บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ตอนนี้ไม่หล่อก็ไม่เป็นไร

ในที่สุดก็ถึงช่วงเลิกเวลางาน เด็กชายเดินยืดเส้นยืดสายออกมาจากร้านอาหารอย่างอารมณ์ดี แม้จะรู้สึกแย่ที่ไม่ได้ออกกำลังกายที่วางแผนไว้แต่ถ้าให้เลือกระหว่างบริหารร่างกายกับออกไปทำงานหาเงินใช้ เขาเลือกอย่างหลังดีกว่า ตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าแล้ว เขาต้องรีบกลับโรงเรียน ไม่อย่างนั้นเทียน่าจะเป็นห่วง เด็กชายรีบเร่งฝีเท้า ตอนนี้มีคนเดินอยู่บนถนนไม่มากจึงไม่ต้องเหนื่อยเวลาวิ่งฝ่าฝูงชนแถมยังเดินทางเร็วขึ้นด้วย

"จะซื้ออะไรเข้าไปกินด้วยดีไหมนะ" ระหว่างที่เดินผ่านร้านสะดวกซื้อ วาเรียสก็คิดเรื่องขนมของว่างยามดึก จังหวะนั้นเองก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งย่องมาทางด้านหลังก่อนจะเอามีดจี้เอว

"นี่เจ้าหนู ถ้าไม่อยากตายก็ตามพวกข้ามา" ชายชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งสามคนนั่นเองที่เข้ามาหาเขา วาเรียสเหลือบมองนิดหน่อยก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

"จะพาผมไปที่ไหนครับ"

"ไม่จำเป็นต้องรู้ เอาตัวมันไป!"

"มานี่เลยเจ้าหนู" หนึ่งในสามคนคว้าเเขนเด็กชายแล้วลากไปด้วยโดยไม่สนเลยว่าคนถูกลากจะหกล้มหรือเป็นอะไรก็ช่าง วาเรียสพยายามจะแกะมือพวกผู้ใหญ่ออกแต่ทำยังไงก็แกะไม่ได้สักที

"ปล่อยผม! ผมจะกลับโรงเรียน!"

"รีบพามันไป! เร็ว!" ชายสองคนปิดปากเจ้าหนูจากนั้นก็ยกขึ้นพาดบ่าหามหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านสะดวกซื้อได้ยินเสียงเหมือนมีคนโวยวายจึงออกมาดูแต่ก็ไม่เห็นใครจึงกลับเข้าไปในร้านตามเดิม

"โอ๊ย!"

"เจ็บ!"

"ไม่เอาแล้ว!"

"ร้องทำไม! อยากตายนักเหรอ! ไอ้พวกเด็กเหลือขอ!" หญิงวัยกลางคนเจ้าของคฤหาสน์สะบัดแส้ใส่เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งโดยไม่สนเลยว่าพวกเขาจะเจ็บปวดแค่ไหน เวลาที่นางมีเรื่องหงุดหงิดก็จะพาลมาลงที่เด็กพวกนี้ สำหรับนางแล้ว มันก็มีค่าแค่เป็นที่ระบายอารมณ์เท่านั้น

"คุณหญิงครับ เจ้าสามคนที่ไปจับเด็กเสิร์ฟของร้านอาหารกลับมาแล้วครับ" เสียงฝีเท้าเหมือนคนมาทำให้ลูกน้องคนสนิทหันมากระซิบหูหญิงวัยกลางคน พริบตานั้นชายสวมชุดไอ้โม่งก็วิ่งผ่านประตูเข้ามาในสภาพเหมือนคนเพิ่งฝ่าสมรภูมิมาหยก ๆ

"ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! ไอ้เด็กสยองมันมาแล้ว!"

"เด็กสยอง?" จากนั้นทุกสายตาก็ค่อย ๆ เบนไปที่ประตู เด็กชายผมสีทมิฬซอยยาวเลยบ่าเล็กน้อยเดินมาพร้อมลากคอเสื้อผู้ชายสองคน ทันทีที่เดินเข้ามาในคฤหาสน์ เขาก็โยนร่างของทั้งสองลงพื้นอย่างไม่ไยดี ถ้าเป็นเด็กธรรมดาคงไม่มีแรงลากผู้ชายตัวใหญ่สองคนได้แน่นอกจากเขาจะไม่ใช่มนุษย์ พลันนัยน์ตาสีแดงธรรมดาของเด็กชายกลายเป็นสีแดงเลือด มุมปากคลี่ยิ้มนิด ๆ อย่างอารมณ์ดี

"คุณหญิงนั่นเอง แหม ๆ อยากได้ตัวผมก็ไม่บอก ผมจะได้มาหาดี ๆ กว่านี้" วาเรียสฉีกยิ้มน่ารัก พลางชูสองมือซึ่งเต็มไปด้วยคริสตัลเวทเพลิงที่ทำท่าจะระเบิดเต็มทีเนื่องจากคนถือส่งพลังเวทเข้าไปกระตุ้นจนมันเริ่มรับพลังไม่ไหว "ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนอยากใช้บริการพังบ้านจากผม"

"กะ...แก ไอ้เด็กบ้า!" หญิงวัยกลางคนชี้หน้ากลับไปอย่างโกรธจัด วาเรียสเอียงคอมองพลางกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะทำหน้าเศร้าแล้วบีบน้ำตาชวนน่าสงสารออกมา

"คุณหญิงว่าผมเป็นเด็กบ้าเหรอครับ ทำไมพูดจาให้ร้ายกันแบบนี้ล่ะครับ ผมเสียใจนะ" พริบตานั้นสีหน้าซึมเศร้าก็เปลี่ยนมาเป็นฉีกยิ้มสยอง "ขอบคุณสำหรับคำชม และเพื่อเป็นการตอบแทน ผมจะระเบิดคฤหาสน์หลังนี้ให้วอดวายทั้งหลังเลย!"

"เก็บมัน!" หญิงวัยกลางคนชี้นิ้วสั่ง พวกลูกน้องพร้อมอาวุธครบมือวิ่งไปหาเด็กชาย วาเรียสขว้างคริสตัลเวทเพลิงใส่ทันควัน เกิดระเบิดตูมใหญ่ชนิดที่ว่าเก็บเรียบยกกลุ่ม ส่งผลให้เพดานที่มีโคมไฟระย้าห้อยอยู่ถล่มลงมา เจ้าชายปีศาจน้อยไม่รอช้า เขากระโจนข้ามซากปรักหักพังไปประชิดร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนทันที

"กะ...แก!" เจ้าของคฤหาสน์ถึงกับผงะเมื่อเห็นวาเรียสฉีกยิ้มน่ารักสดใสไม่เป็นพิษเป็นภัยผิดกับอาวุธในมือ พลันสีหน้าของเจ้าชายปีศาจก็เปลี่ยนมาเป็นหน้าเหี้ยมแล้วทิ้งท้ายว่า

"ไปที่ชอบ ๆ เถอะนะครับ"

ตูม!

นี่ก็ดึกแล้วแต่เจ้าของห้องยังไม่กลับเลย เทียน่าที่จัดของเสร็จก็ลอยวนไปวนมาในห้องด้วยความเป็นห่วง วาเรียสน่าจะเลิกงานตั้งนานแล้วแต่ทำไมถึงยังไม่กลับมา จังหวะที่คิดว่าจะออกไปตามหา พลันประตูห้องก็ถูกเปิดออกก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินเข้ามาในสภาพเหมือนเพิ่งไปฝ่าสมรภูมิที่เต็มไปด้วยดินระเบิด เด็กหญิงเบิกตากว้างตามด้วยพุ่งไปสำรวจตามร่างกายอีกฝ่าย

"ท่านวาเรียส!"

"ฉันไม่เป็นไร สบายมาก" เด็กชายฉีกยิ้มสดใสก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ และแต่งตัวใหม่ เทียน่าหอบผ้าในตะกร้าไปล้างคราบเปื้อนตรงก๊อกน้ำที่ระเบียงหลังห้องจากนั้นก็นำผ้าใส่ตะกร้าและนำไปไว้นอกห้องเพราะช่วงเช้ามืด จะมีแม่บ้านมานำผ้าไปซัก

"มีใครทำอะไรท่านมาหรือเปล่าคะ" สภาพแบบนั้น เป็นใครก็ต้องตกใจ

"ไม่มีใครทำอะไรทั้งนั้นแหละ ไว้พรุ่งนี้รอฟังข่าวดีกว่านะ" เจ้าชายปีศาจฉีกยิ้มหน้าระรื่นพลางตรงไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วหยิบตำราที่มีเนื้อหายาก ๆ ไม่เหมาะกับเด็กสิบขวบมาอ่าน

“หนังสือแบบนี้ไม่เหมาะกับเด็กสิบขวบเลยนะคะ” เทียน่าชะโงกหน้าดูหน้าปกหนังสือ เห็นเขียนว่าเป็นตำราเวทมนตร์ระดับสูง เมื่อกลับมาดูเนื้อหาด้านใน อักษรโบราณมากมายที่เป็นส่วนหนึ่งของอักขระเวทก็ทำให้เธอแทบกระอัก

มันคืออะไร เธอไม่รู้เรื่องเลย!

