ตอนที่5
ทั้งสี่คนแยกย้ายกันกลับหลังเจรจาเรียบร้อย ราเชนอาสาไปส่งเธอ แต่คนตัวเล็กกลับปฏิเสธเพราะมีที่ที่ต้องไปก่อนกลับคอนโดโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนเดินตามเธอมาตั้งแต่ร้านอาหาร
ขาเรียวสวยเลี้ยวเข้าร้านหนังสือแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารมากนัก เธอจึงเดินเท้ามาแทนการนั่งรถประจำทางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและยังได้ออกกำลังกายไปในตัว
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่มีหนังสือเรื่องนี้ไหมคะ พอดีเห็นในเพจบอกร้านนี้มีขายน่ะค่ะ" เมื่อเดินหาจนรอบร้าน แต่ยังไม่เจอเรื่องที่หาเธอจึงเดินเข้าไปถามพนักงานหน้าร้าน
"เรื่องนี้ต้องสั่งจองค่ะ ที่วางหน้าร้านเพิ่งหมดไปเมื่อเช้าเองค่ะ"
"ถ้าสั่งจะได้รับวันไหนคะ"
"ประมาณเจ็ดวันค่ะ ทางร้านจะติดต่อไปถ้าหนังสือมาถึงค่ะ"
"ค่ะ ถ้างั้นขอสั่งไว้ก่อนค่ะ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวรบกวนกรอกรายละเอียดลงในใบนี้นะคะ" พนักงานยื่นกระดาษให้เธอเขียนรายละเอียดหนังสือที่ต้องการจะจองก่อนจะจ่ายเงินให้เรียบร้อย
พริมาเดินดูหนังสือเล่มอื่นอีกรอบ เธอรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่เธอ แต่พอหันไปก็ไม่เจอใคร ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัย การใช้ชีวิตตัวคนเดียวส่งผลให้เธอต้องระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา
หญิงสาวก้าวขาฉับๆ หนีคนที่ตามมา เธอไม่รู้ว่าเงาตะคุ่มที่ตามเธอติดนั้นเป็นใครและต้องการอะไร แม้จะเป็นช่วงกลางวันแสกๆ เธอก็ไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด
หมับ! จู่ๆ มือหนาของใครบางคนก็คว้าเข้าที่แขนเล็กของคนที่มัวแต่ก้มหน้าเดินตรงไม่สนใจใคร
"ปล่อยนะ!" พริมารีบสะบัดแขนออกไม่ทันได้หันมามองว่าใครที่จับแขนเธอ
"พี่พิม ผมเอง" น้ำเสียงของคนด้านหลังเอ่ยออกมาก่อนจะถอดหมวกเผยใบหน้าชัดๆ ให้เธอเห็น
"กาย!"
"จำผมได้ด้วยเหรอครับ" กรัณย์ยอมปล่อยแขนเธอออกแล้วยืนกอดอกทำหน้าบึ้งตึงใส่
"ก็เราเพิ่งเจอกันเมื่อกี้นี่คะ" คนตัวเล็กแกล้งทำไขสือ เธอเผลอลืมตัวเรียกชื่อเขาห้วนๆ ไปเสียแล้ว
"แน่ใจเหรอครับว่าเราแค่เพิ่งเจอกัน"
"ค่ะ ก็เราไม่รู้จักกันนี่คะ"
"หึ! แกล้งเนียนให้ได้ตลอดนะครับ"
"ฉันไม่ได้แกล้งเนียน แต่เราไม่ได้รู้จักกันจริงๆ" พริมายังคงเล่นละครต่อไปจนเนียนเสียกว่าคนเป็นนักแสดงอย่างกรัณย์
"ไม่รู้จักก็ไม่รู้จัก"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว"
"เฮ้ย! พี่ระวัง" เสียงทุ้มรีบร้องห้ามเมื่อหญิงสาวสะบัดหน้าหนี ด้วยความไม่ทันมองทำให้หน้าผากของเธอชนเข้ากับป้ายตรงหน้าเสียงดังโป๊ก!
"โอ๊ย! เจ็บๆ" พริมายกมือกุมหน้าผากตัวเอง
"พี่นี่เนอะ ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิม" กรัณย์ฉวยโอกาสจับใบหน้าของเธอให้เงยขึ้น สองสายตาสบกันโดยไม่ตั้งใจ แต่เป็นพริมาที่หลบตาเขาก่อน
"ทำไมไม่สบตาล่ะ"
"ไม่มีความจำเป็นนี่คะ"
"แล้วทำไมไม่ระวังล่ะ ถ้าชนแรงกว่านี้หัวแตกได้เลยนะ" คนตัวโตเผลอเอ็ดด้วยความเป็นห่วง ไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนนี้เธอก็ทำให้เขาเป็นห่วงได้ตลอด
"ก็ฉันมองไม่เห็นนี่"
"ผมถึงได้รีบจับมือพี่ไว้ไงไม่งั้นชนแรงกว่านี้ไปแล้ว" ที่เขารีบคว้ามือเธอก็เพราะคนตัวเล็กเล่นเดินก้มหน้าไม่สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถือว่าโชคยังดีที่ครั้งนี้ชนไม่แรงมาก
"ไม่ต้องมายุ่ง!"
"คนเขาอุตส่าห์หวังดี รู้แบบนี้ปล่อยให้เดินชนหัวแตกไปเลยดีกว่า"
"ทีหลังก็ไม่ต้องมายุ่ง เรารู้จักกันหรือไงคะ"
"จะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักจริงๆ ใช่ไหม"
"ฉันไม่ได้แกล้งค่ะ ก็เราไม่รู้จักกันจริงๆ คุณก็เพิ่งบอกไปก่อนหน้านี้" พริมาเงยหน้าตอบอย่างมั่นใจ เธอกับเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วทำไมต้องเป็นคนรู้จักกันด้วย
"จะเอาแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม"
"พูดเรื่องอะไรของคุณ"
"พี่ยังไม่ลืมเรื่องของเราใช่ไหม"
"..." ไร้คำตอบจากคนตรงหน้า ยิ่งทำให้คนใจร้อนไม่พอใจ
"ตอบมาสิ! ยังไม่ลืมใช่ไหม!" น้ำเสียงเข้มตะคอกเสียงดังเพื่อเค้นคำตอบจากเธอ
"เป็นบ้าอะไรของคุณ อยากให้คนอื่นมาเห็นหรือไง" พริมามองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็น โชคดีตรงที่เธอยืนเป็นซอยเล็กๆ ไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมา
"ช่างคนอื่นสิ!"
"ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณทั้งนั้น ช่วยปล่อยมือฉันด้วยค่ะ!" เธอพยายามสลัดแขนออกจากการกอบกุมของเขา แต่ก็ไม่เป็นผลเธอไม่สามารถต้านทานแรงของเขาได้
"ไม่ปล่อย!"
"มันจะมากไปแล้วนะคะ ถ้ายังไม่ปล่อยฉันจะโทรแจ้งตำรวจ" พริมาทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาขู่ให้คนตรงหน้ากลัว
"แม่ง! พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด ทำไมชอบหนีอยู่เรื่อย"
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่เราไม่ได้รู้จักกันค่ะ" หญิงสาวยังยืนยันคำเดิม เธอไม่ขอข้องเกี่ยวในชีวิตเขาอีกแล้ว ยิ่งตอนนี้เขาทั้งมีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของคนในสังคม เธอยิ่งต้องออกห่างเขา
"ได้! จะทำแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม พี่คงไม่รู้สินะว่าพี่เป็นคนทำให้ผมไม่เชื่อในความรักอีก พี่ทำให้ผมรักใครไม่ได้อีก พี่เป็นคนผิดรู้ไว้ด้วย!" กรัณย์ระบายออกมาหวังให้คนตรงหน้าปลอบโยน แต่เปล่าเลยพริมาได้แต่ยืนมองเฉยๆ แววตาไร้ความรู้สึก แม้แต่ความสงสารก็ไม่มี
"ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วฉันขอตัวนะคะ"
คนใจแข็งหันหลังเดินออกจากตรงนั้นทันที แต่หารู้ไม่ว่าตอนที่เธอหันหนีเขามาได้ น้ำตาเม็ดใสที่กลั้นเอาไว้ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างห้ามไม่ได้
"ฉันขอโทษ...ฮึก" เธอได้แต่ขอโทษเขาซ้ำๆ ในตอนที่อยู่คนเดียว ความผิดทั้งหมดเริ่มต้นมาจากเธอ
ในอดีตความสัมพันธ์ของเธอกับกรัณย์ค่อนข้างไปในทางที่ดี แม้ว่าครอบครัวเธอกับเขาจะเกลียดขี้หน้ากันก็ตาม ทว่าทั้งคู่ก็ได้แอบคบหากันโดยไม่บอกใครรู้ เขาเป็นรุ่นน้องเกือบสองปี แต่กลับรู้สึกถึงความโตเป็นผู้ใหญ่ที่คอยปกป้องเธอได้
"เรื่องของเรามันจบไปนานแล้วกาย ฉันขอโทษ" พริมาต้องเป็นทำใจแข็งแสร้งไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในใจบอบช้ำแทบจะร้องไห้
หากให้ย้อนอดีตกลับไปได้เธอก็ยังมั่นใจว่าจะตัดสินแบบนี้ อย่างไรความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนไหนมันก็ไม่มีทางไปรอดได้
