บท
ตั้งค่า

2 Shocking First Day!(2)

ถัดมาก็เป็นเวลาของชายผมบลอนด์ที่ฉันหลงนึกว่าเป็นนกหายากจะต้องแนะนำตัว และเขาโชคร้ายจริงๆ ที่ต้องซักเสื้อตั้งแต่เช้าเพราะความซุ่มซ่ามของฉัน ร่างสูงของเขาดูเท่และเนี้ยบอย่างน่าแปลกใจ ผิวก็ขาวจัดราวกับหิมะ ดูเข้ากันกับเส้นผมสีซิลเวอร์บลอนด์ที่งดงามจับตา มันทำให้เขาดูราวกับเจ้าชายที่สง่างามของแก๊งเลยทีเดียว

“ฉันชื่อนิค” เขาแนะนำตัว

“นิค?” ฉันทวนชื่อที่สั้นและน่ารักของชายที่ถึงจะอยู่ท่ามกลางเพื่อนที่หล่อเหลาแต่ก็ยังเด่นออกมา อาจจะเพราะเขาสูงกว่าเพื่อนคนอื่นเล็กน้อย “มาจากชื่อเต็มว่านิโคลัสเหรอ”

“เปล่า” เขายิ้มบางที่ดูสง่างามราวกับเจ้าชาย “ย่อมาจากนิกิต้า”

“ชื่อแบบรัสเซียเหรอ? ”

เขายิ้มบางออกมาอีกครั้ง ฉันเผลอคิดไปว่าบางทีเขาอาจจะเป็นเป็นคุณชายลูกเศรษฐีเจ้าของบ่อน้ำมันก็ได้

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันบอกไป

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

แล้วเวลาที่คนถัดไปจะแนะนำตัวก็มาถึง เขาคือชายผู้มีเส้นผมสีดำปรกเหนือดวงตาสีฟ้าที่เด่นสะดุดตา ชายที่เพียงแค่เดินสวนกันครั้งแรกก็ทำให้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเหลียวหลังกลับไป...อีกทั้งเป็นชายปริศนาที่ทำให้มวลอากาศรอบข้างเคลื่อนไหว... หัวใจของฉันเต้นผิดจังหวะอย่างที่ตัวเองไม่เข้าใจ

“ฉันชื่อแคมม์ จากชื่อเต็มว่าแคเมรอน”

“แคเมรอน...” ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อของเขาจนได้ รู้สึกราวกับร่างของตัวเองปลิดปลิวและล่องลอยไป คงเป็นความรู้สึกที่คล้ายเวลาคนเราได้รู้จักนามอันลึกลับของทูตสวรรค์ หรือไม่ก็ได้ล่วงรู้ปริศนาที่งดงามบางอย่าง และเป็นอีกครั้งที่มวลอากาศวูบไหวรายรอบฉัน หรืออาจเป็นหัวใจของฉันที่เต้นรัวก็ได้

“ฉันชื่อวิคกี้” ฉันแนะนำตัวบ้าง

“ฉันรู้”

คำตอบของเขาทำให้ฉันแปลกใจ ไม่แค่รู้ชื่อของฉัน แต่เจ้าของร่างสูงนั้นยังยิ้มนิดๆ ออกมาด้วย เพียงเท่านั้นฉันก็รู้สึกถึงเม็ดเลือดนับล้านที่วิ่งขึ้นมาเต้นรัวอยู่ที่สองข้างแก้มและทำให้มันร้อนผ่าวอย่างน่าประหลาดใจ

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เพื่อนคนสุดท้ายจะต้องแนะนำตัวกับฉัน เขาก็คือนายจอมบู๊คนนั้นที่อัดอันธพาลจนเสื้อยับแต่ยังหล่อเนี้ยบได้

“แล้วนายล่ะ” ฉันถามเขาก่อน

“ชื่อเซธ” เขาตอบสั้นๆ ดวงตาสีทองแดงดิบแกร่งดูเข้ากันอย่างลงตัวกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มราวกับกาแฟดำไม่ใส่ครีม แถมยังเข้ากันอย่างน่าทึ่งกับชื่อที่ฟังดูแมนสุดขั้วของเขาด้วย

“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ” ฉันบอก ยังงุนงงเหมือนอยู่ผิดที่และไม่ใช่ความจริง เพราะทุกคนดูดีและไร้ที่ติราวกับพร้อมจะถ่ายรูปขึ้นปกแมกกาซีนทุกเวลา ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะเป็นแค่นักศึกษา ที่จริงพวกเขาน่าจะเป็นบอยแบนด์หรือเป็นนายแบบมากกว่า หนำซ้ำท่ายืน ท่าขยับ หรือท่าไหนๆ ก็ดูจะเพอร์เฟคท์ไปทุกองศา ที่สำคัญพวกเขาไม่ใช่แก๊งเด็กเกเรเหมือนที่ฉันคิดเอาไว้เลย

“ยินดีที่ได้รู้จักเธอเช่นกัน”

แล้วเซธก็หันไปคุยกับเพื่อนทั้งสี่ของเขาสั้นๆ เขาบอกว่าฉันจำเป็นที่จะต้องเข้ามาอยู่ในแก๊งของเขา ไม่อย่างนั้นนักศึกษาหญิงคนเดียวในวิทยาลัยอย่างฉันคงจะไม่รอดปลอดภัยไปได้ ไม่นานเพื่อนๆ ของเขาก็พยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยกับเซธ แววตาที่มองฉันเต็มไปด้วยความสงสารราวกับเห็นลูกหมาถูกทอดทิ้ง

ฉันสะดุ้งเมื่อพวกเขาหันมาทางฉันแทบจะพร้อมกัน

“งั้นตอนนี้เธออยู่แก๊งเราแล้วนะวิคกี้” พวกเขาพูดราวกับนัดกันไว้ แต่เดี๋ยวก่อน พวกเขาลืมถามว่าฉันอยากเข้าแก๊งของพวกเขาไหม เมื่อกี้พวกเขาเอาแต่พูดเองเออเอง

แต่ดูเหมือนฉันจะแย้งไม่ทันเสียแล้ว อยู่ๆ ฉันก็กลายเป็นสมาชิกใหม่ในแก๊งห้าคน ของแซค เคนตัน นิค แคมม์ และเซธไปเสียแล้วทั้งที่ยังไม่อยากจะเชื่อ

นับแต่วินาทีนั้นพวกเราหกคนก็กลายเป็นเพื่อนกัน น่าแปลกที่พวกเขาเป็นกันเองกับนักศึกษาใหม่อย่างฉันได้แทบจะทันที ทำให้ฉันไม่รู้สึกแปลกแยกหรือหวาดกลัวเลยสักนิด และถึงพวกเขาจะหล่อจนแบบไม่ต้องสนใจใคร พวกเขากลับไม่ถือตัวและยิ้มง่าย แต่ยิ้มพวกนั้นควรจะซ่อนจากพวกนักศึกษาหญิงให้ดีทีเดียว ไม่อย่างนั้นพวกเธออาจจะกรีดร้องจนเสียสติไปก็ได้ และอาจจะเป็นเพราะรำคาญผู้หญิงพวกเขาถึงพร้อมใจกันมาเรียนวิทยาลัยชาย แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนของฉันแล้วตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

“เหลือเชื่อ แต่ก็...ขอบคุณนะ”

ลมพัดใบเมเปิ้ลสีเขียวของฤดูร้อนโบกสะบัดราวเริงระบำ บ่งบอกถึงบทเริ่มต้นที่สวยงาม ...บทเริ่มต้นระหว่างฉันกับเพื่อนใหม่ทั้งห้า ฉันสัญญาว่าจะรักษามิตรภาพที่พวกเขาใจกว้างหยิบยื่นให้ฉันไว้อย่างดี

สุขสันต์วันเปิดเทอมนะวิคกี้

ฉันกับเพื่อนใหม่คุยกันอย่างสนุกสนานที่สนามหลังโรงเรียนจนเกือบค่ำ

“มืดแล้วล่ะ กลับกันเถอะ” นิคบอกและลุกจากสนามหญ้าเป็นคนแรก จากนั้นคนที่เหลือก็ทยอยลุกตามไป แคมม์เร่งดื่มกาแฟในแก้วพลาสติกให้เสร็จก่อนจะโยนทิ้งลงไปในถังขยะ ฉันมองตามแก้วกาแฟนั้นไป

ฉันยังยืนอยู่อย่างนั้นเมื่อเพื่อนคนอื่นลุกเดินออกจากสนามไปแล้ว

“ทำอะไรอยู่วิคกี้ ไปได้แล้ว” เซธเร่งฉัน

“เดี๋ยวตามไป”

และเมื่อพวกเขาทุกคนไปไกลพอแล้วฉันก็หันซ้ายหันขวา ก่อนจะตรงไปที่ถังขยะแล้วหยิบแก้วกาแฟใส่กระเป๋า

“มาเร็วสิ” เซธเร่งอีก

“รู้แล้วน่า” แล้วฉันก็วิ่งตามเพื่อนๆ ไป

หลังจากเซธกับแซคอาสามาส่งฉันที่บ้านและบอกลากันเรียบร้อย ฉันก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอน เปิดกระเป๋าและเอาแก้วกาแฟออกมา แก้วกาแฟทิ้งคราบน้ำเปียกแฉะไว้ในกระเป๋าด้วย ฝ่ามือของฉันสัมผัสถึงความเยือกเย็นของแก้วนั้น น้ำแข็งในแก้วละลายใกล้หมดแล้ว และที่เจืออยู่กับเม็ดไอน้ำแวววาวบนผิวแก้วก็ราวกับสัมผัสของแคเมรอน ...แก้วใบนี้ยังเหมือนมีไออุ่นจากมือของแคเมรอนอยู่เลย...

ฉันตั้งแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะข้างหน้าต่าง จ้องมองมันอยู่เนิ่นนาน รู้สึกราวกับแก้วที่เปรอะหยาดน้ำนั้นมีชีวิตเป็นของตัวเอง และมันเป็นเพื่อนของฉัน... เป็นตัวแทนของเจ้าของใบหน้าที่โดดเด่นน่ามองที่สุดนั่น

“แคเมรอน...” ฉันรู้สึกราวกับต้องมนตร์เมื่อเอ่ยชื่อที่ไพเราะนั้น ก่อนจะพูดกับแก้วกาแฟ “ฉันขอใช้นายเป็นแก้วใส่ดินสอในห้องของฉันนะ อยู่ที่นี่กับฉันล่ะ”

แล้วหัวใจของฉันก็อบอุ่นขึ้นมา นึกไปถึงดวงตาราวกับอัญมณีสีฟ้าที่งดงามน่าหลงใหล ล้อมกรอบไว้ด้วยเส้นผมสีดำ วินาทีนั้นฉันมองเขาจนเหลียวหลัง แล้วฉันก็คิดถึงทุกวินาทีที่ได้เห็นเขาคนนั้น

‘ฉันชื่อวิคกี้’

‘ฉันรู้’ เขาพูดแบบนั้น แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูกที่เขารู้จักชื่อของฉัน แต่เดี๋ยวก่อน เขาพูดแบบนั้นก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร ในเมื่อตอนปฐมนิเทศฉันแนะนำตัวกับเพื่อนทั้งชั้นไปแล้ว ทำเป็นลืมไปได้ เพราะฉะนั้นที่เขาพูดว่ารู้แล้วก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร

แต่ถึงเราจะได้อยู่แก๊งเดียวกันแล้วเราก็ยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย ท่ามกลางทุกคนเขาเขาดูเงียบ ช่างฝัน บางครั้งดวงตางดงามเหม่อมองออกไปไกลๆ ราวกับเขาอยู่คนเดียวเป็นบางครั้งท่ามกลางเพื่อนที่คุยสนุกสนานกันในแก๊ง แคเมรอนมีโลกส่วนตัวสูง และในบรรดาเพื่อนห้าคนเซธดูจะสนิทกับเขามากกว่าใคร เขาคุยกับเซธมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับที่คุยกับคนอื่น มีบางสิ่งที่ดูราวกับภาพวาดที่อยู่ห่างไกลและจับต้องไม่ได้ในความเป็นแคเมรอน...ไม่ว่าจะแววตาหรือรอยยิ้ม ฉันอยากจะเข้าใจเขา อยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้

ฉันชื่อของเขาลงไปในสมุดบันทึก ฉันวาดการ์ตูนเป็นรูปของเขา ฉันคิดถึงเขาจนน่าประหลาดใจ และฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

“วิคกี้ เธอเป็นอะไรไป?? ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel