บท
ตั้งค่า

Chapter 5: ทาสและนายไม่อาจร่วมเตียงเดียว

ทันทีที่คำสั่งของนายใหญ่ชัดเจนว่าต้องการอะไร เด็กหนุ่มก็ถูกจับไปขัดสีฉวีวรรณแทบจะในทันที ทวิชเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องถูกจับอาบน้ำขัดตัวเป็นอย่างดี นั่นก็เพราะเขาจะต้องเข้าไปปรนนิบัติรับใช้คุณท่านถึงในคฤหาสน์ ดังนั้นเรื่องความสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถให้นายเห็นสภาพไม่น่าดูของเขาได้

หากแต่...เขากลับไม่เข้าใจเลยว่าบรรดาทาสผู้หญิงที่ช่วยอาบน้ำแต่งตัว จัดเผ้าจัดผมให้เขาถึงได้พึมพำว่า ‘น่าสงสาร’ บ้าง ‘น่าเวทนา’ บ้าง ไม่หยุดหย่อน ยิ่งไปกว่านั้นทาสผู้หญิงรุ่นคราวแม่ยังย้ำกับเขาก่อนที่เขาจะตามธามไปที่คฤหาสน์ด้วยว่า ‘ขอให้พระคุ้มครอง’ พร้อมกับแววตาและสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย

ไม่เข้าใจเลยว่าจะอวยพรเขาอย่างนี้ทำไม มันให้ความรู้สึกในแง่ลบเสียยิ่งกว่าแง่ดีอยู่โข

ในเมื่อคุณท่านเป็นคนใจดี ทั้งเมตตา ทั้งเอ็นดูเขาถึงขนาดเรียกตัวไปรับใช้เป็นการส่วนตัวแลกกับการได้ฝึกการต่อสู้เพื่อปลดแอก ทำไมถึงจะต้องอวยพรให้พระคุ้มครองด้วย

ทวิชได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ เขาตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อได้ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ส่วนที่ตนไม่เคยเข้าถึง ดวงตากลมโตมองปราดไปทั่วทุกทิศ สำรวจนั่นนี่ด้วยความสนใจ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ธามพาตัวเข้ามายังห้องหนึ่ง ประตูที่เปิดออกกับสภาพที่เห็นด้านในนั้น มองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือห้องนอนของคุณท่าน

“เข้าไปรอคุณเวหาด้านใน แล้วก็เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ นายจะเห็นชุดพับไว้อยู่บนเคาน์เตอร์ตรงอ่างล้างหน้า”

ทวิชพยักหน้ารับ ขาก้าวเข้าไปข้างหนึ่งแล้วก็หยุดเมื่อเห็นว่าธามไม่ขยับเขยื้อนใดๆ

“คุณธามไม่เข้ามาด้วยเหรอครับ”

ธามเหลือบมอง ว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “หน้าที่ของฉันคือแค่มาส่งนายกับยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเท่านั้น ที่เหลือนายต้องทำด้วยตัวเอง”

คงเป็นคำสั่งของเวหานั่นล่ะ ทวิชก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก ได้แต่ยกมือขึ้นไหว้อีกฝ่ายเป็นการขอบคุณ

“ขอบคุณที่มาส่งผมครับ”

จากนั้นก็ผลุบหายเข้าไปด้านใน ธามดึงประตูปิดให้พลันถอนหายใจออกมา

เด็กนั่นจะรู้ตัวหรือเปล่านะว่ากำลังก้าวเข้าถ้ำเสือแล้ว...

คงจะไม่รู้... เพราะถ้ารู้ คงไม่ทำหน้าระรื่นอย่างนี้หรอก

 

ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น ทวิชไม่รู้สักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตน เขาเอาแต่ตกตะลึงกับการตกแต่งหรูหราภายในห้องนี้ ตื่นตาตื่นใจกับเตียงนอนคิงส์ไซส์ที่มีเสาและผ้าม่านระบาย และตกใจกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ธามบอกให้เขาเปลี่ยน

มัน...จะเรียกว่าเสื้อผ้าก็ไม่ถูกนัก เรียกว่าเสื้อคลุมน่าจะถูกกว่า เป็นเสื้อคลุมคล้ายเสื้อคลุมอาบน้ำที่เย็บจากผ้าโปร่ง เนื้อบางๆ ของมันทำให้เด็กหนุ่มมองเห็นเนื้อหนังของตัวเองที่สะท้อนผ่านกระจกเงาได้อย่างชัดเจน

เป็นชุดที่น่าอายมาก...

แต่คุณท่านคงจะชอบเพราะมันดูสะอาดตา ชุดที่เขาใส่มาจากเรือนทาสสกปรก กว่าจะเดินผ่านสนามเข้ามาในคฤหาสน์ก็ต้องเปรอะเปื้อนฝุ่นผง ทำให้สกปรกมากขึ้นไปอีก ใส่ชุดนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าเนื้อตัวของเขาสะอาดหมดจดแล้ว

ทวิชนั่งคุกเข่ารอการมาถึงของเจ้าของห้องที่พื้นอย่างใจจดใจจ่อ หัดยิ้มกับตัวเองเพื่อลองดูว่ายิ้มแบบไหนจะทำให้เวหาประทับใจ พลางสลับกับเอามือถูแขนตัวเองที่ถูกขัดจนผิวผ่องไปด้วย เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสผิวเนื้อของตัวเองที่ลื่นๆ แบบนี้มาก่อนสักครั้ง

ความสะอาดที่แท้จริงมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ดีล่ะ! งั้นวันนี้เขาจะต้องทำให้นายประทับใจในตัวเขาให้ได้!

หมายมั่นปั้นมือเป็นที่เรียบร้อย ไม่นานหลังจากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก ทวิชรีบส่งยิ้มตามที่ฝึกซ้อมไว้ให้กับคนที่มาใหม่ทันทีเมื่อเห็นว่าใครคนนั้นคือเวหา ก่อนจะรีบร้องทักทายด้วยน้ำเสียงเริงรื่น

“สวัสดีครับคุณท่าน”

ไม่รู้จะสวัสดีทำไม เจอกันมาแล้วทั้งวัน ก่อนหน้านี้แค่ชั่วโมงเดียวก็เพิ่งเจอกันมา แต่เวหาก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ทอดมองคนตรงหน้า พอเห็นว่าทวิชสวมชุดอะไรอยู่ก็ปิดประตูลงกลอนอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าพวกไทที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้เขาจะเหลือบมาเห็น

เรือนร่างของทาสคนนี้ ใครจะเห็นนอกจากเขาไม่ได้!

ให้ตายเถอะ ใครจะรู้ว่าพอถูกจับขัดสีฉวีวรรณแล้ว ทวิชจะดูเจิดจรัสขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ยิ่งมาแต่งตัววับๆ แวมๆ ก็ยิ่งทำให้เวหาถึงกับขบกรามแน่น

เขาคิดถูกหรือเปล่านะที่เอาเจ้านกตัวนี้มาไว้ใกล้ๆ พวกทาสผู้หญิงก็รู้งานเหลือเกิน เตรียมข้าวของไว้ให้เสร็จสรรพราวกับรู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น

จริงๆ ก็รู้กันทั้งหมดนั่นล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทวิชที่เพิ่งจะถูกสั่งให้มาเป็นทาสส่วนตัว จะมีก็แต่เจ้าตัวเท่านั้นที่ไม่รู้จะตากรรม จู่ๆ ก็เวหาปั้นหน้าตาน่ากลัวขึ้นมา พลันก็ส่งเสียงถาม

“ผมทำอะไรให้คุณท่านไม่พอใจหรือเปล่าครับ”

เอียงคอถามตาแป๋วอีกต่างหาก ท่าทางนี้มันจะน่ารักน่าเอ็นดูเกินไปแล้ว!

เวหาไม่ตอบ ก้าวมาหยุดตรงหน้าพร้อมกับบอกสั้นๆ

“ฉันจะอาบน้ำ รออยู่ตรงนี้ อย่าซน”

ไม่ซนแน่นอน ทวิชพยักหน้ารับหงึกหงัก มองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ อีกอึดใจเดียว ร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะพราวก็กลับออกมา เวหาในตอนนี้ก็ใส่เสื้อคลุมไม่ต่างกัน เพียงแต่เป็นเสื้อคลุมอาบน้ำ ไม่ได้เป็นเสื้อคลุมผ้าบางๆ อย่างที่ทวิชสวมใส่ ขณะที่พอทวิชเห็นนาย เขาก็ยิ้มกว้าง

“คืนนี้จะให้ผมรับใช้อะไรดีครับ”

เวหายังไม่ตอบในทันที มองใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้มแล้วก็เดินไปหยุดที่เตียง ก่อนจะออกคำสั่งให้อีกฝ่ายทำตาม

“มาตรงนี้”

ทวิชรีบคลานไปหาที่แทบเท้า จากนั้นก็ถูกสั่งอีก

“ยืนขึ้น”

เด็กหนุ่มดันตัวขึ้นยืนเหยียดตรง คราวนี้เองที่เวหาเห็นเรือนร่างของอีกฝ่ายภายใต้เสื้อคลุมเต็มสองตา รูปร่างผิวพรรณก็ชวนให้เร้าใจอยู่หรอก แต่พอเห็นความผอมบางของเด็กหนุ่มแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ผอมขนาดนี้ ได้กินอิ่มกับคนอื่นเขาบ้างไหม...

เป็นคำถามที่ไม่ได้เอ่ยออกไป มีแต่เขาเท่านั้นที่คิดในใจคนเดียว ขณะที่ทวิชยืนรอคำสั่งด้วยความขัดเขิน มือทั้งสองประสานกัน พยายามปกปิดส่วนกลางของลำตัวด้วยความประหม่า แม้ว่าส่วนนั้นจะยังมีกางเกงชั้นในปิดอยู่เป็นปราการอีกชั้นหนึ่งก็ตาม แต่ด้วยความที่เขาไม่คุ้นชินกับนาย ทว่าต้องมาถูกจับจ้องไม่วางตา มันก็เกิดประหม่าขึ้นมา

เวหาก็รู้อยู่หรอกว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้น ใบหูและลำคอของทวิชก็แดงเรื่อ ผิวพรรณที่ไม่ได้ขาวเนียน มีร่องรอยแผลเป็นน้อยใหญ่ประปรายทั่วร่างนั้นผ่องสว่างพอที่จะทำให้เห็นร่องรอยเลือดสูบฉีด

สภาพอย่างนั้นทำให้เขาเกิดความรู้สึกตามสัญชาตญาณความเป็นบุรุษเพศขึ้นมากะทันหัน...

เวหาถอดเสื้อคลุมของตนทิ้งลงพื้น การกระทำที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาทวิชเบิกตาโต ก่อนจะต้องรีบหลุบสายตาหนีเมื่อเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ถึงเขาจะรู้ดีว่าเวหาเป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะประดักประเดิดที่อยู่ดีๆ ก็มาเห็นร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัว

หากแต่เวหาไม่สนใจอะไรเลยสักนิด ทิ้งตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ออกปากสั่งคนที่ยืนเงอะๆ งะๆ อยู่ที่เดิม

“น้ำมันอยู่บนถาดตรงโต๊ะ หยิบมันมาปรนนิบัติฉันซะ”

พยักพเยิดไปยังโต๊ะปลายเตียง เป็นการบอกโดยนัยว่าเขาต้องการอะไร และเวหาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ เขาอุตส่าห์ลงทุนเปลือยกายขนาดนี้แล้ว สภาพของทวิชก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไรนัก เกือบเปลือยขนาดนี้ ก็ได้แต่หวังว่าทวิชจะไม่โง่ และพอจะหายใจโล่งเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินไปหยิบขวดน้ำมันมาเปิดฝาออก ยกขึ้นดมก็มีกลิ่นหอมของกุหลาบโชยมา ก่อนจะต้องสะดุ้งน้อยๆ เมื่อเสียงแหบห้าวร้องบอก

“น้ำมันหอมระเหยสำหรับนวด เอาไว้ให้เธอใช้”

ย้ำแล้วนะว่าเอาไว้ให้ทวิชใช้ ส่วนใช้แบบไหนนั้น อย่าให้เขาต้องสอนเลย

ทวิชพยักหน้ารับราวกับว่าเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะถือเอาขวดน้ำมันนั้นเดินตรงมาหยุดที่ปลายเตียงอีกครั้ง ท่าทางลังเลเลิ่กลั่กของเด็กหนุ่มทำให้เวหาต้องร้องสั่ง

“วันนี้ฉันเหนื่อย อยากผ่อนคลาย เธอต้องทำอะไร รู้ใช่ไหม”

คนถูกถามพยักหน้า เวหาก็ระบายลมหายใจออกมา

โชคดีที่ไม่ได้ซื่อบื้อจนเกินเยียวยา...

ก่อนจะต้องใจเต้นระรัวจนแผงหน้าอกสั่นไหวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทรุดตัวลงนั่งยังปลายเตียง เทน้ำมันลงบนฝ่ามือ ถูไปมาจนน้ำมันกระจายเป็นเงาทั่วฝ่ามือหยาบกร้านทั้งหมด

เวหากลืนน้ำลาย เขาไม่ได้อยากจะบีบบังคับให้เด็กหนุ่มต้องทำอย่างนี้หรอก แต่ในเมื่อทวิชเป็นฝ่ายหนีหน้า และพยายามทำทุกอย่างเพื่อจากไป เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหากได้เป็นทาสรับใช้ส่วนตัวของเขาแล้ว ได้รับความสะดวกสบายและชีวิตที่หรูหรา ได้รับความเมตตาเอ็นดูจากเขาอย่างถึงที่สุด อีกฝ่ายยังคิดจะแหกกรงทองออกไปอีกหรือไม่

“ผม...ขออนุญาตคุณท่านแตะต้องเนื้อตัวนะครับ”

เวหาไม่ตอบรับ ได้แต่ระงับความตื่นเต้นที่พร่างพรายไปทั่วทั้งร่าง รอให้ทวิชได้ปรนนิบัติเขาอย่างเต็มที่

แต่...ในขณะที่กำลังสงบสติอารมณ์อยู่นั้น เวหาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อจู่ๆ ฝ่ามือของทวิชก็แตะเข้ามาที่ปลายเท้าของเขา จากนั้นก็เริ่มบีบๆ นวดๆ จนเขาต้องขมวดคิ้วมุ่น

“ทำอะไรน่ะ”

ทวิชชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นนายทันใด

“ก็...ปรนนิบัติคุณท่านไงล่ะครับ”

หัวคิ้วของเวหาขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิมอีก

“ฉันบอกเหรอว่าให้นวด”

จากนั้นสีหน้าของทวิชก็ดูงุนงงฉับพลัน

“อ้าว ไม่ได้ให้นวดเหรอครับ”

“...”

“ก็...ผมเห็นว่านี่เป็นน้ำมันนวด แล้วคุณท่านก็บอกว่าอยากผ่อนคลาย ผมก็เลยนวดฝ่าเท้าให้ นวดฝ่าเท้าช่วยให้คลายเครียดแล้วก็ผ่อนคลายด้วยนะครับ”

เวหาถึงกับหน้าตึง

เขาไม่ได้สั่งให้คนเอาน้ำมันนวดมาใช้เพื่อเรื่องอย่างนี้สักหน่อย! ให้ใช้สำหรับอย่างอื่นต่างหาก!

แต่คงจะบอกว่าให้ใช้ทำอะไรคงจะไม่ทันแล้ว ยิ่งถูกทวิชถามมาว่า...

“หรือว่าผมจะใช้ผิดวัตถุประสงค์ อืม...คุณท่านให้ผมเอาน้ำมันมาไว้ใช้ทำอะไรเหรอครับถ้าไม่ใช่นวด”

...บอกได้ไหมล่ะว่าเอาไว้ใช้เพื่อให้เกิดความหล่อลื่น

เอาเถอะ ตอนนี้บอกอะไรไปก็ไม่ทันแล้ว

“ใช้นวดนั่นแหละ นวดไป ไม่ต้องถามมาก”

โบกมือไหวๆ ให้เลิกถามเซ้าซี้เสียเลย ปิดเปลือกตาลงหนีการถูกถามด้วย ทิ้งให้ทวิชมองหน้าผู้เป็นนายด้วยความงุนงง ก่อนจะออกแรงนวดฝ่าเท้าต่อไป ขณะที่เวหาหรี่ตาแอบมองก็เห็นว่าเด็กหนุ่มตั้งอกตั้งใจนวดฝ่าเท้าเขาเป็นการใหญ่ พลันอดถอนหายใจออกมาไม่ได้

แล้วเขาจะลงทุนแก้ผ้าแก้ผ่อนทำไมล่ะเนี่ย

ความซื่อบื้อเยอะเหนือความคาดหมายจริงๆ...

