บท
ตั้งค่า

1.2

ไม่กี่วันต่อมา

“ท่านซายูริครับ พวกเราตรวจสอบรถของท่านไคดะแล้ว... ไม่มีอะไรผิดปกติครับ”

“ว่าไงนะ”

ฉันกำตะเกียบในมือแน่น บรรดาแม่บ้านและคนรับใช้ที่ยืนห่างออกไปจากโต๊ะอาหารต่างอยู่ในอาการสงบนิ่ง แม้แต่เสียงลมหายใจก็เบาจนแทบไม่ได้ยิน

“สายเบรกล่ะ”

จินที่ยืนอยู่ด้านหลังเอ่ยถามออกมาอย่างรู้ใจฉัน คนรายงานรีบก้มหน้าลงทันทีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกดดันยิ่งกว่าเดิมว่า

“สายเบรกปกติดีครับ ไม่ได้โดนตัด”

“ท่านซายูริ” จินเรียกฉันราวกับจะถามความเห็น ฉันนิ่งคิดครู่หนึ่งก็ยกมือเป็นสัญญาณให้คนที่เข้ามารายงานออกไปได้ หลังจากนั้นไม่นานหัวหน้าแม่บ้านก็วิ่งเข้ามาใหม่

“ท่านซายูริคะ ทนายโยชิดะมาค่ะ” ยังไม่ทันขาดคำร่างสูงของชายวัยกลางคนก็เดินอาดๆ เข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือเล่มหนึ่ง

“ต้องขอโทษด้วยที่มากะทันหัน”

“คุณโยชิดะ ยินดีต้อนรับค่ะ” ฉันลุกขึ้นกล่าวทักทายทนายของคุณพ่อตามมารยาท หันไปบอกให้สาวใช้เตรียมหาอาหารเผื่อคุณโยชิดะ แต่ทางนั้นรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไรครับผมทานมาแล้ว ผมมาบอกเรื่องพินัยกรรมของคุณไคดะเท่านั้น”

“พินัยกรรม เดี๋ยวนะคะ แต่คุณพ่อยังไม่” ความรู้สึกฉันปั่นป่วนขึ้นมาทันควัน คำพูดของทนายเหมือนเข็มแหลมทิ่มลงกลางใจ

“ผมทราบครับ” ทนายโยชิดะเอ่ยแทรกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจะโวยวาย ท่าทางนิ่งขรึมของเขาทำฉันใจเย็นลงเล็กน้อย

ย้ำว่าแค่เล็กน้อยเท่านั้น

การที่คุณพ่อยังมีลมหายใจอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วจู่ๆ ทนายก็โผล่มาที่บ้าน ทำเหมือนคุณพ่อไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ใครจะไม่โกรธกันล่ะ แปลกเกินไปแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าทนายต้องการอะไรกันแน่

“คุณไคดะได้สั่งกับผมเอาไว้ว่าหากวันใดเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับตัวเองจนไม่สามารถควบคุมซูซาคุได้ ให้ยกสิทธิ์การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่คุณซายูริ ซึ่งเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย... หากใครไม่เชื่อฟังหรือแข็งข้อ ให้ยึดเงิน ค่าจ้าง ข้าวของมีค่าทั้งหมดที่เคยได้จากซูซาคุคืนโดยไม่มีข้อแม้”

“ต่อให้ไม่มีพินัยกรรมท่านซายูริก็คือผู้สืบทอดโดยชอบธรรม” จินเอ่ยออกมาอย่างไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่าง คำพูดของทนายไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับคนฟังสักนิด

ใช่ฉันเองก็คิดแบบนั้น ทว่า... มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่ทนายจะมาบอกในสิ่งที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วน่ะ การเคลื่อนไหวของทนาย รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ หรือฉันแค่คิดไปเองกันนะ

“มีอะไรอีกหรือเปล่าคุณโยชิดะ”

ฉันจ้องหน้าทนายด้วยสังหรณ์ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

“ครับตามที่ทราบ... หากวันใดที่คุณซายูริแต่งงาน อำนาจการตัดสินใจจะตกเป็นของคู่สมรสทันทีเว้นแต่ว่า”

จู่ๆ ทนายโยชิดะก็เว้นคำพูดและมีสีหน้าลังเลคล้ายไม่แน่ใจในสิ่งที่เขียนอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น

“ยกเว้นอะไรคะคุณโยชิดะ”

“ยกเว้นคุณฮารุจะกลับมา... สมบัติทั้งหมดในซูซาคุจะตกเป็นของเขาโดยชอบธรรม”

ฉันใจหายวาบ ทุกคนภายในนี้ต่างตกอยู่ในความนิ่งอึ้งไม่ต่างกัน ความวุ่นวายเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่เสียงเย็นยะเยือกของจินจะดังขึ้น

“ล้อเล่นอะไรกันทนาย ท่านไคดะเองก็รู้ว่าท่านฮารุเสียไปนานแล้ว”

“ผมก็คิดแบบนั้น แต่คุณไคดะเป็นคนเตือนผมเรื่องนี้เอง ...บางทีคุณไคดะอาจจะหวังอยู่ลึกๆ ว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง”

พี่ฮารุ...

ฉันกล้ำกลืนความรู้สึกเหงาหัวใจเอาไว้เมื่อนึกถึงพี่ชายคนนั้น จ้องตอบสายตาของทนายโยชิดะด้วยสีหน้าราบเรียบ

“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าพี่ฮารุยังมีชีวิตอยู่...ฉันก็ดีใจ”

“ครับ เอ้อ... แล้วคุณเคนมะคู่หมั้นของคุณซายูริติดต่อมาบ้างหรือเปล่า”

เคนมะเหรอ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงฉันเองก็แทบจำไม่ได้

ฉันส่ายหน้า ไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษเมื่อนึกถึงนายเคนมะอะไรนั่นเขาเป็นคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่จัดเตรียมไว้ให้ เราเคยเจอกันสองสามครั้งหลังงานศพคุณแม่กับพี่

ฮารุ หลังจากนั้นก็ได้ยินว่าเคนมะบินไปเรียนต่อต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ยกเว้นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายที่ไปมาหาสู่กันเพราะเรื่องธุรกิจ

“งั้นเหรอครับ เวลาแบบนี้ถ้าคุณเคนมะอยู่ด้วยก็คงดี”

ฉันเข้าใจว่าทนายโยชิดะหมายถึงอะไร แต่ฉันไม่ใช่ประเภทที่ต้องพึ่งพาคนอื่นเวลามีเรื่องอยู่แล้ว อีกอย่างต่อให้ท้อแค่ไหนฉันก็ยังมีจินเป็นที่ปรึกษาอยู่ข้างๆ

“ท่านซายูริคะ ถ้าไม่รีบไปตอนนี้เดี๋ยวจะเข้าเรียนไม่ทันนะคะ”

แม่บ้านร้องเตือน พลางเอามือทาบอกเมื่อเห็นว่าจวนได้เวลาเข้าเรียนของฉันแล้ว ฉันหันไปมองหน้าทนายอย่างไม่รีบร้อน

“คุณโยชิดะมีอะไรอีกหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีแล้วครับ ผมก็กำลังจะกลับพอดี”

“ค่ะ งั้นไว้เจอกันใหม่นะคะ”

ฉันลุกขึ้นโค้งศีรษะให้คุณโยชิดะตามมารยาท ก่อนหันไปพยักหน้าขอกระเป๋าหนังสือจากสาวใช้แล้วเดินออกมาโดยมีจินก้าวตามมาด้านหลัง
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel