บทที่ 2 จุดเริ่มต้น NC
“เฮ้อ↝” ฉันถอนหายใจหลายต่อหลายครั้งให้กับการหานักเรียนเพิ่มไม่ได้ หลายวันแล้วที่ฉันสมัครไปแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีนักเรียนติดต่อกลับเลย มาม่าจะย้อมใจฉันต่อไปสินะ ลำพังนักเรียนที่มีอยู่เพียง 3 คนของฉันมันไม่พอจริงๆ ฉันหวังว่าคุณ ไรอัน โรซี่ แอนนา จะไม่เทกันกลางทางนะ
กริ๊งงงงงงง↝
เสียงนาฬิกาปลุกที่บอกว่าตอนนี้ 9 โมงแล้ว ฉันเตรียมอาบน้ำ แต่งตัวด้วยเสื้อสีขาว มีเสื้อโค้ชสีน้ำตาลคลุมแขนยาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล ผมยาวเป็นลอนของฉัน ฉันชอบลุคนี้ที่สุดเลย ใครๆ ต่างก็มีชุดโปรดเสื้อตัวเก่งของทุกคนใช่ไหมล่ะฉันเองก็เช่นกัน ฉันเตรียมตัวไม่นานเพราะสถานที่ที่สอนก็เป็นคาเฟ่ ไม่ไกลจากหอพักนัก ฉันไม่ชอบตื่นเช้าแล้วนั่งรถไปไกลๆ น่ะ เลยเลือกที่ที่ใกล้กับตัวเองและไม่ลำบากที่สุด จะได้นอนตื่นสายได้ ชีวิตก็นะ work life balance ไอเลิฟฟฟฟ เช้านี้ฉันมีสอนคุณโรซี่ เรานัดกันไว้สถานที่เดิม เวลาเดิม แต่งานของฉันมันโชคดีที่เราสามารถยืดหยุ่นกับมันได้ ฉันเดินมาสักพักก่อนจะมาหยุดถอนหายใจให้กับตัวเองอีกครั้งพยายามทำตัวเองให้ร่าเริงที่สุดแม้ในใจจะยังคงห่อเหี่ยวไม่เป็นท่าก่อนจะเดินไปที่หน้าคาเฟ่อย่างมั่นใจที่สุด ฉันเปิดประตูคาเฟ่ก็มีเธอมารออยู่แล้ว
“สวัสดีค่ะ คุณครู” คุณโรซี่ทักทายฉันเหมือนเช่นเคย เธอเรียนกับฉันตั้งแต่ฉันพึ่งเริ่มสอนภาษาและเธอพูดไทยไม่ได้เลย จนตอนนี้เธอเริ่มพูดได้ เธอเก่งมาก เธอเป็นสาวออสซี่ที่เซ็กซี่จนฉันรู้สึกเขินตัวเองทุกครั้งเมื่อมองเธอ ฉันไม่เคยเจอใครสวยเท่าเธอมาก่อนเลย เราอายุใกล้ๆ กัน เธอเหมือนเป็นเพื่อนคนนึงของฉันเลยล่ะ บางทีฉันก็พาเธอไปเที่ยวแล้วก็สอนภาษาให้เธอไปด้วย เราทั้งคู่มักจะมีที่นั่งประจำเมื่อมาคาเฟ่ที่นี่และส่วนใหญ่เธอจะเป็นคนรีบตื่นขึ้นมาเพื่อมาจองโต๊ะฉันเริ่มสอนเธอไปได้สักพัก สีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก
“คุณโรซี่ เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“คุณครู ฉันมีข่าวร้ายจะบอก”
“คะ” ฉันรีบตอบรับ เพราะใจฉันก็เริ่มหวั่นๆ เหมือนกัน
“เอ่ออ…คือฉันจะไม่อยู่ไทยสามเดือนฉันจะกลับออสเตรเลียวันศุกร์นี้ ขอโทษที่บอกคุณช้า” ดวงตาฉันถึงกับเบิกโพลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ช็อคสิ แต่แสดงท่าทีว่าตกใจมากไม่ได้แต่ในใจฉันอยากจะกรี๊ดไปให้ถึงออสเตรเลียเลย ทำไมทุกอย่างมันแย่ไปหมดในเวลาเดียวกันม่ายยยยยยยย T^T
“เอ่อ แล้วคุณจะเรียนออนไลน์ไหมคะหรือว่าขอพักก่อน”
“ฉันขอพักก่อนค่ะ เพราะโรซี่อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่นั่น” ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วพยักหน้าตอบตกลงกับเขาไป ก็เธอเลือกที่จะไปแล้วฉันจะไปห้ามอะไรเธอได้ล่ะ
“แต่ถ้าฉันกลับมา ฉันจะรีบติดต่อคุณเลยนะ ฉันชอบเรียนกับคุณมาก” ค่าาาาาาาาา ถึงฉันจะได้ยินแบบนั้นแต่มันก็เศร้าอยู่ดีสามเดือนเลยนะสามเดือนนนน!! มาม่าจ๋าพี่มาแล้ววว หลังจากที่เรียนเสร็จ คุณโรซี่ก็พาฉันไปเลี้ยงไอศกรีมในห้างแห่งหนึ่ง แต่ในร้านสวยมากกว่าด้านนอกเมื่อมองมันเข้ามาที่นี่ตกแต่งแบบคลาสสิค แต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะ ฉันมองร้านนี้แบบเพลิดเพลินมากจนโรซี่กำลังจะดึงมือฉันให้เข้าไปในร้านกับเธอ ที่นี่ไม่น่าเหมาะที่จะเรียกว่าร้านไอกรีมแล้วมันเหมาะกับงานธีมวันเกิดต่างๆ มากกว่า
‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด’
“เสียงกรี๊ดอะไรหรอคะ คุณโรซี่” ฉันถามเธอเพราะความสงสัยพลางชะเง้อมองด้านนอกตามเสียงกรีดร้องที่ได้ยิน
“เห็นในป้ายบอกว่าจะมีซุปเปอร์สตาร์มาจัดมีทวันนี้ค่ะ”
“ว้าววว เราไปกันไหมคะ” ฉันชวนเธอเพราะเธอก็จะกลับออสแล้ว ส่วนฉันก็ไม่มีสอนต่อ กลับห้องไปก็เบื่อลองหาอะไรทำแก้เบื่อหน่อยก็แล้วกัน
“แต่ว่าฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ คุณโรซี่เดินไปก่อนก็ได้ค่ะ”
“ฉันไปรอครูที่หน้าทางเข้านะ” เธอยิ้มดีใจแล้วรีบเดินไปหน้าทางเข้าเพื่อดูรายละเอียดก่อน ฉันรีบวิ่งมาห้องน้ำเพราะปวดจนทนไม่ไหวจนกระทั่ง
“โอ๊ยยย!!!” ทั้งสองร้องอุทานพร้อมกันด้วยความเจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่
“Sorry!! Are you okay?” หนุ่มคนนั้นพูดด้วยความเป็นห่วง แต่กลิ่นน้ำหอมของเขามันเตะจมูกจนฉันอยากจะสูดดมมันอยู่อย่างนั้นไม่อยากจะไปไหนเลย กลิ่นน้ำหอมอะไรทำไมมันหอมฟุ้งได้ขนาดนี้นะหรือว่าเขาใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อดีๆ กันก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเขา พระเจ้า!!! คนอะไรทำไมหล่อได้ขนาดนี้ เขาใส่แว่นสีดำน้ำตาล ใส่หมวกปิดผมแต่ยังเห็นไรผมสีเทาเข้มของเขา รูปร่างตัวสูงโปร่งก่อนจะรีบลุกขึ้นปัดฝุ่นให้กับตัวเอง
“No, It’s okay” ฉันรีบตอบไปแบบนั้น เขายิ้มให้ฉันก่อนที่จะรีบเดินออกไป ทำไมใจฉันเต้นแรงแบบนี้นะ หรือฉันปวดฉี่มากเกินไป ฉันเห็นเขาแค่ผ่านๆ ยังรู้สึกว่าเขาดูดีมากๆ เลย
ฉันเดินหายัยโรซี่ทั่วงานจนได้เห็นนาฬิกาข้อมือที่เธอใส่ประจำกำลังชูมือโบกไม้โบกมือให้กับผู้ชายหน้าเวที เธอเดินเข้าไปใกล้มากจนเกือบจะถึงหน้าเวที
“คุณครูเขาชื่อว่า ไวท์ คูเปอร์ หวังเซี่ย เป็นลูกครึ่งฮ่องกงอังกฤษ นานๆ ทีเขาจะมามีทที่ไทย แฟนคลับเขามีทั่วโลก เรียกได้ว่าดังระดับนึงเลยทีเดียว” เธอเล่าประวัติเขาให้ฉันฟัง ในขณะที่ฉันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฉันกลับรู้สึกว่ามีสายตาคู่นึงกำลังมองมาหาฉันอยู่เรื่อยๆ ฉันคงจะคิดไปเองแต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเมื่อสายตาฉันหันไปสบกับเขาโดยบังเอิญ เขายังคงยิ้มให้ฉันเล็กๆ ราวกับเรารู้จักกันมาก่อน
“เขามองเราด้วย คุณครู กรี๊ดดดดดดดดด” โรซี่ดี๊ด๊าตะโกนเรียกฉันอย่างดีใจ เหอะๆ ฉันพึ่งรู้ว่ายัยโรซี่ก็บ้าผู้ชายเหมือนกัน เธอดึงลากฉันไปทั่วงานสรุปใครชวนใครเนี๊ยะ ฉันไม่เคยมางานอะไรแบบนี้เลย ปกติทำงานเสร็จก็กลับบ้านชีวิตของฉันมันดูน่าเบื่อใช่ไหมล่ะที่ตั้งหน้าตั้งตาหาแต่เงินมาเลี้ยงตัวเองจนไม่ได้มีเวลาหาความสนุกในชีวิตให้ตัวเองเลยแล้วอีกอย่างอาชีพที่ฉันทำมันก็ไม่แน่นอนอีกด้วย ถ้าไม่รีบหางานเพิ่มเดือนต่อไปฉันก็ไม่มีเงิน เฮ้ออ ก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำมากกว่าหางานประจำนี่นะ ฉันมัวแต่มองรอบๆ งาน คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หันมาอีกทียัยโรซี่ก็หายไปแล้ว ใช่ ฉันหลง!!! ฉันหาโรซี่ไปทั่ว รีบกดโทรศัพท์กาเธอก็ไม่รับ ก่อนที่งานจะเลิกฉันก็ไปรอยัยโรซี่ที่ลิฟท์ เผื่อว่าเราจะสวนกันทว่า
“มาเร็วๆๆๆๆ” เสียงฝีเท้าของแฟนคลับกำลังเรียกคนในงานเพื่อไปรอรับศิลปิน
“ทางนี้ๆๆ” กลุ่มแฟนคลับกำลังจะไปหาไวท์แน่ๆ ฉันเลยเข้าไปห้องๆ นึงเพราะกลัวจะโดนเหยียบ
“อยู่ในนี้ก่อนละกัน”
“เฮ้ยยยยยย!!” ฉันกับบุคคลตรงหน้าประสานเสียงพร้อมกันอีกครั้ง ฉันกำลังจะกรี๊ดกับสิ่งที่เห็นและไม่ได้ตั้งใจที่จะเห็น เขารีบยื่นมือหนามาปิดปากฉันเพราะกลัวคนข้างนอกจะได้ยิน กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย มันหอมมากจริงๆ ฉันเห็นหน้าของเขาชัดมากขึ้น ดวงตาเจ้าเสน่ห์ คิ้วเข้ม ผมสีเทาที่เซตมาเข้ากับหน้าเขาเหลือเกิน นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ใกล้กับผู้ชายขนาดนี้ ทำไมใจฉันเต้นอีกแล้ว
“What are you doing?” เขาถามขึ้น
“Wro Wrong room, Sorry” ฉันกำลังจะวิ่งออกไป แต่มือหนาของเขาดึงแขนเอาไว้ให้หันไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง
“จริงหรอ” เอ้า พูดไทยได้ ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก ฮึ่ยยย!!
“คุณอยากเห็นซิกแพคของผมหรอ ถึงได้เข้ามาห้องนี้” เขายื่นหน้ามาให้ใกล้ขึ้นจ้องหน้าฉันพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ฉันได้แต่หลับตาหันหน้าหนี แต่ฉันรู้สึกถึงลมหายใจที่เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ตัว เขากำลังทำให้ฉันหายใจไม่ออก บ้าจริง!
“คุณรู้ไหมมีผู้หญิงอีกตั้งเยอะอยากจะเห็นมันนะ คุณไม่อยากลองสัมผัสมันหน่อยหรอ”
“คนบ้า!!” ฉันผลักเขาออกไปอย่างแรง เตรียมจะหนีเขาอีกครั้งทว่า
“ผมคุยกับคุณตั้งนานไม่เห็นตอบ ก็พูดได้นิ” เขายังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ดึงตัวฉันให้เข้าไปใกล้กว่าเดิมอย่างถือวิสาสะ
“ปล่อยนะ!!! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะตะโก..” ยังไม่ทันสิ้นเสียงนั้น สัมผัสนุ่มๆ ก็เข้ามาประกบกับปากของฉันไว้เป็นการห้าม ฉันดิ้นสุดแรงแต่ก็สู้แรงของผู้ชายตรงหน้าไม่ได้เลย อะไรกันเนี๊ยะ ฉันแทบจะหยุดหายใจกับจูบของเขา สัมผัสที่ฉันไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ฉันเหมือนกำลังจะตาย หายใจไม่ออก ฉันพยายามผลักเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล จนเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่รู้ เขาค่อยๆ ถอนจูบออกเลียริมฝีปากราวกับตัวเองพึ่งดื่มน้ำหวานมาอย่างไรอย่างนั้น ร้ายกาจ!! เขาสามารถจูบกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อได้ยังไงกัน!
“คุณรู้ไหม มีผู้หญิงอีกมากมายที่อยากได้จูบจากผม คุณควรจะดีใจนะ” เขาเริ่มมองต่ำสำรวจตัวฉันไปทั่วก่อนจะมาจ้องมองเนินอวบที่โผล่ขึ้นมาจากเสื้อและแน่นอนว่าฉันดับฝันนั้นของเขาลงด้วยการดึงเสื้อตัวนอกมาปิดมันไว้
“คุณก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปนั่นแหละ ก็แค่แฟ…”
เพี๊ยะ!
ฉันตบเขาโดยไม่รู้ตัว ที่บังอาจมาทำอะไรแบบนี้กับฉันทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันแถมยังดูแคลนไปพาดพิงถึงคนอื่นที่ไม่ได้แม้ทำความเดือดร้อนให้
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเข้าผิดห้อง อย่ามาหลงตัวเองให้มากนักเลย และจำไว้นะ ฉันไม่ใช่แฟนคลับนาย ไอหลงตัวเอง!!!” ฉันรีบวิ่งออกจากห้องโดยไม่สนใจอะไรอีก น่าโมโหยิ่งนักทำไมจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ลำพังแค่ฉันไม่มีงานก็แย่พออยู่แล้วต้องมาเจอไอโรคจิตในคราบของซูเปอร์สตาร์นี่อีก ขออย่าให้มาเจออะไรแบบนี้อีกเลย
น่าเจ็บใจชะมัด!!