เวหาหมดอารมณ์จะทำเรื่องอื่นแล้ว ยิ่งเห็นทวิชตั้งอกตั้งใจนวดฝ่าเท้าให้เขา เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรหรอก ได้แต่ปล่อยให้เด็กหนุ่มนวดให้เขาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งดึกดื่นและคนนวดก็ผล็อยหลับไปเองบนหน้าขาเขานี่ล่ะ ถึงตอนนี้เวหาถึงได้ดันตัวขึ้นนั่ง มองร่างอีกฝ่ายที่นอนตะแคงหน้าซบหน้าแข้งเขาอยู่อย่างระอาใจ

ทั้งซื่อบื้อ ทั้งโง่อย่างนี้ ไม่รู้จักประมาณตน ยังจะมีหน้ามาอยากมีชีวิตอิสระอีก ขืนออกไปโบยบินเอง มีหวังได้ตายตั้งแต่ยังไม่โตสักเท่าไรแน่

เวหาไม่อยากจะสนใจแล้ว วันนี้เด็กหนุ่มทำเอาหงุดหงิดใจหลายรอบ ตั้งแต่หนีหน้าเขา แล้วยังจะมาซื่อบื้อไม่รู้ประสาว่าการปรนนิบัตินายต้องทำอย่างไรอีก เขาอุตส่าห์ไม่ท้วงก็ยังไม่รู้ตัว นวดให้เขานอนเกร็งรอจนอีกฝ่ายหมดแรงอยู่นั่น กลายเป็นว่าฝ่าเท้ากับขาผ่อนคลาย แต่กล้ามเนื้อใบหน้ากับลำตัวช่วงบนเมื่อยขบไปหมด

นายหนุ่มตั้งใจจะเอื้อมมือไปปลุกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นจากการนอนซบหน้าแข้งของเขา อย่างไรเสียคืนนี้ทวิชก็ต้องนอนร่วมห้องกับผู้เป็นนาย แต่จะให้มานอนในสภาพนี้ก็คงไม่เหมาะเท่าไร นายกับทาสควรเว้นระยะห่างกันเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพวกทาสจะหลงคิดว่านายรักและเอ็นดู เผลอขึ้นหน้าขึ้นตาไม่เคารพเอา

หากแต่เมื่อปลายนิ้วจะสัมผัสยังหัวไหล่ เสียงงึมงำจากอีกฝ่ายก็ดังขึ้นให้ได้ยินเสียก่อน

“คุณท่าน...”

“...”

“ใจดีจัง...”

“...”

“ขอบคุณครับ...

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงเคี้ยวฟันแจ๊บๆ ไม่รื่นหู มิหนำซ้ำยังฟังดูประหลาดอีก แต่ไม่รู้ทำไมเวหาถึงได้เปลี่ยนใจไม่ยอมปลุกเด็กหนุ่มขึ้นมา

ทาสและนายไม่อาจนอนร่วมเตียงเดียวกันหรือ?

สำหรับคืนนี้...เขาจะอนุโลมให้สักคืนก็แล้วกัน

เวหาทิ้งตัวลงนอนราบ ปล่อยให้ทวิชได้นอนอยู่ในท่าเดิม ก่อนเขาจะปิดเปลือกตาลง พยายามข่มตาให้หลับด้วยความยากลำบาก

แค่คืนเดียว...

คืนเดียวเท่านั้น...

วันอื่นๆ จะไม่มีอ่อนข้อให้อย่างนี้อีกแล้ว!

 

เวหาไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน ไม่ใช่ว่าทวิชนอนดิ้นหรือกรนเสียงดังจนเขานอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะนอนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่กระดุกกระดิกเลยต่างหาก ทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาคอยดู คอยห่มผ้าให้เมื่อเห็นร่างของอีกฝ่ายสั่นเทา อีกทั้งยังต้องคอยปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เพราะกลัวว่าจะเย็นเกินไปสำหรับเด็กคนนั้น มัวแต่ดูแลอยู่ทั้งคืน สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ไม่ได้นอน

พอเห็นว่าฟ้าสว่างแล้ว ก็ค่อยๆ ดึงขาที่เป็นเหน็บชาจนไม่มีความรู้สึกใดออกจากการเป็นหมอนให้ทวิชได้นอนหนุนออกอย่างเบามือ นั่งรอจนความชานั้นหายไปแล้วถึงได้อาบน้ำแต่งตัวจากมา ทิ้งให้ทวิชได้นอนต่อใต้ผ้าห่มผืนหนาและอากาศเย็นๆ พอเหมาะในห้องของตัวเอง

วันนี้เขามีธุระที่จะต้องไปสะสางตั้งแต่เช้า ธามเห็นหน้าเจ้านายก็ไม่ได้ซักถามอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติที่เวหามักตื่นเช้าอยู่แล้ว แต่เมื่อขึ้นรถมาได้ เขาก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติเมื่อเห็นหัวคิ้วยับยู่และสีหน้าไม่สบอารมณ์ของผู้เป็นนาย

หรือเมื่อคืนนี้ เด็กคนนั้นจะก่อเรื่องอะไรให้ไม่พอใจ?

