
บทย่อ
“ท้องงั้นเหรอ...เธอท้องกับใคร'ุคงไม่ใช่ฉัน ฉันคงไม่เอาเด็กโง่อย่างเธอมาทำเมีย" “คิดว่าฉันอยากได้นายเป็นผัวหรือไง ไอ้หมอโรคจิต " “เธอ!!
บทที่1
ณ…ค่ำคืนแสงไฟหลากสีสันสวยงามตาของใจกลางเมืองใหญ่ ท้องถนนปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองพร้อมบรรยากาศแสนจะวุ่นวายของใครหลายๆคน กำลังกลับบ้านหลังเลิกงาน
(คืนนี่แกอย่าดื่มเยอะนะเดี๋ยวกลับไม่ไหว)
(รู้แล้วน่าา อย่าบ่นได้ไหม)
(คืนนี้ไปดื่มที่ร้านใหม่กัน)
เสียงเจี๊ยวจ๊าวกลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่นนัดดื่มสังสรรค์เที่ยวท่องราตรีตามสถานบันเทิงเพื่อความสนุก เหมือนกับใครหลายๆคนที่ชอบแวะนั่งดื่มเพื่อความสุขของตัวเอง
ตลาดริมทางอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตในยามค่ำคือของใครหลายคน ที่ต้องแวะเวียนหยิบจ่ายใช้สอยซื้ออาหารหวานคาวและของใช้มากมายหลากหลายชนิดที่ถูกนำมาวางขายตามท้องตลาด
“ป้าคะ กระปุกออมสินน้องหมูตัวนั้นเท่าไหร่คะ”
“ตัวนี้เหรอหนู 299จ๊ะ” เด็กสาวคลี่ยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบจากแม่ค้าก่อนจะสำรวจดูเงินในกระเป๋าสตางค์ของตัวเองที่ถืออยู่ แต่ทว่า เมื่อเธอเห็นเงินอยู่ในกระเป๋ามีแค่สองร้อยกับเศษเหรียญอันน้อยนิด เธอถอนหายใจเบาๆก่อนเงยหน้าขึ้นมองแม่ค้าพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“เออ..ป้าคะ ป้าช่วยลดราคาให้หนูได้ไหมคะ พอดีหนูมีเงินไม่พอหนูมีแค่สองร้อยห้าสิบบาท ป้าช่วยลดให้หนูได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอกหนู ป้าเองก็รับเขามาขายเหมือนกัน ถ้าป้าลดให้หนูมากขนาดนั้นป้าคงขาดทุนแย่ หรือหนูจะเอาตัวนี้ไหม อาจจะใบเล็กกว่าตัวนั้นราคาก็จะถูกกว่า ตัวนี้แค่199”
น้ำขิงทำหน้ามุ่ยทันทีเมื่อเห็นแม่ค้ายื่นกระปุกออมสินขนาดเล็กมาให้ เธอไม่อยากได้กระปุกใบเล็กแต่เธอต้องการกระปุกออมสินใบใหญ่ที่สามารถเก็บเงินค่าขนมที่เธอแบ่งเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นที่อยู่ในกล่องปิ๊บขนมใบเล็กๆได้หมดทุกบาท
“แต่หนูอยากได้ตัวนั้น มันตัวใหญ่พอเก็บเงินของหนูที่อยู่ในปิ๊บขนมได้หมดทุกบาท แต่ถ้าหนูซื้อน้องหมูตัวเล็ก หนูก็ต้องซื้อสองตัวซึ่งหนูก็มีเงินไม่พอที่จะซื้อสองตัวเหมือนกัน แต่ถ้าป้าสุดสวยไม่ลดให้หนู งั้นหนูขอติดเงินที่เหลือได้ไหมคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูเลิกเรียนแล้วเดี๋ยวหนูจะแวะเอามาให้ที่หลัง” น้ำขิงทำหน้าอ้อนสุดฤทธิ์เพื่อที่จะให้แม่ค้านั้นเห็นใจยอมลดราคาให้
“นี่นังหนูอย่าหาว่าป้าใจร้ายเลยนะ มันลดให้ไม่ได้จริงๆ อีกอย่างค่าที่มันก็แพง แล้ววันนี้ป้าเองก็ขายไม่ค่อยจะได้” แม่ค้าอธิบายเหตุผลให้เด็กสาวฟังด้วยสีหน้าบึ้งตึง เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ตั้งร้านมาจนถึงมืดค่ำขายได้ไม่ถึงสิบตัว แล้วมันก็ไม่คุ้มค่าเช่าที่ ที่เธอจ่ายไปน้ำขิงยืนมองกระปุกออมสินหมูตัวนั้นแล้วถอนใจหายออกมาอย่างเซ็ง แววตากลมมองกระปุกออมสินหมูใบนั้นอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากร้าน แต่ทว่า
...หนูจ๊ะหนู!! หยุดก่อน
น้ำขิงหยุดแล้วหันกลับไปมองที่ร้านขายออมสินอีกครั้งพร้อมทำหน้าตาคิ้วขมวดสงสัยว่าใครเรียกเธอ
“อ่ะ ฉันซื้อให้เธอ”หญิงสาวไฮโซหน้าตาดีวัยกลางคนยื่นกระปุกออมสินหมูตัวใหญ่ให้น้ำขิง น้ำขิงเกาหัวทำหน้างุนงง พลางปรายตามองหญิงสาวนึกสงสัยว่าคนที่ซื้อกระปุกออมสินให้เธอคือใคร แล้วทำไมต้องซื้อให้เธอทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน
“คุณน้าซื้อให้หนูเหรอ”
“ใช่จ้ะ”
“แต่หนูกับคุณน้าไม่รู้จักกัน ทำไมถึงซื้อของให้หนูล่ะคะ!” หญิงสาวไฮโซหัวเราะให้กับเด็กขี้สงสัย เธอเองก็แปลกใจว่าทำไมถึงเธอถูกชะตากับเด็กคนนี้อย่างบอกไม่ถูก
“ฉันชื่อทับทิม แล้วหนูชื่ออะไร”
“หนูชื่อน้ำขิงค่ะ” น้ำขิงเอ่ยตอบพลางยิ้มหวานให้หญิงไฮโซอย่างเป็นมิตร
“เดินคุยกันไหม” ถึงน้ำขิงจะความมึนงง อยู่เล็กน้อย แต่เธอก็ยอมเดินตาม
“เด็กสมัยนี้น้อยคนนะ ที่จะซื้อกระปุกออมสินไปออมค่าขนม สมัยนี้สิ่งล่อตาล่อใจมันมีอยู่เยอะเงินที่พ่อแม่ให้ไปโรงเรียนไม่ค่อยจะเหลือไว้ยอดกระปุกเหมือนหนูหรอก”
“ลูกคุณน้าใช้เงินเก่งเหรอคะ "
“ไม่รู้สิ เพราะลูกๆ ของน้าต่างทำงานมีหน้าที่ของตัวเองหมดแล้วส่วนเรื่องเงินน้าไม่ยุ่งกับพวกเขาหรอก”
“แสดงว่าลูกๆ ของคุณน้าก็โตกันหมดแล้ว แล้วคุณน้า มีลูกกี่คนเหรอคะ”
“น้ามีลูกสองคนผู้หญิงกับผู้ชาย ผู้ชายเป็นลูกชายคนโตเป็นหมอที่อยู่โรงพยาบาลฝั่งตรงโน้มที่ห่างจากตลาดไม่ไกลนัก” น้ำขิงมองตามหญิงสาวชี้นิ้วไปอีกฝั่งที่มีป้ายไฟชื่อโรงพยาบาลหน้าตึก
“ส่วนลูกสาวของน้าเขาเป็นนางแบบ แต่น้าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ห้ามไม่ได้ น้าเลยปล่อย” น้ำขิงได้เดินฟังอยู่เงียบๆ พลางปรายตามองคนที่เดินอยู่ข้างๆที่คุยเรื่องของลูกๆของเธออย่างภูมิใจ ที่แต่ละคนต่างฝ่ายมีหน้าที่การงานที่ดี
“แล้วหนูน้ำขิงอายุเท่าไหร่”
“หนูอายุ17ค่ะ”
“แสดงว่าหนูก็เรียนอยู่ชั้นม.5”
“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าจะพักเรียนสักปีแล้วช่วยพี่สาวหาเงินรักษาแม่ เพราะแม่ของหนูป่วยเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงแล้วยังมีโรคอื่นๆ ที่แทรกซ้อนอีก ลำพังแค่พี่สาวหนูหาเงินคนเดียวเลี้ยงทั้งครอบครัวคงไม่ไหว เพราะไหนจะค่าเทอมให้หนูค่ายาแม่ค่าใช้จ่ายต่างๆ แถมยังเป็นหนี้นอกระบบอีกหาก ส่วนพ่อก็ต้องดูแลแม่ เพราะแม่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้”น้ำขิงพูดตัดพ้อให้หญิงสาวไฮโซฟังอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ขัดกับใบหน้าของเธอที่ไม่ได้แสดงสีหน้าที่เป็นทุกข์ใจอย่างที่เธอเล่าให้หญิงสาวไฮโซฟังเลยสักนิด มีแต่รอยยิ้มกับดวงตาที่สดใสตลอดเวลาที่เธอพูด
“พี่อิงฟ้าของหนูเก่งมากๆเลยนะ พี่สาวหนูเปรียบเสมือนซูปเปอร์เกิร์ลที่พลังแกร่งกล้าสามารถทำงานคนเดียวได้หลายๆ อย่างพร้อมกัน หนูน่ะ! อยากเป็นเหมือนพี่อิงฟ้า หนูอยากทำงานหาเงินเยอะๆอยากเห็นพ่อกับแม่และพี่สาวของหนูอยู่สุขสบายเหมือนกับคนอื่นๆเขา”
ทับทิมคลี่ยิ้มบางๆพอนึกถึงชีวิตตัวเองที่เคยรันทดมาก่อน ก่อนที่เธอจะมีชีวิตที่สุขสบายมีเงินใช้ล้นฟ้าแบบนี้ แต่ก่อนเธอเคยผ่านความลำบากเหมือนกับเด็กสาวคนนี้ เธอดิ้นดนทุกสิ่งทุกอย่างทั้งเรียนทั้งทำงานดันตัวเองให้อยู่ลำดับสูงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ เพราะสิ่งที่เธอยึดเหนี่ยวจิตใจก็คือ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ไม่ลงมือก็ไม่สำเร็จคิดแล้วทำนั้นล่ะชัยชนะ
__________อยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้จัง น้ำขิง
