บทที่ 4 “ฉันขอร้อง” (2)
บทที่ 4
“ฉันขอร้อง” (2)
“ฉันนี่แหละประธานบริษัท”
“!!!” ราวกับโชคชะตาเล่นตลกกับเธอให้ต้องมาพบเจอกับคนที่เกลียด คาเธียร์ถอยหลังเล็กน้อยและมองคนตรงหน้าด้วยความสับสนเต็มหัวไปหมด
“มีอะไรจะคุยก็ว่ามา ฉันมีเวลาไม่มาก”
“ฉะ ฉัน...” ร่างบางเอ่ยเสียงตะกุกตะกักถ้าหากไม่มีคำว่างานค้ำคอเธอก็จะรีบเดินหนีคนตรงหน้าไปให้เร็วที่สุดแล้ว
“ถ้าไม่มีก็ขอตัว ไม่ได้ว่างหายใจทิ้งไปวันๆ” อลันเอ่ยก่อนจะทำท่าเดินออกไปแต่ก็ถูกเสียงเล็กเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ดะ เดี๋ยว...เดี๋ยวสิ”
“ว่ามา”
“คะ...คือ ฉัน...ฉันต้องการเฟอร์นิเจอร์ของบริษัทนาย ทางลูกค้ารีเควสมาว่าอยากได้ของบริษัทนายเท่านั้น ถ้านายตกลงฉันจะวางมัดจำให้ 20% เมื่อโครงการเริ่มดำเนินไปได้ไกลแล้วฉันจะจ่ายส่วนเหลือให้”
“ฉันปฏิเสธ” เสียงเข้มเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบเพราะเขาเองก็มีหลากหลายบริษัทที่ติดต่อให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย แล้วทำไมเขาถึงจะต้องยอมขายให้บริษัทเธอด้วย
“ทำไมล่ะ ฉันจะให้นายเซ็นเอกสารเพื่อเข้าร่วมบริษัทด้วยกัน หากมีงานโครงการอื่นๆ ทางบริษัทฉันจะสั่งออเดอร์จากบริษัทนายอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าบริษัทนายจะเป็นที่รู้จักแน่นอน”
“แต่บริษัทฉันเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้วนะ ทำไมต้องมาร่วมกับบริษัทเธอด้วย”
“อึก...” คาเธียร์ชะงักไปเมื่อเจอกับสายตาคมที่จ้องมองเธอนิ่ง
เวลาที่เขาจริงจังกับงานแล้วดูน่ากลัวอย่าบอกใครเชียว...
“...แล้วฉันต้องทำยังไงนายถึงจะยอม”
“ฉันอยากได้น้องสาวเธอ!”
“นี่นาย! หัดแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานได้ไหม!” คาเธียร์ตวาดลั่นอย่างเหลืออด เธอเองก็ไม่ได้เป็นพี่สาวที่เลวถึงขนาดยกน้องสาวให้คนแปลกหน้าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ
อีกหนึ่งสาเหตุที่เธอคาดเดาที่เจ้าตัวปฏิเสธก็เป็นเพราะเมื่อคืนเธอห้ามน้องสาวไม่ให้ไปไหน เพราะคำขู่ที่อลันทิ้งท้ายไว้ให้ว่าจะจัดการกับน้องสาวเธอ คาเธียร์เลยออกอุบายว่าจะชวนเธอไปช้อปปิ้งซึ่งมันก็ได้ผล
“งั้นก็เชิญ” อลันผายมือไปทางประตูทำให้คาเธียร์กำมือตัวเองแน่น
“ฉะ ฉันขอร้อง...โครงการนี้สำคัญกับฉันมาก ฉันอยากได้เฟอร์นิเจอร์ของบริษัทนายจริงๆ” คาเธียร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“นั้นมันปัญหาของเธอรึเปล่า”
“เราโตๆ กันแล้วนะ นายอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงานได้ไหม...”
“...ถ้านายต้องการอะไรแล้วฉันสามารถให้ได้ก็บอกมาเลย เงินส่วนแบ่งกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ามา หรือว่านายต้องการ...”
“ตกลง” เสียงเข้มเอ่ยแทรกทำให้คาเธียร์หยุดพูดและมองคนตัวโตด้วยความแปลกใจ
“นะ...นี่! น...ะนาย”
“ฉันตกลง”
“จะ จริงนะ” คาเธียร์ยิ้มกว้างออกมาทำให้อลันชะงักไป
รอยยิ้มหวานนั้น...
“ส่วนเรื่องที่อยากได้...”
“นายอยากได้อะไร บอกฉันมาได้เลย”
“ฉันยังคิดไม่ออก คิดออกจะมาบอกแล้วกัน...”
“...แต่ฉันมีข้อแม้อย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าเธอจะตอบตกลงไหม”
“ตกลง!” คาเธียร์ตอบกลับทันควันอย่างลืมตัว
“ฟังก่อน แล้วค่อยตอบ” อลันส่ายหน้าเบาๆ เมื่อเห็นท่าทีหญิงสาวดีใจออกนอกหน้าเกินเหตุ
“ก็ได้...”
“เธอต้องเป็นคนคุยงานกับฉันโดยตรง เวลาไปดูโครงการเธอก็ต้องไปกับฉัน”
“ทำไมล่ะ บริษัทนายไม่มีพนักงานรึไง”
“มี แต่อยากไปเอง”
“ไหนบอกยุ่งนักยุ่งหนา”
“หยุดบ่น สรุปตกลงไหม”
“ตกลง! แค่นี้สบายมาก” คาเธียร์ตอบอย่างมั่นใจ เรื่องแค่นี้สำหรับเธอนั้นเล็กน้อยมาก
“โอเคดีล” อลันยื่นมือมาตรงหน้าคาเธียร์ทำให้เธอนิ่งไปชั่วครู่
“ดีล” คาเธียร์จับที่มือหนาเบาๆ ซึ่งการเจรจาทางธุรกิจในวันนี้เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
“แปลว่าเราอยู่ทีมเดียวกันแล้วนะ”
“แค่เรื่องงานเท่านั้น เรื่องอื่นอย่าหวัง!”
Rrrrr Rrrrr
เสียงโทรศัพท์ของคาเธียร์ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนปรายตามองคนตรงหน้าเล็กน้อยและกดรับสายในที่สุด
“ว่าไงคะแดช” เสียงหวานเอ่ยกับแฟนหนุ่ม
(ทำอะไรอยู่ครับ)
“เธียร์ออกมาคุยธุระข้างนอกค่ะ แต่ว่าคุยเสร็จแล้ว”
(ดีเลยครับ งั้นเดี๋ยวผมไปหาเธียร์ที่บริษัทนะครับ)
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวเธียร์ไปหาแดชอะ...”
พรึ่บ!
หมับ!
“นี่นาย!!” คาเธียร์หันขวับเมื่อถูกมือหนาปัดโทรศัพท์ของเธอออกแถมยังยึดมันไว้กับตัวเขาด้วย
“เรายังคุยกันไม่เสร็จ”
“เราคุยกันเสร็จแล้ว”
“ทำไมจะรีบไปหาแฟนรึไง”
“เออ! มีปัญหาอะไรไหม เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา!” คาเธียร์เริ่มมีน้ำโหเธอมองคนตัวโตตาเขียวพลางแย่งโทรศัพท์มาจากมือของเขา
พรึ่บ!
อลันยกมือขึ้นสูงเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กแย่งมือถือคืนไปได้ง่ายๆ ส่วนสูงของคาเธียร์นั้นก็นับว่าเป็นคนที่สูงเลยทีเดียวแต่ด้วยขนาดตัวของอลันที่มีส่วนสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดทำให้ยากต่อการแย่งมือถือคืน
“ไอ้บ้า! บอกให้เอาคืนมา ประสาทรึไง!”
“คาเธียร์ พูดดีๆ” อลันกดเสียงต่ำและมองคนตัวเล็กด้วยสายตาดุ
“ก็เอามาสิ เอาคืนมา อ๊ะ!”
พรึ่บ!
ตุ้บ!
ร่างของคาเธียร์เสียหลักจากการเขย่งทำให้เธอล้มลงจะกองกับพื้นแต่ทว่ากลับถูกวงแขนแกร่งคว้าเอวบางเอาไว้ได้ทัน
คาเธียร์หลับตาแน่นเพราะเธอจินตนาการไปถึงความเจ็บปวดที่จะได้รับไว้อยู่แล้วเนื่องจากความไม่ระวังของเธอเองทำให้ต้องเจ็บตัวแบบนี้
“ฟินไหม” เสียงเข้มเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งพลางมองใบหน้าหวานที่หลับตาแน่นด้วยความกลัว
“นะ...นี่!”
พลั่ก!
มือเล็กรีบผลักอกแกร่งออกก่อนจะถอยหนีไปสองก้าว เธอยังจำเรื่องเมื่อวานได้เป็นอย่างดีเรื่องที่เขาจูบเธอจนแทบขาดอากาศหายใจ หากไม่มีความจำเป็นต้องมาคุยเรื่องธุรกิจเธอจะไม่เข้าใกล้เขาเกินสองเมตรแน่นอน
“คิดว่าเป็นนางเอกละครอยู่รึไง ตัวหนักฉิบ”
“ไอ้บ้า! ประสาท...ฮึ่ย!”
“ฉันบอกให้พูดดีๆ ผู้หญิงอะไรพูดไม่เพราะเลย”
“ทำไม! เป็นผู้หญิงแล้วมันทำไมฮะ!? มีแค่ผู้ชายเท่านั้นใช่ไหมถึงจะพูดคำหยาบได้ เป็นผู้หญิงมันไม่สามารถทำเหมือนผู้ชายได้รึไง!!!”
“เป็นบ้าอะไรของเธอ บ่นอะไรอยู่ได้”
“ก็ผู้หญิงอย่างนี้นี่แหละมีปัญหาอะไรไหม โอ๊ย! ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน ส่วนเรื่องงานเดี๋ยวจะให้เลขาแจ้งอีกที” คาเธียร์รีบตัดบทสนทนาก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าใบหรูของตัวเองขึ้นมาคล้องที่แขน
“เดี๋ยว” เมื่อร่างบางจะเดินออกไปกลับถูกเรียกเอาไว้ คนตัวเล็กหันมาด้วยสีหน้าเอาเรื่องเพราะเธอเองก็นึกรำคาญคนตัวโตนี้อยู่ไม่น้อย
“อะไรอีก”
“ฉันอุตส่าห์ช่วยเธอ ไม่คิดจะเลี้ยงข้าวขอบคุณหน่อยรึไง”
“ก็ไว้หวังหลัง วันนี้ฉันไม่ว่าง” คาเธียร์บอกปัดๆ เพราะเธอเองก็มีนัดกับแฟนหนุ่มเช่นกัน
“ฉันจะไปวันนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ลืมไปได้เลยว่า เมื่อกี้เราตกลงกันว่าไง”
“อะ...ไอ้ นายมัน!”
“ว่าไง จะเลี้ยงไหม”
“ก็ได้! เลือกร้านมาแล้วกัน!”
“หึ! ก็แค่นั้น”