“ท่านวาเรียสไม่ปวดหัวเหรอคะ”

“ทำไมล่ะ” เจ้าตัวแปลกใจที่เธอพูดแบบนี้

“ก็ตำรานั้นมันใช้สำหรับพวกจอมเวทนะคะ อ่านรู้เรื่องด้วยเหรอคะ” เธอแปลกใจจริง ๆ ที่เด็กสิบขวบอ่านหนังสือแบบนี้ เจ้าชายปีศาจน้อยยิ้มกว้างแล้วปิดหนังสือ

“ฉันเปลี่ยนไปอ่านเรื่องอื่นก็ได้” ว่าแล้วเจ้าหนูก็กระดิกนิ้วใช้พลังเรียกหนังสือปกแข็งเล่มหนึ่งลอยลงมาจากชั้นวางของ เทียน่าเห็นแวบ ๆ ว่าเป็นหนังสือภูมิศาสตร์สำหรับเด็กโต คำศัพท์ก็ยากกว่าที่เด็กสิบขวบจะรู้เรื่อง วิญญาณเด็กหญิงจึงได้แต่ยกมือกุมหน้า

ถ้าเขาอยากอ่านหนังสือก็อ่านไป เธอไม่ยุ่งแล้ว!

ข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วเมืองหลังจากมีระเบิดที่คฤหาสน์ของหญิงชั้นสูงผู้หนึ่ง ทหารของทางการพบเจ้าของคฤหาสน์และลูกน้องจำนวนหนึ่งสลบคาอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ยิ่งกว่านั้นยังพบเด็กผู้ชายที่ถูกซื้อตัวมาสนองความต้องการของผู้หญิงคนนั้นด้วย ทางการจึงพาเด็ก ๆ ไปดูแลเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและจะส่งกลับบ้านทีหลัง ส่วนพวกลูกน้องที่ได้สติแล้วก็ให้การไม่รู้เรื่องเพราะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

มันเบลอ ๆ ไปหมดเหมือนมีใครจงใจทำอะไรกับความทรงจำของพวกเขา!

"มีข่าววางระเบิดแต่เช้าเชียว " เฟลมปิดหนังสือพิมพ์แล้วหันมากินข้าวต้มโจ๊ก

"เทมเพสไปไหน" โยริคจำได้ว่าเพื่อนผมหางม้าไม่เคยมาช้า

“ไปตามเจ้าชายอยู่ เห็นว่าเมื่อวานไปปั๊มกุญแจสำรอง สงสัยจะไขกุญเเจไปลากเจ้าชายมาอยู่น่ะ โน่น ๆ เดินมาโน่นแล้ว" อาเนฟมองออกไปนอกโรงอาหาร เห็นเทมเพสกำลังยื้อยุดฉุดกระชากเด็กชายผมดำตรงมาทางนี้อย่างยากลำบาก

"ฉันง่วงนอน ฉันจะกลับไปนอน"

"ไม่ได้ครับ ผมจะให้เจ้าชายตื่นสายไม่ได้แล้ว ท่านจ้าวอุตส่าห์ไว้ใจให้ผมดูแลเจ้าชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินเรื่องนอน ดังนั้นวันนี้ตื่นเช้าสักวันคงไม่ตายหรอกครับ" เมื่อลากมาถึงโต๊ะที่เพื่อน ๆ จองไว้ เทมเพสก็จับวาเรียสนั่งลงพลางเลื่อนชามข้าวต้มและแก้วน้ำดื่มให้

"ข้าวต้มอีกแล้ว อยากกินหมูปิ้ง ไข่เจียว ผัดเผ็ดกบ แกงอ่อมเขียด อาหารข้างทางอะไรพวกนี้มากกว่า เบื่ออาหารหรู ๆ กับอาหารซ้ำซากแล้ว" เจ้าชายปีศาจบ่นพึมพำจากนั้นก็จำใจตักข้าวต้มหมูเข้าปากด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย สี่องครักษ์ซึ่งนั่งอยู่ด้วยก็พากันทำหน้าแปลก ๆ เมนูสองอย่างแรก พวกเขาไม่รู้สึกอะไร แต่อย่างหลังนี่สิที่รู้สึก

อร่อยนักหรือไงถึงอยากกิน!

"กรี๊ด!!!"

"ว้าย ๆ หล่อจัง!"

อะไรอีกล่ะ เด็กชายทั้งห้าหันไปมองตามเสียงอย่างรวดเร็วแล้วก็เห็นเจ้าชายแห่งแดนเทวาเดินเข้ามาก่อนจะตามหลังด้วยเจ้าชายจากประเทศทั้งสี่ของแดนมนุษย์ แต่ละคนหน้าตาดีกันหมด คาดว่าอนาคตคงหล่อเหลาสมเป็นชนชั้นสูง พวกวาเรียสถึงกับกลอกตามองบนจากนั้นจึงกินข้าวต้มต่อ

"โตขึ้น ต้องหล่อมากแน่ ๆ เลย"

"ไปขอคบได้ไหม"

"ไม่เหมือนพวกแดนมืด หน้าตาก็บ้าน ๆ น่ารักก็จริงแต่ไม่หล่อ"

"ใช่ซี้! พวกฉันมันไม่หล่อ" บอกตามตรงว่าวาเรียสหงุดหงิดสุด ๆ พวกสี่องครักษ์ก็พากันเบ้ปากใส่พวกเจ้าชายทั้งห้าอย่างหมั่นไส้ จะหล่อทะลุโลกแค่ไหนก็เชิญหล่อไป พวกเขาจะไม่ยุ่งแต่แอบหมั่นไส้

"ทำไมชอบคนหล่อกันจัง ไม่ชอบหล่อน่ารักแบบฉันเหรอ" เฟลมทำหน้ายุ่ง ๆ ขณะวางช้อนตักข้าวต้ม ตอนนี้เขากินไม่แล้วและไม่อยากจะกินอะไรอีกเพราะเบื่อพวกหน้าตาดี

"พวกนายสี่คนดูไว้นะ โตขึ้น ฉันจะหล่อให้ดู วันนี้หน้าฉันอาจจะไม่หล่อแถมตัวเล็ก แต่วันหน้าฉันจะหล่อแบบหล่อโคตร ๆ หุ่นต้องแซบเหมือนนายแบบ ไหน ๆ คาบเช้าวันนี้ก็ไม่มีเรียน ฉันจะไปข้างนอก ไปหาที่ฟิตร่างกาย มีใครจะไปด้วยไหม"

"ไปครับไป พวกเราไปด้วยครับ" เด็กชายทั้งสี่รีบลุกจากเก้าอี้หลังจากกินเสร็จแล้วยกชามตามหลังหัวหน้ากลุ่มไปทันที แม้ว่าระหว่างทางจะโดนล้อว่าเป็นพวกมืดมนบ้าง หน้าตาบ้าน ๆ บ้างแต่พวกเขาก็ไม่สนใจ

เย็นวันนั้นเจ้าของห้องก็กลับมาในสภาพโทรมทรุด ๆ เพราะไปออกกำลังกายจนหมดแรง เทียน่าถึงกับส่ายหน้า ไปออกแรงก็ไม่ว่าแต่อย่าหักโหมมากนัก เธอช่วยพยุงเด็กชายเข้ามาในห้องโดยให้นั่งอยู่บนเตียงที่จัดไว้ให้ก่อนจะรีบนำน้ำเย็น ๆ มาให้เจ้าตัวดื่มแก้กระหาย

"น้ำค่ะ"

"ขอบใจนะ อูย...ปวดเมื่อยตามตัวชะมัด"

"ออกกำลังกายทั้งที ต้องค่อยเป็นค่อยไป หักโหมแบบนี้มันไม่ดีต่อร่างกายนะคะ" เทียน่าเตือนด้วยความหวังดีจากนั้นก็ส่งยาแก้ปวดที่หาได้ให้อีกฝ่าย "ฉันได้ยินพวกวิญญาณคุยกันว่าเจ้าชายทั้งห้าจากแดนเทวาและแดนมนุษย์หล่อมาก ออร่านี่ออกตั้งแต่เด็ก โตขึ้นต้องเป็นหนุ่มรูปงามแน่ ๆ ไม่เหมือนพวกเจ้าชายปีศาจจากแดนมืด"

"ใช่ซี้! ฉันกับเพื่อนมันตัวเตี้ย หน้าตาก็ไม่หล่อ ออกไปทางน่ารักอย่างกับเด็กผู้หญิง คอยดูนะเทียน่า โตขึ้นฉันจะหล่อให้ดู หุ่นต้องแซ่บ เอ...หรือจะให้มีเสน่ห์แรงจนผีสาวสวยหลงรักด้วยดีไหมนะ"

"ท่านวาเรียส โตขึ้นต้องรักเดียวใจเดียวนะคะ ถ้ามีผู้หญิงหลายคนรับรองว่าบ้านพังแน่ค่ะ ดูอย่างฉันสิคะ เป็นลูกนอกสมรสของเจ้าชายลำดับที่สาม พูดง่าย ๆ แม่ฉันเป็นเมียน้อย แถมเมียหลวงก็หึงหวงมาก ฉันเคยบอกแล้วว่าตั้งแต่ไปอยู่กับท่านพ่อก็ไม่ได้มีความสุขเลย เพราะฉะนั้นโปรดเห็นแก่ผู้หญิง อย่ามีสาว ๆ รอบกายเยอะนะคะ"

"จะว่าไปสมัยที่ท่านปู่หรือจ้าวปีศาจลำดับที่สี่ปกครองแดนมืด ท่านมีสนมมากมาย ทุกคนก็ชิงดีชิงเด่นกัน แต่ว่ามันวุ่นวายยังไง ฉันไม่รู้ แต่ก็อยากจะเห็นสักครั้งนะ" ท่าทางวาเรียสจะไม่สนใจในสิ่งที่เด็กหญิงเตือนนัก เทียน่าส่ายหน้าเอือมระอา เธอไม่อยากให้เด็กชายโตขึ้นมาเป็นคนหลายใจ ดังนั้นเธอจะต้องสอนเขาเดี๋ยวนี้

"ถ้าวันไหนท่านวาเรียสเห็นกับตา รับรองว่าท่านจะต้องหนาวแน่ค่ะ บางคนมีเมียหลวงดีแสนดีแต่เมียน้อยนี่สิคะที่น่ากลัว บางคนเมียน้อยก็ดีเกินไปแต่เมียหลวงน่ะน่ากลัว แต่ว่าฉันไม่โทษผู้หญิงนะคะ ฉันถือว่าผู้ชายนั่นแหละผิด"

"รู้ดีจังนะเจ้าหญิง เสียดาย เธอไม่น่าอายุสั้นเลย โตขึ้นถ้าต้องไปเป็นภรรยาของใคร คนนั้นต้องโชคดีมาก" วาเรียสเอ่ยชมจากใจจริง เจ้าตัวฉีกยิ้มน่ารักพลางปรบมือให้ เทียน่าหน้าแดงนิดหน่อยก่อนจะตีไหล่อีกฝ่ายทีหนึ่ง

"กว่าจะได้แต่งงาน ฉันคงต้องเกิดใหม่ก่อนนะคะ"

"นั่นสินะ มีแฟนเป็นผีคงไม่ปลื้มหรอก ถ้ามีเป็นตัวเป็นตน รับรองว่าชื่นใจ" ดวงตาสีแดงจ้องเข้าไปในดวงตาสีเขียวน้ำทะเล ไม่รู้ทำไมผีอย่างเธอถึงเขินอายเหมือนกับคนปกติ เด็กหญิงรีบถอยห่างออกจากอีกฝ่ายทันที ปกติวาเรียสเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กน่ารัก แต่จริง ๆ แล้วเขามีเสน่ห์บางอย่างทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กผู้หญิงยังต้านไม่ได้!

"ไปอาบน้ำเถอะค่ะ จะได้พักผ่อน"

"นั่นสินะ เหงื่อออกแล้ว ตัวเหม็นเป็นบ้า" ว่าจบเจ้าหนูก็ลุกไปหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ทางด้านเทียน่าที่ตอนนี้ได้อยู่คนเดียวก็สะบัดหัวไล่ภาพเมื่อกี้ออกไป ไม่รู้ทำไมดวงตาสีแดงคู่นั้นถึงดูน่าหลงใหลนัก ทว่าเธอเป็นผี จะชอบคนมีชีวิตอยู่ได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเด็กหญิงจึงได้แต่บอกตัวเองว่า

"ไม่ได้นะเทียน่า เธอจะชอบเขาไม่ได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel