นาทีที่ 5 ถูกฉีกสัญญา

นาทีที่ 5

ถูกฉีกสัญญา

9:32 น.

“ไอ้วายังไม่มาอีกเหรอวะดล”

“ยัง มันน่าจะขึ้นแท่นการมาสายแทนมึงละไอ้ดี”

“มึงก็ว่าไป ปกติกูมาตรงเวลาตลอด ตรงเป๊ะ! ไม่มีเผื่อ”

“นั่นไง ยิ้มแป้นมาเชียว”

ยุบหนอ~ พองหนอ~ เมื่อครู่นี้มันเกิดเรื่องอันใดกับตัวข้าฤๅ หรือว่าข้าเพียงแค่ฝันไปจนพบหน้าของคนที่ข้ามีใจให้ อื๊อ เมื่อกี้นี้มันคือมวลอะไรกันนะ ทำไมถึงรู้สึกว่านาทีเขาจะชอบเรา บ้า! เพ้อเจ้ออีกแล้วไอ้วา

“ไปอารมณ์ดีมาจากไหนเหรอจ๊ะชีวา ยิ้มหน้าบานมาเชียว”

“คือกู...อึ๊ย! กูไม่เล่าหรอกว่ะไอ้ดี”

“อ้าวอีห่า มึงก็เล่าให้กูฟังบ้างดิวะ กูอยากรู้อะ นะ ๆ ๆ” ความจริงแล้วผมอยากจะเล่าออกไปให้หมดเปลือก เพียงแค่ว่าผมอยากจะดึงเชิงทำให้มีเรื่องน่าสนใจเฉย ๆ แต่ว่าเรื่องนี้มันก็น่าสนใจจริง ๆ นั่นแหละ การที่นาทีดาราอันดับหนึ่งของประเทศไทยมาโผล่กลางบ้านของผมแถมเราสองคนยังเดินมาเรียนด้วยกันอีก แบบนี้ไม่เรียกว่าน่าสนใจจะให้เรียกว่าอะไร ‘พรหมลิขิตงั้นหรือ’ มันจะเพ้อเจ้อเกินไปป้ะคุณน้า

“มันไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องให้มันเล่าให้ดี มันคงอยากเก็บไว้กินแทนข้าว”

“ไอ้ดลมึงเลิกกัดกูสักวันจะได้ไหม ถ้าเกิดว่ามึงยังไม่มีแฟนนะกูคงคิดว่ามึงชอบกูแล้วล่ะ”

“โอ้ย ตอบให้กูไม่มีลันกูก็ไม่เป็นแฟนกับมึงค่ะ”

“ปากคอเราะร้ายเนอะไอ้เวรนี่”

“เล่าได้ยังเนี่ย อยากฟัง”

“ก็เมื่อเช้าอ่ะดิไอ้ดี!”

“เมื่อเช้าอะไรรีบ ๆ พูด”

“เมื่อเช้า...”

“เมื่อเช้า?”

“เมื่อเช้านาทีมาที่ร้านกูเว้ยมึง กูโคตรดีใจทำตัวไม่ถูกเลยอะมึง”

อึ้ง เป็นไงล่ะ ไอ้ดีถึงกับอึ้งพูดไม่ออกเอ๋อแดกไปเลยทีเดียว

“ภาพหลอน มึงเกิดภาพหลอนชัวร์”

“กูพูดจริงๆ เมื่อเช้ากูยังเดินมาเรียนพร้อมกับนาทีอยู่เลย มึงต้องเชื่อกูนะเว้ยไอ้ดี ตอนนี้กูรู้สึกเหมือนว่ากูกำลังจะลอยขึ้นไปบนฟ้าเลยว่ะ กูไม่อยากจะเชื่อหรือว่านี่คือความฝันวะ”

“อืม มึงน่าจะฝันจริง ๆ แหละชีวา คงจะเก็บมาฝันแล้วเกิดเป็นภาพหลอนจนคิดว่านาทีของมึงยืนอยู่ตรงหน้าตัวเป็น ๆ ”

“ไอ้ดี ทำไมมึงไม่เชื่อกูเลยวะ กูเห็นจริง ๆ ก็เมื่อเช้านี้กูเดินมาเรียนพร้อมกับนาทีอยู่เลย แถมกูยังอวยพรให้เขากับจินรักกันนาน ๆ ด้วยนะเว้ย”

“มึงอาการหนักแล้วไอ้วา มึงเป็นคนบอกกูเองไม่ใช่หรอว่านาทีกับจินเขาไปถ่ายซีรีส์ที่เกาหลีสามเดือน แล้วเขาจะโผล่มาที่นี่ได้ไงวะ ประสาท!”

“เออว่ะ กูลืมไปเลยแฮะ หรือว่าเขามีงานที่ไทย”

“ถึงเขาจะมีงานที่นี่ แล้วมึงคิดว่านาทีเขาเรียนมอเดียวกับเราเหรอฮะ”

“แต่ว่ามอเรามันก็เลิศเลอเพอร์เฟคอยู่นะเว้ย คนอย่างนาทีเขาก็อาจจะย้ายมาเรียนที่นี่ก็ได้ป้ะ”

“ไม่มีทาง เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว” พอได้เล่าให้กับคนดีฟังแล้วผมก็รู้สึกสับสนขึ้นมาว่าเมื่อครู่คนที่ผมเจอใช่นาทีตัวเป็น ๆ หรือเปล่า แต่ว่ามองยังไงก็ยังเป็นนาทีคนที่ผมชื่นชอบอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็น ดวงตา ใบหน้า สันจมูก แม้แต่ริมฝีปากของเขาผมก็จำได้ทั้งหมด ยังไงก็ต้องเป็นเขาแน่นอนไม่ผิดพลาดอยู่แล้ว

“นี่ชีวา ๆ”

“ว่าไงหรือกระแต”

“แกได้เห็นข่าวของนาทีกับจินป้ะ”

“ขะ...ข่าวอะไรเหรอ”

“เอ้า ก็ข่าวที่นาทีถูกฉีกสัญญาค่ายไง”

ผมเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าจะมีเรื่องแบบนั้นเกี่ยวกับเขาด้วย ตลอดเวลาหลายปีตั้งแต่นาทีเข้าวงการแรก ๆ เขาก็ไม่เคยมีข่าวเสียหายอะไรเลย

“ฮะ? แน่ใจเหรอกระแต เธอไม่ได้ดูผิดใช่ป่ะ”

“ดูพงดูผิดอะไรล่ะ แกก็เข้าไปดูในเทรนสิจ๊ะสาว ตอนนี้ยังติดเทรนอันดับหนึ่งอยู่เลย”

‘ค่ายดังว่อน! สัญญาถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ปลดพระเอก BL ชื่อดัง หลังพระเอกตัวย่อหน่วยของเวลา นท. ลั่น! ชาตินี้ไม่ขอเผาผีคนใจดำอำมหิตทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์ ต่อไปนี้ขอไม่พบไม่เจอและไม่ทำงานร่วมกับคนแบบนี้อีก’

“เชี่ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ” ผมถึงกับช็อคและพูดไม่ออก ตอนนี้เหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนเหวี่ยงทำให้มึนหัวไปหมด หัวใจทั้งดวงหล่นวูบลงสู่พื้นอีกครั้งยังมีของแข็งหนัก ๆ ทุบลงไปที่หัวใจของผมจนแหลกสลาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ผมไม่เข้าใจเลย ฮือ...

“เราว่านะ สิ่งที่นาทีพิมพ์ลงไปอะต้องเกี่ยวกับจินแน่นอนเลย พอวงในเขาบอกมาว่านาทีกับจินมีปัญหากันบ่อยมาก”

“ปัญหาอะไรเหรอ?”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่การที่นาทีออกมาโพสต์แล้วค่ายร่อนสัญญาฉีกกลางงานแบบนี้มันต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่มากแน่นอนเลย” ก็จริงอย่างที่กระแตว่า ผมเองก็ติดตามนาทีกับจินมาตั้งแต่ซีรีส์เรื่องแรกจนตอนนี้เวลาก็ล่วงมาเกือบสามปีได้ เท่าที่ผมรู้จักนาทีมาเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนน้อมถ่อมตนให้เกียรติผู้อื่นอยู่เสมอ และการที่เขาออกมาโพสต์แบบนี้มันแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นเขาจริง ๆ หรือถ้าเป็นเรื่องจริงเขาคงหมดความอดทนและคงเจอเหตุการณ์ดังกล่าวมาหนักพอสมควร แต่ว่าจินเขาจะเป็นคนที่ใจดำอำมหิตขนาดนั้นเลยเหรอ บางทีอาจจะไม่ใช่จินก็ได้ อาจจะเป็นเจ้าของค่าย หรือไม่ก็เอเจนซี่ หรืออาจจะเป็นแค่การโปรโมทรูปแบบใหม่ โอ้ย อยากรู้โว้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ฮือ น่าสงสารจังเลย”

“สงสารตัวเองก่อนเถอะไอ้วา มึงควรเลิกเสือกชีวิตคนอื่นหน่อยก็ดีนะ”

“มึงนี่ไม่เข้าใจติ่งอย่างพวกกูเลยไอ้ดล มึงไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญสำหรับสาววายที่ถูกอยู่บนเรือสำราญคันหรูแต่ก็มีพวกใจดำอำมหิตที่ไหนก็ไม่รู้มาระเบิดเรือ ตู้ม! ตายยกลำ”

“นับวันยิ่งไร้สาระเว้ยเพื่อนกู”

เจริญ! สิ่งที่ผมพร่ำเพ้อพรรณนามาดูเหมือนมันจะไม่เข้าหูไอ้ดลเพื่อนรักเลยสักประโยค คนอย่างมันจะไปเข้าใจอะไรทั้งชีวิต มีแต่งาน มีแต่เหล้า แล้วก็เมีย ประกบด้วยแมว มันจะมาเข้าใจคนที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงคอยเสพความสุขจากพวกดาราหล่อ ๆ เพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ แบบพวกผมได้ยังไง เฮ้อ ติ่ง Sad~

“เฮ้ยพวกมึงรู้นั่นดิ/ใช่นาทีเปล่าวะ/นั่นน่ะดิแล้วมาทำอะไรที่นี่อะ” ในขณะที่ผมกับกระแตกำลังเม้าท์มอยหอยสังข์กันถึงเรื่องข่าวดราม่าที่กำลังเป็นกระแสหนักในวันนี้ อยู่ ๆ ก็มีเสียงฮือฮาพูดคุยกันทั้งห้องเมื่อใครบางคนปรากฏตัวขึ้น

“นั่นมัน...”

นาาาาาาาาาาที!!!