EPISODE 01
หกปีต่อมา
TICHA TALK
“วิวาห์สายฟ้าแลบ แว่วมาว่าป่องก่อนแต่ง อักษรย่อ ทก อล คิดอย่างไรกับข่าวนี้คะ” นักข่าวบันเทิงกำลังจ่อไมค์ถามดาราที่ตกเป็นข่าวฉาว
“ผมว่ามันเป็นคำพูดที่รุนแรงเกินไปสำหรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมานะครับ ถ้าเขาโตขึ้นแล้วมาเจอข่าวแบบนี้คงรู้สึกแย่”
“แบบนี้ทิกเกอร์จะฟ้องเพจที่พาดหัวข่าวไหมคะ”
“ผมยังไม่อยากให้ถึงขั้นนั้นครับ ขอร้องนะครับ อย่าพาดหัวข่าวที่กระทบจิตใจอลินนักเลย อลินก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ทางเราไม่ได้มีเจตนาปิดครับ และเรากำลังทำให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมไทย อาจจะข้ามขั้นตอนไปบ้าง หวังว่าพี่ ๆ จะให้โอกาสเราทั้งคู่นะครับ”
พรึบ!
“ฮื้อ! ปิดทำไม” ฉันร้องทักเมื่อเพื่อนกดปิดทีวีที่ฉันกำลังดูอย่างตั้งใจ
“จะดูหน้ามันทำไม” น้ำเสียงฉุนเฉียวของเพื่อนพูดอย่างจงเกลียดจงชัง
“ก็แค่นึกถึง” เอ่ยเสียงเศร้าไปสิทิชา
“นึกถึงเพราะวันนี้ครบรอบ 10 ปีหรือไง ทิชาเอ๊ย เรื่องของแกกับมันจบไป 6 ปีแล้ว ตอนนี้มันกำลังจะมีลูก กำลังจะแต่งงาน แกเลิกรักเลิกคิดถึงมันได้แล้ว คนเลว ๆ แบบนั้นไม่มีค่าพอให้แกคิดถึงสักนิด”
“ฉันก็แค่อยากเห็นว่าเขา...สบายดี”
“มันสบายดีและรวยมาก สบายกว่าเราเป็นร้อยเท่า แถมเลวมากด้วย ไม่อย่างนั้นมันไม่ไปเอากับผู้หญิงคนนั้นระหว่างที่คบกับแกหรอก”
“…”
“ทิชา เมื่อไหร่แกจะทำใจได้สักที ไอ้ทิกเกอร์แฟนแกเพื่อนฉันมันตายไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ทิกเกอร์ซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย ไอ้ทิกเกอร์คนนั้นของแกมันไม่กลับมาแล้วทิชา” เพื่อนพูดด้วยความโมโห สงสาร เวทนา สมเพชที่ฉันยังเพ้อถึงเขา
บางทีฉันก็สมเพชตัวเองเหมือนกัน
“ฉันแค่อยากตอกย้ำตัวเองให้ใจมันเจ็บ จะได้จำเอาไว้ว่าเขาใจร้ายมากขนาดไหน”
“ผ่านมา 6 ปีแล้วทิชา ไม่มีมันแกก็ยังไม่ตาย แกเก่ง แกแกร่งอยู่แล้ว แกต้องสู้นะ ฉันเข้าใจวันครบรอบทีไรแกก็เป็นแบบนี้ตลอด แต่พรุ่งนี้แกต้องเข้มแข็งรู้ไหม แกจะอ่อนแอนาน ๆ ไม่ได้”
“ฉันรู้ แกก็รู้ว่าฉันลำบากแค่ไหนมิ้น” เพื่อนของฉันเธอชื่อมิ้น เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว สมัยเรียนมิ้นเป็นคนที่ทิกเกอร์ไม่ชอบหน้า เพราะเขาหาว่ามิ้นทำให้ผู้ชายคนอื่นมาวอแวกับฉัน
“รู้สิ ก็ฉันอยู่ข้างแกมาตลอด ลืมมันเถอะทิชา ถ้ามันใช่ มันใช่ไปนานแล้ว แกกับมันก็แค่คนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป”
“ถ้ามันลืมได้ง่าย ๆ อย่างที่แกพูดคงจะดี แกก็รู้ว่าหนึ่งเหตุผลที่ฉันไม่ลืมเพราะอะไร”
“อืม ฉันเข้าใจ” มิ้นขยับเข้ามาปลอบด้วยการกอด และเราหันไปมองเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่กำลังดังมาจากทางหน้าบ้าน
“ไทน์บอกอย่าทำ ไทม์ก็ไม่ฟัง”
“ก็มันแกล้งเราก่อน มาว่าเราได้ไง”
“เนี่ย ๆ คราวนี้โดนแม่ตีแน่ ไทม์นักเลง”
“ไทน์เป็นพี่ ไม่ห้ามไทม์ ไทน์ก็ผิด”
“เดี๋ยวชกเลย ห้ามแล้วไม่ฟังเอง”
เป็นเสียงของสองคนพี่น้องไทน์ไทม์กำลังถกเถียงระหว่างที่กลับเข้าบ้านหลังจากออกไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้านมาค่ะ
“ไหนใครคนไหนมีเรื่องจะพูดกับแม่คะ” ฉันมองไปยังเด็กน้อยวัยห้าขวบนิด ๆ ที่กำลังถกเถียงและเดินมาหาฉันทั้งคู่
“ไทน์ห้ามแล้วนะครับแม่ทิชา” คนพี่รีบพูด
“ห้ามยังไงครับ ทำไมมีแผลกลับมาทั้งคู่”
“ก็ยักษ์ต่อยไทม์ ลุงนินสอนไว้เป็นพี่ต้องปกป้องน้อง” น้องไทน์ก้มหน้าพูดด้วยใบหน้าสำนึกผิด
“ปกป้องน้องได้นะครับ เป็นพี่น้องปกป้องกันถูกแล้ว เพราะเป็นพี่น้องกัน แต่ต้องเลือกวิธีที่ดีกว่านี้นะลูก ใช้กำลังตัดสินปัญหาไม่ดีนะครับ ใบหน้าหล่อ ๆ เสียโฉมหมดเลย”
“ครับแม่ทิชา”
“ดีมากครับ คราวนี้น้องไทม์พูดบ้าง ก่อเรื่องให้พี่ไทน์เจ็บตัวทำไมครับ” ฉันถามแฝดน้องที่มีนิสัยชอบลุย เลือดร้อนเร็วมาก ห้ามไม่รู้จะห้ามยังไงแล้ว
“ยักษ์บอกว่าเราสามคนไม่มีพ่อครับ” น้องไทม์ทำหน้าโกรธปะปนเสียงสั่นเครือเมื่อพูดถึงชนวนเหตุ
ขณะนั้นเองมีเสียงลอบหายใจดังมาจากประตูบ้าน “เฮ้อ จะบ้าตาย” เป็นเสียงของนินจา เพื่อนอีกคนของฉัน เขากำลังอุ้มเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก ซึ่งตอนนี้จมูกแดงช้ำจากการโดนทำร้าย
“ตายแล้ว” ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ น้องริกะที่อ่อนกว่าคู่แฝดเพียงหกเดือนมีเลือดไหลออกมาจากรูจมูก
“ริกะ!” มิ้นแม่ผู้ให้กำเนิดน้องริกะร้องเรียกลูกสาวด้วยความตกใจ พลางลุกไปอุ้มมาโอบกอดถามไถ่อาการ “หนูเจ็บมากไหมลูก เราไปหาหมอกันนะคะ”
“รักเจ็บตรงนี้ค่ะ” น้องริกะชี้ที่อกข้างซ้ายของเธอ รักเป็นชื่อที่แทนตัวกับคนในครอบครัว
“หนูช้ำในเหรอลูก” มิ้นรีบเปิดเสื้อลูกสาวดู
“ไม่ค่ะ รักเจ็บใจ รักเกลียดยักษ์” เด็กน้อยพูดพลางร้องไห้งอแงเสียงดังลั่น
“อย่าร้องรัก พี่จะปกป้องรักด้วยกำปั้นของพี่” น้องไทม์ลูกชายของฉันเองค่ะ น้องไทม์เดินเข้าไปปลอบริกะทั้งที่ตัวเองปากแตกอยู่เลย
“พอเลยน้องไทม์ มาเล่าต่อเลยค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น” ฉันซักต่อขณะที่นินจาเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาวางและเรียกน้องไทน์ไปทำแผลก่อน
“ยักษ์บอกว่าเราไม่มีพ่อ พ่อไม่สั่งสอน พ่อไม่ต้องการ คนไม่มีพ่อก็ต้องอยู่ด้วยกัน” น้องไทม์พูดด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธสีหน้าแสดงออกตามอารมณ์อย่างชัดเจนตามประสาเด็ก
“ฮึก ฮึก ฮือ รักเกลียดยักษ์ค่ะแม่มิ้น”
“ไม่ร้องนะ เดี๋ยวพี่ไปต่อยยักษ์ให้ โอ๊ย! เจ็บครับแม่ทิชา” น้องไทม์ร้องเสียงหลงเมื่อฉันจิ้มลงที่มุมปากของเขาเบา ๆ
“เจ้านักเลงตัวจิ๋ว จะไปให้เขาต่อยอีกหรือไง เห็นไหมว่าความใจร้อนของเราทำให้พี่ไทน์กับน้องริกะเจ็บตัว ไหนมาเล่าซิว่าทำไมริกะถึงเจ็บได้”
“รักปกป้องไทม์ครับ รักมาขวางไว้ รักเลยโดนต่อย” น้องไทม์เล่าก่อนจะเงยหน้าไปมองริกะแล้วพูดว่า “ทีหลังอย่าปกป้องพี่ พี่จะปกป้องรักเอง”
“ไม่ได้ เราสามคนเป็นพี่น้องกัน ต้องปกป้องกันและกัน”
“พอเลยค่ะ ทางที่ดีห้ามมีเรื่องอีกนะคะ แล้วถ้ายักษ์แกล้งก็บอกยักษ์ไปว่าถ้านิสัยไม่ดีจะไม่มีใครเล่นด้วย ไม่มีใครรัก เข้าใจที่แม่พูดไหมคะ”
“คับ/ค่า” เด็กน้อยทั้งสามประสานเสียง แต่เชื่อเถอะว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์ได้แผลกลับบ้านมาอีกแน่