“เมื่อคืนนี้เรียบร้อยดีไหมครับ คุณเวหา”

คิดแล้วก็อดถามออกมาไม่ได้ แต่ไม่ใช่การถามตรงๆ เพราะเรื่องส่วนตัวของเจ้านายไม่ใช่สิ่งที่เขาควรถามละลาบละล้วง

เวหาเหลือบมองคนพูดเล็กน้อย ก่อนจะตอบรับอย่างขอไปที

“เรียบร้อยดี”

“แน่ใจนะครับ”

เวหาไม่ตอบ และนั่นเป็นพิรุธชั้นดีที่ทำให้ธามจับได้ว่าทุกอย่างไม่ได้เรียบร้อยดีอย่างที่พูด หากแต่เขาก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่เงียบ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเวหาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา

“ไม่มีใครบอกเด็กนั่นเลยหรือไงว่าการเป็นทาสส่วนตัวจะต้องปรนนิบัตินายยังไงบ้าง”

ธามเลิกคิ้วขึ้นสูง พอจะจับประเด็นได้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น ยิ่งนึกถึงความซื่อบื้อของเด็กนั่นแล้ว คำตอบก็ยิ่งชัดเจน

“อย่าบอกนะครับว่าเมื่อคืน คุณเวหากับเด็กนั่นไม่ได้...”

“เด็กนั่นนวดน้ำมันให้ฉันทั้งคืน”

“...”

“ที่ฝ่าเท้า แล้วก็ผล็อยหลับไปเฉยๆ”

เวหาเล่าหน้านิ่งเชียว แต่ประโยคเหล่านั้นกลับทำให้ลูกน้องคนสนิทกับคนขับรถที่ได้ยินถึงกับหลุดหัวเราะกันพรืด ก่อนจะต้องรีบปั้นหน้านิ่งเมื่อถูกสายตาดุๆ ของเจ้านายมองจ้องมาที่พวกตน

ธามรีบกระแอมไอ ก่อนจะบอกออกไปอย่างรวดเร็ว

“ไว้ผมจะจัดการให้ครับ คุณเวหาไม่ต้องเป็นห่วง”

เวลาไม่พูดอะไร ได้แต่ชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าหงุดหงิดเช่นเคย แล้วก็ต้องหันมาดุเมื่อลอบเห็นว่าลูกน้องของตนพากันยิ้มอีกแล้ว

“มีเรื่องอะไรให้ตลกนักหรือไง”

ทั้งธาม ทั้งคนขับรถถึงกับต้องรีบปั้นหน้านิ่งกันเป็นพัลวัน ปากก็ร้องบอกว่า ‘ขอโทษครับ’ แต่พอเผลอก็หลุดยิ้มออกมาอีก เวหาหงุดหงิด แต่ไม่อยากจะใส่ใจหรือเอาเรื่องใดๆ แล้ว เพราะสิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือการส่งเสียงดังฮึในลำคอด้วยความไม่พอใจ

เจ้านกน้อยตัวนั้น... ทำเขาเสียหน้าแล้วไหมล่ะ

ใครสั่งใครสอนให้ปรนนิบัตินายอย่างนี้กัน! นวดฝ่าเท้าเนี่ยนะ ตลกตาย!

พอคิดๆ ดูดีๆ แล้ว เหมือนกับว่าคนที่ปรนนิบัติจะเป็นเขาอีกด้วย ไม่อย่างนั้นขาทั้งสองข้างคงไม่เป็นเหน็บชายันเช้า

ใครเป็นนาย ใครเป็นทาสกันแน่ เขาอยากจะรู้นัก!

เวหาถึงกับหมายมั่นปั้นมือว่าหากวันนี้กลับถึงคฤหาสน์เมื่อไร ถ้าทวิชยังไม่รู้ตัวว่าควรปรนนิบัติเขาอย่างไร เห็นทีเขาจะต้องลงมือเองแล้ว

ก่อนจะออกโบยบินในท้องฟ้าอื่น เขาจะสอนบินในท้องฟ้าของเขาก่อน

รับรองว่าเป็นบทเรียนที่ทวิชจะจำได้ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน...

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel