บทที่ 1 ตอน เทพบุตร
@ Venus university
“มาช้าฉิบหายอีพราว เพื่อนรอแล้วเนี่ย” มุกลินลากเสียงยาวใส่เพื่อนสาวคนสนิทที่เดินนวดนาดเข้ามายังตึกเรียน
“อีมุกมึงก็ไปเร่งมัน เข้าช้าจะเป็นไรไป กูยิ่งเบื่อขี้หน้าอาจารย์นั้นอยู่!”
“พวกมึง คือกูขอโทษที่มาช้านะเว้ย เมื่อคืนดื่มหนัก กว่าจะหอบสังขารกลับห้อง กว่าจะอาบน้ำก็ปาไปตีสามแล้วมึง กูขอโทษจริงๆที่ปล่อยให้รอนานนะเพื่อนเลิฟ”
“เอ่อกูเข้าใจมึง กูล้อเล่นไปเรียนกันได้แล้ว สายมากแล้วเดี๋ยวอาจารย์บ่นอีก รำคาญแกบ่น”
มุกลินถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะพากันเดินเข้าคลาสเรียนที่แสนจะเบื่อหน่าย
“พราวช่วงนี้มึงดูชีดและผอมลงมากเลยนะ มึงทำงานหนักเกินไปใช่ไหม?” อ้อยหวานหันมาถามฉันในระหว่างที่นั่งฟังอาจารย์บรรยาย
“หนักนิดหน่อยมึง มึงก็รู้ว่ากูจำเป็นต้องใช้เงิน ไหนจะค่าเทอมที่ต้องผ่อนจ่าย ไหนจะค่าหอที่ติดค้างเจ๊เขาอีก รายจ่ายแน่นตัวว่ะ” ฉันเอ่ยตอบก่อนจะฟุ่บตัวลงบนโต๊ะ ชีวิตฉันช่วงนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ปัญหาการเงินรุมล้อมรอบด้าน ไหนจะเรื่องพ่อป่วยอีก ทำไมโชคชะตาไม่เข้าข้างและเห็นใจ คนสู้ชีวิตอย่างฉันบ้างนะทำไมปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบฉันเผชิญปัญหาหนักแบบนี้
ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการละกัน
ฉันชื่อเพียงพราว นางสาว กัญญ์ณรัณ ภาคฤทธิ์ นักศึกษาปีสาม อายุยี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ยังโสดและโสดมาก
ฉันทั้งนั่งทั้งนอนคิดจะได้ตีลังกาคิดแล้ว คิดไม่ตกมาหลายวันแล้ว ว่าฉันจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเช่าหอที่ค้างมาสามเดือน และไหนจะค่าเทอมที่ต้องผ่อนจ่ายงวดนี้อีก เครียดที่สุดเลย
ฐานะทางบ้านของฉันค่อนข้างติดลบแต่ฉันดื้อดันจะเรียนมหาลัยให้ได้ ฉันเลยต้องกัดฟันสู้หอบลากตัวเองมาจนถึงปีสามอย่างทุลักทุเล ยอมรับว่ามันเหนื่อยมากแต่อีกไม่นาน ฉันก็คงหาเหนื่อย
ช่วงนี้ฉันทำงานพิเศษที่บาร์ ร้านเหล้าทั่วไป ร้านอาหารและบางครั้งก็เป็นพนักงานเสริฟ์ทั่วไป งานเชียร์เบียร์ที่ทำอยู่มันก็ได้เงิน แต่ก็น้อยมาก ถ้าไม่ได้ทิปจากลูกค้าฉันก็แย่เหมือนกัน ดื่มกับแขกจนเมาโดนแขกบางรายถึงเนื้อถึงตัวบ้าง
“มึงเอาเงินกูก่อนไหม กูสงสารมึงว่ะเพื่อน มึงดูไม่ค่อยโอเคเลย กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยอีพราว”
“ไม่เป็นไรอีอ้อยกูยังไหวน่า รบกวนมึงมามากแล้ว เดี๋ยวกูก็หาได้เองแหละ อย่าห่วงกูเลย กูเก่งจะตาย รอดมาตั้งหลายครั้งเดี๋ยวมันก็คงผ่านไปได้เหมือนครั้งที่ผ่านมาแหละ” อ้อยหวานและมุกลินคือเพื่อนที่ฉันสนิทที่สุด พวกมันมักจะช่วยเหลือฉันตลอดช่วยจนฉันเกรงใจ ถ้าฉันไม่จนปัญญาจริงๆ จะไม่ขอความช่วยเหลือจากพวกมันเพราะฉันเกรงใจพวกมัน
“อีพราวคืนนี้พี่ชายกูนัดเพื่อนมาเที่ยว เขาถามว่ามึงสนใจจะรับรองเพื่อนเขาไหม ถ้ารับพี่ชายกูจ่ายหนึ่งหมื่นบาททันที” ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นมาทันทีเมื่อพูดเรื่องเงิน หมื่นหนึ่งเลยนะจ่ายค่าหอได้พอดีเป๊ะเลย
“กูแค่ชงเหล้านะไม่รับงานนอก บอกพี่มึงด้วย” ฉันยังบริสุทธิ์ผุดผ่องนะจ๊ะถึงจะทำงานร้านเหล้า ทำงานที่บาร์ก็เถอะ
“กูบอกแล้วพี่ชายกูบอกว่า คนที่มาส่วนมากมีเด็กๆกันหมดแล้ว แค่อยากมีอาหารตานั่งอยู่ในห้องเฉยๆมึง เห็นพี่มาร์ตินบอกว่าคนนี้งานดีมาก หล่อรวย เฟอร์เฟค”
“งั้นกูรับงานเลย แต่จะเป็นไรไหมถ้ากูจะขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อนสักสามพัน” มุกลินพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะควักธนบัตรสีเทาสามฉบับยื่นให้ฉัน ฉันต้องใช้เงินจริงๆถ้าไม่ไปจ่ายค่าเช่าหอก่อนคงโดนไล่ตะเพิดออกมาเยี่ยงหมาแน่ ๆ
“นี่เงินล่วงหน้าส่วนที่เหลือไปเอากับพี่มาร์ตินนะ”
“ขอบใจมึงนะที่ช่วยหางานให้กู”
“เพื่อนกันอย่าคิดมาก” มุกลินไหวไหล่เบาๆก่อนจะหันไปตั้งใจดูสไลด์ที่อาจารย์สอน
“มีเงินจ่ายค่าหอแล้ว เฮ้อ~” ถ้าไม่นำเงินไปจ่ายวันนี้เจ๊เจ้าของหอจะไล่ฉันออก ค่าหอพักฉันเดือนล่ะสามพันบาท มีหอในที่ราคาถูกกว่าที่นี่แต่ฉันต้องทำงานกลับดึก มันเลยไม่สะดวกเพราะหอในหอจะปิดห้าทุ่มเปิดอีกทีหกโมงเช้าเลย
“อ้อยกูของีบสักแป๊บ มึงปลุกกูหน่อยนะถ้าเลิกคลาสแล้วน่ะ”
“โอเคมึง นอนเลยสภาพมึงตอนนี้ดูไม่ได้เลย” ตอนนี้ฉันง่วงมาก ทันทีที่หลับตาลงฉันก็ผล็อยหลับไปทันที มารู้สึกตัวอีกทีก็โดนเขย่าอย่างแรงจากใครสักคนจนฉันสดุ้งงัวเงียตื่น
“อีพราวตื่นได้แล้วมึง เลิกคลาสแล้ว”
“อื้อ เลิกคลาสแล้วเหรอ” ฉันกวาดสายตามองรอบๆห้องตอนนี้ไม่เหลือใครเลยยกเว้นพวกเราสามคน
“เลิกนานรึยัง ทำไมไม่มีคนเลยวะ ขอโทษนะมึง กูเหนื่อยๆเลยหลับเพลินไปหน่อย”
“เลิกคลาสครึ่งชั่วโมงแล้ว พวกกูเห็นมึงหลับเลยปล่อยให้หลับ แต่ตอนนี้มันเที่ยงแล้วไปหาอะไรกินเถอะกูหิวแล้ว”
“อืมไปกันเถอะกูก็หิวอยากกินอะไรร้อนๆ” ตอนนี้ยังแฮงค์ไม่หายอยากซดน้ำต้มร้อนๆชะมัด ฉันคว้ากระเป๋าคู่ใจที่วางไว้บนเก้าอี้ข้างๆขึ้นมาสะพาย
@ โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย
“เอาอะไรดีคนสวยทั้งสามของป้า” นี่คือเสียงป้าสมใจเจ้าของร้านอาหารร้านโปรดของพวกเราเอง
“หนูเอาข้าวมันไก่พิเศษค่ะ” มุกลินเอ่ย
“หนูเอาเหมือนอีมุกค่ะ แล้วมึงล่ะพราวเอาอะไร”
“เอาสุกกี้ทะเลก็ได้ อยากซดอะไรร้อนๆ”
“หนูเพียงพราวไม่สบายเหรอลูก ปากชีดเชียว” นี่ฉันดูโทรมขนาดนั้นเหรอ ? ช่วงนี้ไม่มีเวลาแต่งตัวเลยแค่เวลานอนยังมีจำกัดเลย
“ไม่สบายนิดหน่อยค่ะ”
“หายไวๆนะจ๊ะคนสวยของป้า”
“ขอบคุณค่ะ” พอได้รับอาหารพวกเราก็เดินมานั่งโต๊ะโซนหลังเพราะโซนนี้อีอ้อยบอกผู้ชายนั่งเยอะพวกนี้ชอบหนุ่มวิศวะมาก ฉันเฉยๆไม่ได้ชอบขนาดนั้นแต่ถ้าผู้ชายหล่อก็ชอบเป็นธรรมดา แต่สเปคฉันคือคุณ ปรินทร์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เก่งรอบด้าน ทั้งหล่อ รวย และใจดี พ่อของลูกชัดๆ
@ ช่วงเย็น
วันนี้ฉันเลือกใส่ชุดเดรสสั้นสีแดง มันค่อนข้างรัดมากเป็นไซส์ที่เล็กกว่าตัวฉันแต่พอใส่ได้ ฉันเป็นผู้หญิงที่ตัวไม่เล็กไม่ได้สูงมาก ฉันสูงเพียง 163 เซนติเมตรเองก็ถือว่าสูง อย่าบูลลี่ฉันนะย่ะ!!
“มึงสวยว่ะ แจ่มดีพราว” ไอ้แดนมันมองมาที่ฉันก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์แชทส่งให้สาวๆในคลังมัน
“ไอ้แดนมึงว่าเทอมนี้กูจะมีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่าเทอมได้ไหม กูจะได้เรียนจบปีสามเหมือนเพื่อนไหม?” ฉันถามมันพลางรัดเข็มขัด ไอ้แดนเป็นเพื่อนชายคนสนิทอีกคนของฉันและเป็นญาติห่างๆ ของฉันด้วย วันนี้ฉันขอให้มันขับรถไปส่งเพราะไม่อยากเรียกรถแท็กซี่เข้ามารับที่หอ เพราะมันค่อนข้างแพงซึ่งเงินสามพันที่ได้มาฉันจ่ายค่าหอไปหมดแล้ว
“ถ้ามึงหาไม่ได้ก็ยืมกูไง มึงไม่ต้องมาอ้างว่าเกรงใจ ไม่เอาหรอกอะไรแบบนี้กับกู เพราะนี่คืออนาคตมึงนะ เหลือแค่ปีนิดๆเอง มึงสู้มาขนาดนี้แล้ว มึงทำงานหนักขนาดนี้เดี๋ยวตายกันพอดี ยืมกูได้ มึงก็รู้ครอบครัวกูรวย” น้ำเสียงของมันดูเป็นห่วงฉันจริงๆ ฉันได้แต่ยิ้มจางๆตอบกลับ
ทำไงได้ครอบครัวฉันค่อนข้างจน พ่อแม่เป็นแค่คนรับจ้างธรรมดาทั่วไป บ้านหลังเก่าๆ มีหนี้นอกระบบหลายแสน ถ้าจะโทรไปขอท่านก็คงไม่มีให้ แถมแม่ต้องดูแลรับผิดชอบค่าเทอมน้องสาวฉันอีกตอนนี้เธออยู่มอห้าแล้ว ถ้าฉันเรียนจบน้องฉันก็ขึ้นปีหนึ่ง ฉันจะรีบหางานที่รายได้สูงๆและมั่นคงทำและส่งน้องฉันเรียนต่อจะไม่ปล่อยให้น้องต้องเผชิญชะตากรรมที่แสนลำบากอย่างฉันแน่นอน มันเหนื่อยสายตัวแทบขาด
“ถ้าไม่มีรถกลับก็โทรบอกละกัน เดี๋ยวกูมารับ”
“ขอบใจนะแดน มึงนี่เทพบุตรของกูจริงๆ ใจดีและหล่อมาก”
“เอ่อ! ข้อนี้กูรู้นานล่ะ รีบไปเดี๋ยวสายไม่ได้เงินนะ” มันไหวไหล่พลางกระตุกยิ้มอย่างพอใจที่ฉันชมมัน ไอ้นี่โคตรหลงตัวเองชะมัดเลย พอรถของมันขับเคลื่อนออกไป ฉันก็เดินเข้ามาด้านในร้านฉันทำประจำเป็นพนักงานเชียร์เบียร์ระดับล่าง ไม่เคยได้นั่งกับแขกวีไอพีเหมือนวันนี้ ฉันรู้สึกประหม่าอย่างมาก
“ขอให้เจอแขกที่ใจดี ไม่โหด ไม่ลวนลาม ไม่วางยาฉันด้วยเทอญ” ฉันยกมือขึ้นสาธุตามฉบับคนสายมูเตลู
ครืด~ ครืด~
LINE….
( พี่พราวพ่ออาการไม่ดีเลย แม่ไปขอยืมเงินเสี่ยทศแต่เขาไม่ให้ยืม ค่าผ่าตัดมันสูงมากเลย แม่บอกให้เพชรทำใจ ) ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาอย่างหนักๆมากแต่ฉันมีงานที่ปฏิเสธไม่ได้เลยต้องข่มความเสียใจไว้ด้านใน
“เฮ้อ~ พ่ออย่าเป็นอะไรเลยนะคะ”
