MY BROTHER [镜幻情人]

116.0K · จบแล้ว
รุ่งอรุโณทัย
54
บท
3.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หมับ! สุ่ยถิงตกใจเพราะเธอกำลังสนใจลังบรรจุหนังสือมากมายก่ายกองอยู่ แต่จู่ๆต้าเซียนก็จับไหล่เธอทั้งสองข้างและดึงเธอเข้าไปกอดแนบอกอุ่นๆเขาไว้ เธอยังไม่ชินกับการกระทำแบบนี้ของเขาจึงไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองกลับไปแบบไหนดี เธอจึงยืนนิ่งๆ แม้แต่จะหายใจเธอยังต้องคิดดูก่อนว่าควรหายใจดีมั้ย“ถ้าพี่อยากกอดเธอแบบนี้ทุกวัน วันละหลายๆครั้ง ครั้งละนานๆ พี่จะกลายเป็นฆาตกรฆ่าเธอทางอ้อมหรือเปล่านะ” “พี่พูดอะไรนะ” สุ่ยถิงนิ่งเงียบอยู่นานก่อนเอ่ยถามออกไป “จะกลั้นหายใจทำไม พี่แค่กอดไม่ได้พาเธอไปดำน้ำเสียหน่อย” ^//^ ควรบอกเขามั้ยว่า หัวใจเธอเต้นแรงเกินรับได้เสียแล้ว ห่างกันไปเจ็ดวันเท่านั้น ทำไมต้าเทียนเซียนคนเคร่งขรึมถึงได้หายไปอย่างเรียกกลับมาไม่ได้เสียแล้ว

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันหมอนางเอกเก่งอาหารรักวัยรุ่นรักแรกพบโตมาด้วยพระเอกเก่ง

ตอนที่ 1 [1/2]

ผลั๊วะ!!!!

“ต้าเซียน!”

“อืม”

“ทำไม...ทำไมพี่ถึงอยู่ละ” สุ่ยถิงหรือนาเดียร์ แปลกใจที่เห็นต้าเซียนหรือต้าเทียนเซียนตอนนี้ และดวงตาเหลือบมองไปที่โต๊ะอาหาร มื้อเย็นถูกจัดเตรียมแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขาต้องกลับมานานแล้ว

“ทำไมพึ่งกลับ วันนี้ตามตารางและระยะทางควรต้องถึงตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว” นาเดียร์หลบสายตาที่จับจ้องมอง จะให้บอกว่าไงละ ก็ถ้ารู้ว่าพี่ชายจะกลับมาเร็วแบบนี้ ก็คงกลับมานานแล้ว นาเดียร์ขยับเดินเข้ามาข้างในขณะที่กำลังใช้ความคิดว่าจะตอบคำถามจับผิดนี้ดีมั้ย หรือว่าเปลี่ยนเรื่องไปเลย จะบอกว่าแวะซื้อของก็ไม่ได้ ในมือเธอไม่มีของอะไรเลย

แต่ดูจากท่าทางของพี่ชายแล้ว คงต้องมีคำตอบสินะ กอดอก นิ่งทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่ดวงตา จดจ้องมาที่เธออย่างแน่วแน่

“วันนี้ฉันไม่ได้ไปห้องสมุดตามที่ได้บอกพี่ไว้ค่ะ” นั่นไงละคิ้วเข้มของพี่ชายเข้าหากันแล้ว คร่อกกก!!!! เสียงท้องร้องของนาเดียร์เป็นดั่งระฆังช่วยชีพจริงๆ เพราะพี่ชายเห็นเรื่องกระเพาะของเธอสำคัญกว่า

“ไปนั่ง...” นาเดียร์แอบยิ้มอย่างโล่งอก รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าหวานเมื่อมองจานอาหารบนโต๊ะ อาหารจีน คิดถึงจังเลย ไม่ง่ายเลยที่ต้าเซียนจะมีเวลาทำอาหาร ฝีมือเขาไม่ธรรมดาด้วยละ...

“ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ข้าวเรากิน...ขอบคุณค่ะต้าเซียน” คำพูดที่นาเดียร์ปฎิบัติมาโดยตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ‘ขอบคุณค่ะพ่อ’ เปลี่ยนเป็น ‘ขอบคุณค่ะต้าเซียน’ มาหนึ่งปีแล้ว บรรยากาศตามความเคยชินนาเดียร์ย้อนคิดมื้อแรกที่เป็นแบบนี้ เมื่อหนึ่งปีก่อน หลังจากที่พ่อของเธอและแม่ของต้าเซียนประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางกลับจากร้านอาหารที่พวกเขาไปฉลองครบรอบ ซึ่งพวกเขาแค่ไปดูการแสดงบร์อดเวย์ที่นิวยอกร์แค่นั้น แต่ใครจะคิดว่านั้นเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของพวกเขา ตามความเข้าใจของสุ่ยถิง

“สุ่ยถิง...” เสียงเรียก ดึงสาวน้อยตรงหน้ากลับสู่ปัจจุบัน

“อ้า! ขอโทษค่ะ” ต้าเซียนแค่มอง แววตาและสีหน้าแบบนั้นของเธอมีอย่างเดียว คิดถึงพ่อของเธออีกแล้ว สุ่ยถิงคือชื่อจีนของเธอ สำหรับที่นี่คงมีแต่เขาเท่านั้นที่เรียกเธอด้วยชื่อจีน

“พรุ่งนี้ออกเร็วหน่อยนะ ดอกไม้ พวกเราต้องแวะไปเอาเอง”

“ค่ะ” นาเดียร์ตอบรับอย่างเศร้าๆ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของพวกท่าน แต่สำหรับนาเดียร์แล้วเธอจะได้ไปเยี่ยมแม่ที่เสียไปตั้งแต่ที่เธอยังเด็กๆด้วย ส่วนต้าเซียนเขาทำความเคารพได้แค่แม่ของเขาเท่านั้น เมื่อพ่อของเขาท่านก็เสียไปแล้วเช่นกันเท่าที่เธอรู้ท่านเสียไปตั้งแต่ต้าเซียนอายุสิบขวบประมาณนั้นท่านอยู่เซี่ยงไฮ้ ต้าเซียนย้ายมาจากเซี่ยงไฮ้ได้สองปีแล้ว

...จะว่าไปเธอยังรู้สึกทึ่งกับต้าเซียนมาก เพราะเขาเป็นนักศึกษาแพทย์เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เซี่ยงไฮ้ แต่ต้องย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่ใครจะเชื่อว่าเขาจะทำได้ และทำได้ดีมาโดยตลอดเลยด้วย รวมถึงในฐานะพี่ชายด้วย

“ฉันเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วนะ”

“อื้ม!” นาเดียร์รับสั้นๆ สำหรับเรื่องนี้...เชื่อเขาเลย พี่ชายของเธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปกี่ครั้งแล้วนะ จนตอนนี้เธอแค่รับฟัง ไม่ได้เปลี่ยนหรือแก้ไขหมายเลขในเครื่องโทรศัพท์เพราะเธอลบรายชื่อเขาทิ้งไปนานแล้ว แค่เห็นว่าเป็นเบอร์โชว์โทร.เข้ามา ให้คาดการณ์ไว้เลยว่าเป็นต้าเซียนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

สาเหตุก็มาจากรูปร่างหน้าตาของเขา เธอเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่า บนโลกนี้จะมีมนุษย์แบบนี้มาจุติ ‘จุติ’ เป็นคำที่เขาใช้กับเทพ เทพเจ้าที่มีภารกิจหรือถูกลงโทษให้มาจุติหรือต้องมาเกิดบนโลกมนุษย์...เฮ้ยยยไร้สาระไปแล้วนาเดียร์

นาเดียร์จึงเลี่ยงที่จะไม่ถามว่าทำไมเขาถึงไม่โทร.หาเธอทุกครั้ง สาเหตุก็คงเพราะการเปลี่ยนเบอร์ละมัง...คงน่าจะเป็นช่วงบ่ายวันนี้แน่ๆ ซึ่งเธอเคยถามเขาครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาเปลี่ยนเบอร์ครั้งที่สามเห็นจะได้ ว่าทำไมเขาถึงสามารถเปลี่ยนซิมได้เร็วปานสายฟ้า ทั้งๆที่เขาออกจะยุ่งวุ่นวายในเรื่องที่มีสาระซะขนาดนั้น และตอนนั้นเขาก็ตอบออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อว่าทำไมเธอถึงคิดไม่ได้นะ!

“แกะฝาเครื่อง ดึงซิมเก่าออกมา และใส่ซิมใหม่เข้าไป”

“วิธีการเปลี่ยนซิม ฉันรู้ แค่ว่าทำไมมันถึงเปลี่ยนได้ทันทีต่างหาก...อ๊ะ! อย่าบอกนะว่าพี่มีซิมสำรองติดตัวอยู่แล้ว...”

“อืม เพราะไม่มีเวลาไปซื้อบ่อยๆนะ”

“ว้าว!...พี่มีสต็อคทีละกี่ซิมอ๊ะ?” นาเดียร์ยิ้มออกมาเมื่อมีแต่คำถามของเธอ แต่ไร้ซึ่งคำตอบจากเขา พี่ชายคงอยากเก็บไว้เป็นความลับแน่ๆ แต่ให้เธอเดาก็คงครั้งละไม่ต่ำว่าสามซิมแน่ๆ ก็เบอร์ของเขานะมันมีค่าหัวด้วยนี่น่าเท่าที่เธอรู้มา...ไม่ธรรมดาจริงๆ พี่ชายเทพของเราคนนี้

อ๊ะ!ตะเกียบของเธอกับเขาชนกัน เมื่อเธอเอาแต่คิดเรื่อยเปื่อย และเป็นไปตามคาดต้าเซียนจะถอยให้เธอในทันทีเหมือนทุกๆครั้ง เธอเกิดและเติบโตที่ชิคาโก พ่อมาจากเซี่ยงไฮ้ ท่านก็มาเรียนต่อที่ชิคาโกและได้พบรักกับแม่...แล้วไง! ก็มีเธอไง แต่แม่ท่านจากไปเร็วนัก ซึ่งตอนนั้นพ่อยังต้องเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางอยู่เลย ฉันรักพ่อฉันมาก เพราะพ่อเป็นผู้ชายที่น่าทึ่งมากคนหนึ่งเลยเช่นกัน ท่านเลี้ยงลูกเล็กๆ เพียงลำพัง ในขณะที่ยังเรียนต่อ และยังทำงานเป็นแพทย์โรงพยาบาลในชิคาโกด้วย แม้ฉันจะต้องไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กยามที่พ่อต้องเข้าเรียนและทำงาน ช่วงเวลานั้นเท่านั้นที่ฉันและพ่อห่างกัน ฉันก็ยังรักพ่อและรับรู้ถึงความรักที่พ่อมอบให้อย่างอบอุ่น

พ่อมีแต่ฉัน และ ฉันมีแต่พ่อ แล้วต้าเทียนเซียนกับแม่เขามาได้อย่างไรเหรอ ฉันเองก็ยังงงๆ เหมือนกัน แค่วันหนึ่งพ่อเข้ามาถามว่า ถ้าพ่อมีใครสักสองคนมาเป็นสมาชิกในครอบครัวฉันจะว่าอะไรมั้ย? ตอนนั้นฉันอายุสิบหกเท่านั้น แต่เมื่อเห็นดวงตาและใบหน้าที่มีความสุขของพ่อในตอนนั้น

“บ้านเราคงครึกครื้นมากขึ้นเลยนะคะ...หนูแทบจะรอไม่ไหวเลยค่ะ...” คำตอบแบบนั้น ทำให้พ่อมีความสุขมากขึ้น นั่นแหละที่ฉันต้องการ เพราะฉันเชื่อใจพ่อ พ่อซึ่งท่านต้องเลือกคนดีเหมือนแม่ของฉัน ฉันไม่รู้จักแม่ เพราะท่านจากไปเร็วเหลือเกิน แต่จากที่พ่อไม่มีใครมาตลอดสิบหกปี นั้นคงเพราะแม่ฉันเป็นหญิงสาวที่วิเศษมากๆไงล่ะ

“สุ่ยถิง ต้องเตือนอีกกี่ครั้ง ว่าเวลานี้คือเวลากิน” นาเดียร์ก้มหน้าก้มตากินต่อทันที พี่ชาย พี่ชายเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ที่ฉันบอกพ่อไปว่าบ้านเราคงครึกครื้นมากขึ้น...แล้วนะต้าเซียนนอกจากจะเป็นคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เรียกชื่อจีนของฉัน เขาก็พูดจีนกับฉันตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน แต่ที่แปลกกับคำพูดของเขามาก ตอนที่เจอกันครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน

“…เธอเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้ง” คำทักทายตอบกลับของเขา หลังจากที่เธอมีมารยาทในฐานะเจ้าบ้าน เมื่อพ่อพาต้าเซียนและแม่เขามาบ้านครั้งแรก ประโยคแรกที่เขาทักทายเธอเป็นภาษาจีนกลาง แน่นอนว่าเธอพูดภาษาจีนกลางได้ ก็พ่อเป็นคนเซี่ยงไฮ้ พ่อไม่มีทางปล่อยให้ฉันไม่รู้ภาษาจีนไปได้แน่ๆ ว่าแล้วเรื่องนี้เธอก็อยากจะถามต้าเซียนหลายครั้งแล้วเหมือนกัน

“ต้าเซียน”

“หืม?”

“พี่จำตอนที่พี่มาบ้านฉันครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนได้มั้ย?”

“ให้จำอะไร” ตาเซียนวางตะเกียบ และย้ายสายตามามองฉัน

“ก็ตอนนั้นที่พี่บอกว่า ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้ง พี่หมายความว่าอย่างไร เจอกันอีกครั้ง ฉันสงสัยมาตั้งนานแล้ว”

“ก็นานอยู่ สองปีแล้ว” นาเดียร์มองบน เฮ้ยยย! นี่แหละพี่ชายเธอ ธรรมดาน้อยเสียที่ไหน

“เราสองคนเคยเจอกันมาก่อนเหรอคะ?”

“แล้วเธอคิดว่าไง?”

“แล้วทำไมพี่ถึงกลายมาเป็นฝ่ายตั้งคำถาม ฉันละ?”

“มันก็เป็นสิทธิที่ฉันจะต้องประเมินความเป็นไปได้ของคำถามก่อนที่ฉันจะให้คำตอบ...”

“ประเมินความเป็นไปได้ของคำถาม...เฮ้ยยยย! ทำไมนะ ฉันก็รู้จักพี่มาเกือบสองปีแล้ว ฉันถึงไม่ชินหรือตั้งรับความเป็นเทพของพี่ไม่ได้สักที” ต้าเซียนยิ้มออกมา และคีบเนื้อปลาให้กับนาเดียร์

“วันนี้ไปไหนมา” คำถามที่มาแบบไม่คาดคิด ทำเอานาเดียร์แทบสำลักข้าวที่กำลังกลืนลงคอ ต้าเซียนวางตะเกียบและยื่นแก้วน้ำให้กับเธออย่างใจเย็นและนิ่งสงบตามแบบฉบับของเขา พร้อมด้วยดวงตามองที่เธออีกแล้ว เธอยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ เรื่องที่เธอแอบไปมาวันนี้

“เอ่อ! คือว่าฉันไป ไปดูหอใน ในมหา’ลัย มาค่ะ” ตาเซียนสงบนิ่งกับคำตอบของนาเดียร์ “แต่ว่า...ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจนะคะ แค่จะไปดูก่อนว่าเป็นไง แล้วจะมาปรึกษากับพี่อีกทีค่ะ”

“อยากอยู่หอ”

“ไม่รู้ค่ะ” นาเดียร์ตอบกลับเสียงเบาๆ ในใจรู้สึกโหวงๆ ขึ้นมาทันทีกับคำถามที่ดูจะไม่มีอะไรของต้าเซียน “แต่คิดว่า ถ้าฉันไปอยู่หอ พี่จะสบายมากขึ้น พี่ยังต้องเรียน และเรียนอย่างหนัก ไหนจะต้องไปดูงาน ไปฝึกงานอีก...ถ้าฉันไป...”