บท
ตั้งค่า

CHAPTER1 คนนอกกำแพง

ฟลินชอบบรรยากาศตอนเช้ามากที่สุด แสงแดดอ่อนๆ กลิ่นกาเเฟหอมๆ ครัวซองสักชิ้น บางครั้งอาจมีเเฮมกับไส้กรอก เป็นชุดอาหารเช้าที่เขาโปรดปรานเป็นที่สุด

เเต่ในตอนนี้มีเเค่นมหนึ่งกล่องกับซุปข้าวโพดเท่านั้น

“ไม่อร่อยเลยครับเเม่” เด็กน้อยพูดพลางทำหน้าหยี “คิดถึงซุปฝีมือคุณยาย” ผู้เป็นเเม่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าเเละสงสารลูกของตนจับใจ

“ถ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน!!!” การ์ดในชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามาคว้าถ้วยซุปของเด็กน้อยก่อนจะเขวี้ยงมันลงกับพื้น “มีให้กินก็ดีเเค่ไหนเเล้ว ยังเรื่องมาก!!”

เด็กน้อยสะดุ้งเฮือก ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว

“ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนี่คะ!!” ผู้เป็นเเม่ดึงลูกเข้ามาปลอบ “ที่เรื่องทุกอย่างมันลงเอยเเบบนี้ก็เพราะพวกคุณไม่ใช่เหรอ”

การ์ดชุดดำอีกสองคนเดินเข้ามาสมทบ พวกเขาพยายามสั่งให้หญิงสาวหยุดพูดเเต่เธอก็ไม่สนใจ

“พวกเราเป็นเเค่คนธรรมดาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วยเลย พวกคนหลังกำแพงสิตัวการ พอเกิดเรื่องก็ได้เเต่มุดหัวหลบอยู่ข้างใน” ผู้คนในบริเวณนั้นหยุดฟัง ส่งเสียงวิจารณ์เเละเริ่มตะโกนเห็นด้วยกับหญิงสาว

เมื่อเห็นว่าคนเริ่มจะมามุงเยอะขึ้น การ์ดคนหนึ่งจึงยกปืนขึ้นมาขู่ “ถ้าไม่หยุดพูด!! ฉันยิงเเน่!!”

“ยิงเลย!! ฉันไม่กลัว ทุกวันนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่เเล้ว”

การ์ดส่ายหัว “ฉันไม่ยิงแกหรอก” เขาเลื่อนปืนไปที่เด็กน้อยที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆหญิงสาว

เธอกรีดร้อง “ไม่!!!!!!!”

เเต่ยังไม่ทันที่การ์ดจะทันได้ลั่นไก ชายหนุ่มคงหนึ่งก็เตะเขาเข้าที่เเขน ปืนรุ่นGlock19 ลอยเคว้งในอากาศ ชายหนุ่มกระโดดคว้ามันก่อนจะส่งคืนให้การ์ด

“ไม่เอาน่าเคิร์ท จ่อปืนไปที่เด็กเเบบนี้ ไม่ดีเลยนะ”

ฟลินหันมายิ้มให้กับคู่เเม่ลูก “เอาชามนี้ไปกินนะ ฉันใส่เกลือเพิ่ม ถึงจะสู้ฝีมือคุณยายเธอไม่ได้เเต่ก็ทนกินหน่อยนะ”

เด็กชายรับไปก่อนจะยิ้มให้ “ขอบคุณครับ” หญิงสาวก็กล่าวขอบคุณเช่นกัน เธอก้มหัวให้ฟลินอยู่หลายครั้งก่อนจะจูงมือลูกชายเดินจากไป

“นายไม่ควรเข้ามายุ่งนะ” เคิร์ทมองฟลินอย่างหัวเสีย “นายทำเเบบนี้พวกมันจะยิ่งได้ใจ ไม่เคารพกฎหมาย”

ฟลินยิ้มที่มุมปาก “ไม่เคารพกฎหมาย หรือไม่เคารพพวกนายกันเเน่”

เคิร์ทถึงกลับสะดุ้งเฮือก วิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อฟลินอย่างเเรง จนการ์ดสองคนที่ยืนอยู่ต้องร้องห้าม “ไม่เอานะเคิร์ท ใจเย็นสิ”

เคิร์ทส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “ก็ได้ ฉันเห็นว่านายเป็นเพื่อนนะ จะไม่เอาเรื่องก็ได้”

เเต่ทันทีที่เคิร์ทปล่อยมือ ฟลินก็ชกเข้าที่ใบหน้าของเขาเต็มเเรง เคิร์ทเซล้มลง เลือดไหลซึมออกมาจากจมูก

“นายเป็นบ้าอะไร ต่อยฉันทำไม!!”

“ฉันไม่ใช่เพื่อนนาย”

“อะไรนะ”

“ถ้านายเห็นฉันเป็นเพื่อนจริง นายคงไม่ปิดประตูใส่หน้าฉันหรอก!!” ฟลินสูดหายใจลึก “ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงไม่ต้องเร่ร่อนอยู่นอกกำแพงแบบนี้”

“นายมาโทษฉันไม่ได้นะ ฉันทำตามคำสั่ง ก็นายอยาก...” ยังไม่ทันที่เคิร์ทจะได้พูดต่อ ฟลินก็วิ่งเข้ามาต่อยเขาอีกหมัด

เคิร์ทเริ่มเลือดขึ้นหน้า เตรียมจะต่อยขึ้นเเต่ก็ถูกการ์ดทั้งสองล็อกตัวไว้ซะก่อน "พอเเล้วๆ ถ้าพวกนายยังไม่หยุดก่อเรื่อง พวกเราจะรายงานเบื้องบนนะ”

ฟลินพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกมา เพราะหากเขายังยืนอยู่ตรงนั้นก็ไม่เเน่ว่าจะหักห้ามใจไม่ให้ต่อยเคิร์ทได้อีก

ส่วนเคิร์ทก็ได้เเต่ยืนทำหน้าไม่พอใจ มองจนฟลินเดินหายเข้าไปในตรอกมืด คงนึกว่าตัวเองเป็นคนโปรดอยากจะทำอะไรก็ได้สินะ วางมาดไม่เคยเปลี่ยน ไม่เห็นหัวใคร ไม่สนกฎเกณฑ์

ฟลินผู้น่าสงสาร ฉันจะรอวันที่นายตกกระป๋อง รอวันที่นายไม่เหลืออะไรเเละสิ้นหวังอย่างที่สุด เมื่อนั้นฉันนี่แหละจะเหยียบนายให้จมดิน!!

“เมื่อกี้พี่เท่มากเลยนะครับ”

ไอ้เจ้าเด็กนี่ สะกดรอยตามฉันมาตั้งเเต่เมื่อไรนะ

“ผมนะทึ่งสุดๆ ไปเลย ถึงจะรู้ว่าพี่เคยทำงานเป็นหน่วยรบมาบ้างก็เถอะ เเต่ท่าเตะปืนมันสุดยอด เคยเห็นเเต่ในหนังเเต่ของจริงนี่มัน...”

“ต้องการอะไรไอ้เนิร์ด” ฟลินขี้เกียจฟังต่อจึงพูดขัดเด็กหนุ่ม “นายตามฉันมาตั้งเเต่เมื่อไร”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “ผมบอกไปเเล้วว่าชื่อมิเกลไงครับ”

“จะชื่ออะไรก็เรื่องของนาย เเต่มาเดินตามฉันเเบบนี้ ต้องการอะไร”

มิเกลยิ้มกว้าง “ผมเก่งใช่ไหมล่ะ เรื่องความไวน่ะไว้ใจได้เลย ผมตามพี่ตั้งเเต่ที่พี่ยืนต่อคิวรับซุปข้าวโพดเเล้วล่ะ”

ถามอย่างตอบอย่าง พูดเเต่น้ำไม่มีเนื้อ เวรกรรมอะไรของฉันที่ต้องมาเจอเจ้าเด็กบ้านี่ด้วยนะ ก็เเค่เคยช่วยจากพวกวอกเกอร์ครั้งเดียวเอง หลังจากนั้นก็ตามติดเเจ

“เฟสเตอร์กับเมดิลีนอยู่บ้านไหม”

“ลุงเฟสอยู่ครับ เเต่ป้าเมน่าจะออกไปข้างนอก” มิเกลหยิบเเอปเปิ้ลลูกหนึ่งขึ้นมายื่นให้ฟลิน “สองสามวันมานี่พืชผักปลูกไม่ค่อยขึ้นเลย ผมทั้งรดน้ำพรวนดิน ลุงเฟสก็ลองเปลี่ยนสูตรปุ๋ยดูเเล้วเเต่ก็ไม่ดีขึ้น ป้าเมบอกว่าอาจจะเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป กลางวันร้อนจัด กลางคืนหนาวถึงกระดูก”

เเน่นอนสิ ตอนนี้อะไรๆ ก็เเย่ไปเสียหมด เทียบกับเมื่อก่อนที่ว่าเเย่เเล้ว ตอนนี้มันนรกชัดๆ

ถึงจะผ่านมานานกว่าสี่เดือนเเล้วที่ต้องใช้ชีวิตอยู่นอกกำแพงเมือง เเต่ฟลินก็ยังคงทำใจให้ชินไม่ได้อยู่ดี เขามักจะนึกถึงชีวิตที่สุขสบาย มีเตียงนุ่มๆ ให้นอน มีอ่างอาบน้ำให้เเช่ มีรถสปอร์ตให้ขับ ทุกๆ วันจะใส่สูทผูกไท เป็นซีอีโอนั่งทำงานในห้องเเอร์สุดหรู

เเต่ในตอนนี้อย่าว่าเเต่เตียงเลย ที่ซุกหัวนอนก็เเทบไม่มีด้วยซ้ำ

ชีวิตที่เรียกว่าตกอับมันเป็นอย่างนี้นี่เองสินะ

ขณะที่ฟลินหวนคิดถึงอดีต มิเกลก็หยุดเดิน เขายืนตัวนิ่งก่อนจะชี้ให้ฟลินมองไปที่หัวมุมของตึกร้างที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

มีอะไรบางอย่างเดินลากเท้าเข้ามาหาพวกเขา

ผิวหนังซีดเผือดเหี่ยวย่น เส้นเลือดปูดบวม มีรอยเเผลเน่าเฟะตามร่างกาย เเขนขาบิดงอไม่ได้รูป ตาขาวโพลนเบิกกว้าง ปากส่งเสียงร้องโอ๊กอ๊ากไม่หยุด ใช่เเล้ว...พวกมันนั่นแหละ ปีศาจร้ายในตอนนั้น

วอกเกอร์!!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel