บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“ก็เร่าร้อนกับเพลงคนเดียวนี่ไง” ญาดาเงยหน้าขึ้น ก่อนไปหอมแก้มชายหนุ่มหนักๆ จะมองสบตากับเขาหยาดเยิ้มเชิญชวนไฟราคะพวยให้พุ่งอีกครั้ง เพราะเธอเร่าร้อนได้ถึงอกถึงใจชายหนุ่มขนาดนี้ จะเป็นฝีมือใครถ้าไม่ใช่พิษณุ

“ดี...อย่าให้รู้นะว่าคุณไปเร่าร้อนกับคนอื่น” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น อดีตเขาไม่สนใจว่าเธอเคยผ่านใครมาบ้าง แต่ตอนนี้และอนาคตเธอต้องเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ไม่หรอก ญาดารักเพลงนะ จะมีเพลงแค่คนเดียว” หญิงสาวเอ่ยคำรักให้เขามั่นใจ ก่อนจะกอดร่างกายของพิษณุไว้แน่น ตอนนี้ความรู้สึกที่ญาดามีให้ชายหนุ่มคือความรัก รักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบจนทำทุกอย่างให้ได้เขามาครอง เรื่องอะไรเธอจะปล่อยเขาไปง่ายๆ แม้จะน้อยใจเพราะไม่เคยได้ยินชายหนุ่มเอ่ยคำรักกับเธอสักครั้งก็ตาม

แพรธิมาเดินหน้าบึ้ง คิ้วขมวดออกอาการเซ็งจากห้องสอบ หลังจากใช้เวลาอยู่ในนั้นเกือบสามชั่วโมง มือน้อยๆ นวดต้นคอตัวเองเพราะต้องก้มอ่านกรณีศึกษาที่อาจารย์ให้มาจนตาลาย ไม่รู้อาจารย์ไปเอาข้อความพวกนั้นมาจากไหน เนื้อหาเยอะไปหมด แค่อ่านและทำความเข้าใจในแต่ละข้อเธอก็ใช้เวลาไปเกือบสิบนาที แถมไม่ใช่ว่าจะมีข้อเดียวยัง มีอีกเป็นสิบๆ ข้อ

“ยายพริม เป็นไงทำได้ไหม” มธุรสที่สอบเสร็จนานแล้วเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินออกมาจากห้องสอบ เธอเป็นเด็กสาวต่างจังหวัดที่ถูกบิดาและมารดาส่งเข้ามาเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมชื่อดังของกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้มีความรู้มากๆ ซึ่งก็เป็นอย่างที่หวัง แพรธิมากับมธุรสจึงได้รู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น

“อืม…แต่ยากน่าดูเลยล่ะตาหวาน เขียนคำตอบมือจะหงิกอยู่แล้วเนี่ย” แพรธิมาเอ่ยน้ำเสียงเนือยๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าห้องสอบ พร้อมทั้งชูมือขวาที่มีคราบปากกาสีน้ำเงิน สีดำ สีแดงติดอยู่เพียบ แล้วมองเพื่อนสาวที่ตาหวานสมชื่อ เพราะเป็นสาวใต้หน้าตาคม เรียกสวยเลยก็ว่าได้

“เฮ้ย…นี่อย่าบอกนะว่าพริมจดคำตอบเข้าห้องสอบน่ะ” มธุรสเอ่ยแซวเล่นๆ

“บ้า…ทำได้ซะที่ไหนกันเล่า ยากจังเล้ย ข้อสอบเทอมนี้” หญิงสาวเน้นเสียงสูงคำว่าเลย ก่อนจะเป่าลมออกปากหนักๆ แล้วมองหน้าเพื่อนสาว

“ถ้าคนอย่างพริมบอกว่ายาก สงสัยเราได้ดีด็อกแน่นอน” มธุรสส่งยิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนสนิท ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว ยิ่งเลือกเรียนและสอบเข้าคณะเดียวกันได้แบบนี้ ทั้งคู่ก็ยิ่งผูกพันกันมากขึ้น

“ตาหวานก็พูดเว่อร์ไป” แพรธิมาส่งยิ้มให้เพื่อนรักอีกครั้ง เพราะมธุรสก็เรียนเก่งมากเหมือนกัน ที่ทำหน้าบอกว่าตัวเองทำไม่ได้แค่แหย่เธอเล่นตามประสาคนไม่อวดภูมิเท่านั้น เพราะถ้าเธอไม่ได้เพื่อนคนนี้ รับรองเธอคงไม่ได้มานั่งเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ได้แน่นอน การติว การสอบส่วนหนึ่งมธุรสช่วยเธอมาตั้งแต่ต้นที่รู้ว่าเธอจะเรียนคณะอะไรและที่ไหน

“ไม่เวอร์หรอก ก็พริมเรียนเก่งจะตายไป ถ้าได้เอ่ยปากบอกว่ายากเราก็แย่น่ะสิ” มธุรสคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะสอบแข่งขันกับเด็กรุ่นเดียวกันทั่วประเทศเข้ามานั่งได้ กว่าจะเรียน กว่าจะจบปริญญา คิดแล้วก็เหนื่อยดีเหมือนกันชีวิตนักศึกษา

“อย่าเลย ตาหวานก็เรียนเก่งกว่าเราเสียอีก”

“จ้า…เก่งก็เก่ง สอบเสร็จแล้ว ปิดเทอมตั้งสามเดือนกว่าจะได้เจอกันอีก คืนนี้ไปเที่ยวกันนะ” หญิงสาวเอ่ยชวน นานๆ กว่าจะมีโอกาสดีๆ แบบนี้สักครั้ง ถือว่าออกไปผ่อนคลายหลังจากสอบเสร็จ เพราะเธอทั้งสองคนใช่ว่าจะเป็นเด็กเที่ยวตระเวนราตรีเสียเมื่อไหร่

“ตาหวานจะกลับบ้านต่างจังหวัดแล้วเหรอ” แพรธิมารู้สึกใจหาย แม้จะไม่ได้จากกันตลอดไปก็ตามที การมาเรียนที่นี่อย่างมีความสุข ส่วนหนึ่งเพราะมีเพื่อนดีๆ อย่างมธุรสนี่แหละ

“อืม…จะไปช่วยแม่ทำงานที่รีสอร์ตน่ะ” มธุรสนั่งลงข้างๆ เพื่อนสาวก่อนจะเอ่ยบอก ให้อยู่กรุงเทพฯ เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรนานแบบนั้นเธอคงทนไม่ได้ กลับไปภูเก็ตบ้านเกิดดีกว่า ไปช่วยงานที่บ้านเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับแอบอู้ไปเที่ยวเกาะด้วย คิดแล้วก็น่าสนุก

“ดีจังเลย ส่วนเราก็คงเป็นนางบ้าน ออกไปไหนไม่ได้แน่ๆ” แพรธิมาเอ่ยออกทำนองประชดชีวิตบวกอาการเซ็งนิดๆ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องที่เธออยากทำตอนปิดเทอมบิดาจะว่าอนุญาตหรือเปล่า

“พริมก็บอกพ่อสิว่าอยากทำอะไร เราว่าถ้าคุณลุงรู้ต้องยอมแน่ๆ” ความที่เคยไปบ้านแพรธิมามาหลายครั้งแล้ว ทำให้มธุรสค่อนข้างสนิทกับครอบครัวของเพื่อนคนนี้เป็นอย่างดี ใจจริงเธออยากไปบ้านแพรธิมาทุกวันถ้าพิษณุอยู่ที่นั่น คนอะไรเท่ชะมัด เป็นถึงนักแข่งรถ อยากซุกอยากไซ้ไหล่กว้างๆ นั้นเหลือเกิน คิดแบบนั้นใบหน้าของหญิงสาวก็ยิ้มออกมา

“จะดีเหรอ เรากลัวว่าพ่อจะค้านมากกว่า คงมองว่าเราไปทำเรื่องไร้สาระอีกตามเคย” แพรธิมาชักไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน ไม่ว่ากี่ครั้งบิดามักจะคิดแง่นี้กับเธอเสมอ ทำอะไรไม่ได้ดีก็อย่าทำ หน้าที่ของเธอที่บิดาคอยบอกยามเจอหน้านั่นคือเรียนและเรียนเท่านั้น จนบางครั้งก็อยากแหกกฎปืนกำแพงของบิดาหนีออกมาบ้าง

“เอ้า! มีลูกจิตใจดี ขอไปเป็นอาสาสมัครที่บ้านพักคนชราไม่ดีตรงไหนกัน” มธุรสออกจะชอบสิ่งที่แพรธิมากำลังทำ ถ้าไม่ติดว่าเธอกลับบ้านก็คงขอไปด้วยแล้ว

“ก็หวังว่าพ่อจะไม่ค้าน”

“แต่จะว่าไปคุณลุงคงกลัวว่าพริมจะไปทำอะไรโก๊ะๆ ให้ คุณตาคุณยายลำบาก ถึงไม่ยอมให้ไปก็ได้” เพื่อนสาวเอ่ยแซว เพราะแพรธิมานั้นชอบทำตัวเปิ่นๆ ให้ได้อายประจำ สะดุดนั่นนี่ แถมยังทักคนผิดบ่อยๆ อีกต่างหาก

“นั่นไง เราว่าแล้ว” คนที่ถูกพาดพิงซึ่งนั่งอยู่ติดกันส่ายหน้าให้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel