด้านหลังก็เห็นว่าคาวะกำลังเพ่งเล็งมาที่ฉันกับอัยย์ด้วยสายตาคมกริบราวกับสงสัยว่าฉันกับอัยย์กำลังซุบซิบอะไรกันอยู่

“อัยย์ ไม่ต้องเก็บของเหรอ”

“เอ๊ะ เอ้อ ใช่สิ...” อัยย์ทำหน้านึกได้เมื่อโดนคาวะทัก ก่อนเหลือบมามองฉันด้วยแววตาเกรงใจเหมือนจะขอแต่ก็ไม่กล้าขอ ถ้าอัยย์ไปเก็บของคาวะก็ต้องไปด้วย แล้วไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเขาจะไม่พาเธอหนี ถึงฉันจะให้คนตามไปประกบก็ไม่แน่ว่าอาจจะโดนฆ่าตายระหว่างทางอีก ครั้นฉันจะไปเองมันก็ติดที่ช่วงล่างไม่สะดวก...

ฉันยืนจิกเท้า เกร็งเรียวขาแบบที่ไม่มีใครทันสังเกต ร่างกายเกือบจะกระตุกหลายรอบแต่ก็ยังพอควบคุมได้ หากแต่ฉันไม่แน่ใจว่าถ้านานกว่านี้มันจะเป็นยังไง

“เดี๋ยวป้าไปเป็นเพื่อนอัยย์นะคะ ให้คนของเราขับรถให้” ฉันเสนอทางออกที่ดีที่สุด แม่บ้านที่เดินตามหลังมาติดๆ กับลูกน้องอีกสองคนค้อมศีรษะรับคำสั่งทันที

“ส่วนนายพาฉันกลับซูซาคุ” ฉันส่งสายตาบอกคาวะ แล้วเดินนำมาที่รถคันใหม่ที่พวกลูกน้องเตรียมไว้ให้

คาวะชำเลืองมองไปที่อัยย์ด้วยสายตาห่วงๆ เธอถูกแม่บ้านและลูกน้องของฉันเดินนำไปที่รถอีกคัน

“พวกนั้นรู้ว่าอัยย์เป็นแขกของฉัน เธอจะปลอดภัย”

“หึ” คาวะตวัดสายตาเฉียบคมมามองที่ฉันทันที “เพราะอัยย์เธอถึงยังมีชีวิตอยู่ จำใส่ใจเอาไว้”

“....”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel