บท
ตั้งค่า

ราพันเซล

“หนู ไปนั่งทำอะไรตรงนั้นลูก”

“ฮือๆ”

“เฮ้ยอย่า!”

ปี๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบ

แสงไฟสีขาวสาดส่องไปยังร่างเล็กของสาวน้อยสวมเดรสสีชมพูที่ตอนนี้เธอยืนอยู่กลางถนนและมองไปยังรถคันดังกล่าวด้วยความตกใจ ณิชาเองก็อึ้งกับสถานการณ์ดังกล่าวมากเธอจึงรีบวิ่งไปยังเด็กคนนั้นแบบไม่คิดชีวิตเพราะตอนนี้ในหัวของเธอนั้นคิดเพียงว่า ถ้าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เสียลูกไปต้องเสียใจเหมือนที่เธอเสียพ่อแม่ไปแน่นอน

“กรี๊ด!” สาวน้อยกรีดร้องออกมาสุดเสียงในขณะที่ณิชานั้นก็โอบกอดเด็กคนนี้ไว้ที่กลางถนนเพราะยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี แต่ทั้งสองนั้นก็ยังโชคดีมากนักที่รถคันดังกล่าวหยุดลงแบบกระทันหัน

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดด

ทั้งสองกอดกันแน่นกลมดิ๊กเพราะต่างคนก็รักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น ทุกอย่างเงียบสงบเนื่องจากหูมันอื้อไม่และรู้สึกตัวราวกับวิญญาณมันออกจากร่างไปแล้ว หญิงสาวบอกเนื้อตัวของตนเองเพื่อเช็คความรู้สึกว่าตอนนี้เธอและเด็กน้อยยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า หรือว่าตอนนี้พวกเธอนั้นตายไปแล้วเพียงแต่ว่าตายแบบไม่รู้ตัว ทว่าตอนนี้เธอยังมีความรู้สึกอยู่จากนั้นณิชาก็รวบรวมสติพร้อมกับเขย่าตัวของเด็กสาวเพื่อเรียกสติของเธอคืนมาเช่นกัน

“เฮือก! เป็นอะไรหรือเปล่า”

“ฮือๆ” เด็กสาวโผเข้ากอดเธออีกครั้งพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างอดกลั้นเสียไม่ได้ ด้วยความที่เธอนั้นเสียขวัญเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยจึงปล่อยโฮออกมาแบบนี้

“เฮ้ย ดูลูกมึงดีๆหน่อยสิวะ ถ้ากูชนมันตายขึ้นมากูไม่รับผิดชอบนะเว้ย!” เจ้าของรถยนต์คันหรูคันดังกล่าวลดกระจกลงมาก่อนที่จะตะโกนด่าเสียงดังอย่างหัวเสีย

“ขอโทษค่ะ คราวหน้าหนูจะดูแลลูกดีๆ”

บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนน!

จากนั้นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวก็ออกตัวขับรถไป ถึงแม้จะโกรธอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะเด็กก็คงไม่รู้ความ

@ร้านเจ๊แบม

ตอนนี้สายตาทั้งหกคู่ของเจ๊แบม นาวิน และณิชา จับจ้องไปที่ภาวิกาอย่างพิจารณาพร้อมกับกอดอกจ้องสาวน้อยตาไม่กระพริบ ทำให้ภาวิดานั้นสั่นเกร็งจับสายกระเป๋ากระชับตามประสาเด็กที่หวาดกลัว อีกอย่างที่นี่ก็เป็นสถานที่รื่นเริงเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยคนแปลกหน้าทั้งนั้น แต่ทั้งสามก็เอาสาวน้อยคนนี้มาหลบที่หลังร้านก่อนเพราะถ้าเกิดมีใครผ่านมาเจอเด็กในสถานที่แบบนี้จะดูไม่ดี

“พวกพี่ๆ...มองหนูทำไมคะ” ภาวิกาถามเสียงสั่นคลอนและปากงุ้มตามประสาเด็กน้อยที่กลัวคนแปลกหน้า

“บอกมาว่าน้องเป็นลูกใคร บ้านอยู่ไหน ทำไมออกมาวิ่งกลางถนนแบบนี้”

“เจ๊ พูดดีๆกับเด็กมันหน่อย” ณิชาท้วงขึ้นเมื่อเจ๊แบมรัวคำถามไปยังภาวิกา ด้วยความที่พวกเขาไม่ชอบเด็กด้วยจึงอยากรีบเอาเธอไปคืนให้กับผู้ปกครอง หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ๆภาวิกาก่อนที่จะหย่อนสะโพกนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม และภาวิกาก็นั่งตรงข้ามโต๊ะกินข้าว

“น้องชื่ออะไร”

“...” เด็กน้อยได้แต่ทำตาแป๋วอย่างหวั่นๆ แต่ในใจก็พยายามพิจารณาคนตรงหน้าอยู่ว่าน่าไว้ใจหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนณิชาจะช่วยชีวิตเธอก็ตาม

“กลัวพวกฉันสินะ ฉันชื่อณิชาฉันอยากเป็นเพื่อนกับน้องอะ ถ้าน้องไม่บอกชื่อ เราจะทำความรู้จักกันได้ยังไงล่ะจริงไหม”

“ชื่อน้องภาค่ะ เด็กหญิงภาวิกา กิเลนารินทร์ อายุหกขวบ อยู่ชั้นอนุบาลสาม เป็นหัวหน้าห้อง...” ภาวิการีบยกมือน้อยๆของตนขึ้นมาปิดเข้าที่ปากของตนเองเมื่อเธอนั้นหลุดแนะนำตัวออกมาโดยอัตโนมัติเหมือนที่โรงเรียนของเธอเคยสอนไว้

“ว้าว สวยแล้วยังเก่งอีกนะเรา หิวไหมเดี๋ยวฉันหาอะไรให้กิน” ณิชาเอ่ยถามแต่ก็ยังคงน้ำเสียงห้าวๆ กิริยาท่าทางแก่นๆเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะพูดกับเด็กก็ตาม

“หิว...”

“ไอ้เม่นเอาข้าวผัดจานนึง!”

“โอเคพี่!”

“น้องภาขอกุ้งเยอะๆ”

“กุ้งเยอะๆด้วยเว้ย ลูกค้ากูชอบกุ้งเยอะๆ!”

“ครับ!”

เม่น พ่อครัวสุดหล่อประจำร้านขานรับออร์เดอร์สุดพิเศษจากรุ่นพี่ที่เขานับถือด้วยเสียงหนักแน่นจากนั้นก็รีบลงมือทำอาหารทันที

“ขอกุ้งเยอะๆไม่เกรงใจเจ้าของร้านเลยนะ อีเด็กนี่นิ!” เจ๊แบมพูดจิกกัดเด็กสาวพร้อมกับทำตาขวางอีกทั้งยังยังพูดจาไม่ดีกับเธอจึงทำให้เด็กสาวผู้ที่มีนิสัยเอาแต่ใจเป็นทุนเดิมและไม่เคยมีใครพูดจาแบบนี้ใส่หน้าถึงกับทำตาขวางคืนด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะเปิดกระเป๋าสะพายสีชมพูของเธอแล้วอวดธนบัตรสีเทาประมาณสองร้อยใบได้

“น้องภารวยค่ะ น้องภามีแบงค์พันเยอะด้วย” เมื่อเห็นดังนั้นคนเห็นแก่เงินอย่างเจ๊แบมและณิชาก็ตามันวาวกับจำนวนเงินหลายแสนที่เกอดมาไม่เคยได้แตะมันนานๆสักครั้ง จนในที่สุดความโลภก็เข้ามาครอบงำจิตใจบังคับร่างกายให้ใฝ่ดีพูดจากับภาวิกาดุจเจ้าหญิง

“โอ้ว แหม หนูคงเป็นลูกคนรวยแถวนี้ที่ออกมาเดินเล่นสินะคะ อยากดื่มอะไรไหมเจ้าคะ มีเหล้าแพงๆด้วยนะเจ้าคะ”

“น้องเขาแค่หกขวบเองเจ๊ หลอกขายเหล้าได้ไง” นาวินรีบออกตัวแรงเมื่อเจ๊เจ้าของร้านหิวเงินถึงขนาดที่โฆษณาขายแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุหกขวบ

“ขอแค่น้ำแร่ก็พอค่ะ น้องภาเป็นคนง่ายๆ”

“ได้เลยค่ะท่านหญิง เดี๋ยวให้ไอ้นาวิแว้นออกไปซื้อให้เลย”

“เรื่องเงินนี่ไวเชียวนะ เจ๊ไปทำงานเถอะเดี๋ยวฉันดูแลต่อเอง” ณิชาเอ่ยอย่างมีเลศนัยไม่วายปรายตามองภาวิกาอย่างหิวกระหายด้วย

“โอเค๊!”

“ข้าวผัดมาแล้วครับ” ในขณะเดียวกันเม่นก็ยกข้าวผัดจานโตมาเสริฟให้แก่ภาวิกา และทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของใครของมันเหลือเพียงแค่ณิชาและภาวิกาเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่หลังร้าน

“อร่อยไหม” หญิงสาวเอ่ยถามเด็กน้อยที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆจนแก้มป่องมันช่างเป็นภาพที่หน้าเอ็นดูเหลือเกิน เมื่อเห็นความน่ารักของเธอเข้าก็ทำให้หญิงสาวนั้นมีความคิดแวบเข้ามาในหัวว่าอยากจะมีลูกน่ารักๆแบบนี้บ้าง

“อร่อยค่ะ”

“เป็นลูกคนรวยสินะ แปลกจังทำไมถึงออกมาเดินเล่นตอนกลางคืน”

“น้องภาไม่ได้ออกมาเดินเล่นค่ะ น้องภาหนีออกจากบ้าน”

“หนี?”

“คุณพ่อบอกว่าเกลียดน้องภา น้องภาก็เลยปีนต้นไม้กระโดดข้ามกำแพงออกมาเลย”

“เป็นพ่อคนประสาอะไรทำไมบอกว่าเกลียดลูก เป็นพ่อที่ไม่ดีจริงๆเลย”

“แล้วแม่น้องล่ะอยู่ไหน”

“คุณแม่อยู่อเมริกาค่ะ ทุกปิดเทอมคุณแม่จะมารับน้องภาไปอยู่ด้วย น้องภาอยากบินไปหาคุณแม่ก็เลยเอาเงินมาเต็มกระเป๋าเลย คิกๆ” ภายใต้รอยยิ้มน้อยๆนั่นมันซ่อนความเจ็บปวดและความโดดเดี่ยวไว้และในที่สุดมันก็ฉายออกมาชัดเจนทำให้ณิชาเห็นความรู้สึกของเด็กคนนี้ มันเศร้าเกินกว่าที่เด็กหกขวบจะรับไหว จากตอนแรกที่หญิงสาวเตรียมฮุบเงินเด็กคนนี้กลับกลายเป็นสงสารแทนเมื่อรู้ว่าเธอตั้งใจจะเอาเงินก้อนนั้นเพื่อเดินทางไปหาแม่ที่อยู่ไกลแสนไกล

“โธ่เอ้ยเด็กน้อย ช่างไร้เดียงสาเสียจริง”

“พ่อพี่ณิชาเกลียดพี่ณิชาไหมคะ”

“หึ พ่อจะไปเกลียดลูกได้ไงล่ะ เว้นแต่ว่าคนคนนั้นไม่เคยมีความเป็นพ่อหรือไม่ใช่พ่อของเราจริงๆ”

“อ๋อค่ะ...” ภาวิกาตอบหน้าเจื่อนๆพร้อมกับก้มหน้าทานข้าวต่อไป ณิชานั่งมองเด็กคนนี้ตาไม่กระพริบด้วยความเอ็นดูและสงสาร เธอเป็นเด็กที่ไม่งอแง พูดคุยรู้เรื่อง อีกทั้งยังเก็บอาการเก่งและแสดงออกแค่ด้านที่มีความสุข

“ผมยาวจังเลยเด็กน้อย เดี๋ยวฉันรวบให้นะ” เธอไม่รอช้ารีบล้วงยางรัดชมสีชมพูที่กระเป๋าผ้ากันเปื้อนแล้วทำการมวยผมยาวสลวยของภาวิกาขึ้นพอเป็นพิธีจะได้ไม่หล่นลงมาตอนรับประทานอาหาร

“พี่ณิชาใจดีจัง”

“เหอะ! เป็นบางครั้งน่ะ”

“สวยเหมือนราพันเซลเลยแม่เจ้าหญิงตัวน้อย”

“น้องภาอยากเป็นสามัญชนมากกว่า ไม่อยากเป็นราพันเซลที่ถูกขังในหอคอยตั้งสิบแปดปี”

“โธ่เด็กน้อย~” หญิงสาวลูบศีรษะของเธอเบาๆพร้อมกับยิ้มบางๆเพื่อเป็นกำลังใจให้ ส่วนภาวิกาก็ฉีกยิ้มให้เธอเช่นกัน ยิ้มจนตาเป็นสระอิแถมแก้มทั้งสองข้างก็ปั้นเป็นก้อนเหมือนเกี้ยวซ่า

โคร่ม!

เพล้ง!

“กรี๊ดดดดด!”

“เกิดอะไรขึ้นวะ”

หมับ!

“คุณพ่อ...มาตามน้องภากลับแล้ว พี่ณิชาต้องช่วยน้องภานะคะ!”

"ฮะ?"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel