ตอนที่3 ไม่ยอม
“คุณกำลังเล่นตลกอะไรกับผมห้ะ”
พอใจรีบรวบรวมความกล้าทำใจดีสู้เสือ ยังไงเธอก็จะปล่อยให้น้องสาวมาเป็นผู้หญิงของมาเทโอไม่ได้
“คือมะลิไม่รู้ว่าคุณทำข้อตกลงอะไรไว้กับผู้หญิงคนก่อนหน้า เธอคิดว่าแค่เดทแล้วคบหาดูใจกันเฉยๆ เท่านั้น ให้เวลาฉันอีกนิดนะคะเดี๋ยวฉันจะรีบหาผู้หญิงที่ตรงตามความต้องการของคุณมาให้”
“ไม่รอ มะลิตกลงกับผมเองว่าจะเอาตัวเองมาแทน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้ว”
มาเทโอตวาดลั่น
“แต่มะลิเข้าใจผิดนะคะคุณเรียว เธอจะมาเป็นเมียให้คุณไม่ได้หรอกค่ะ”
พอใจเอ่ยเสียงสั่น
“ไม่ได้ก็ตายมันตรงนี้”
ว่าจบก็ดึงปืนกระบอกสั้นจ่อไปยังสองสาว จนเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกอกตกใจตามกันเป็นแถว แต่คนที่ตกใจกว่าเห็นจะเป็นสองสาว มินตราเริ่มกลัวจนน้ำตากตก เธอจะปล่อยให้ใครมาตายไม่ได้
“โอเคค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มะลิจะเป็นผู้หญิงของคุณ”
สิ้นเสียงของมินตรา มาเทโอจึงลดปืนลงได้แต่ก็ยังไม่คลายอารมณ์โมโหอยู่ดี
“มะลิ”
“เรากลับกันเถอะนะคะ”
พอใจมองหน้ามะลิอย่างตกใจ ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดต่อรองอะไรกับมาเทโอต่อ ก็ถูกมินตราดึงลากให้เดินตามออกไปจากที่นี่กะทันหัน
“ถ้าสองคนนั้นมาที่นี่ในตอนที่ฉันไม่อนุญาติ โยนออกนอกบ้านไปได้เลย”
มาเทโอออกคำสั่งกับลูกน้องเสร็จก็ยื่นปืนคืน หลังจากนั้นจึงเดินดุ่มขึ้นไปทำภารกิจที่คั่งค้างต่อ
มาเทโอ คาวากูจิ หรือ เรียว ชายหนุ่มอายุ35ย่าง36 เป็นลูกครึ่ง ญี่ปุ่น อเมริกา เป็นลูกบุญธรรมของมเหศักดิ์ เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กำยำ สักเต็มตัว ใบหน้าคมผมสีน้ำตาลหยิกยาวประบ่า คิ้วหนาได้หนวดเคราเฟิ้มมีสีเดียวกับเรือนผม ดวงตาคมนัยน์ตาสีนิลมีเสน่ห์ จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาเป็นกระจับอมชมพู
เป็นคนนิสัยเป็นคนเด็ดขาด โผงผาง ตรงไปตรงมา มีความเป็นผู้นำสูง มีปมในใจเรื่องพ่อแท้ๆ ไม่สนใจ จึงไม่อยากมีครอบครัวและไม่อยากเป็นพ่อของใคร เขาถูกส่งมาอยู่กับมเหศักดิ์ตั้งแต่เด็ก และถูกมเหศักดิ์รับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ตอนนี้ดูแลกิจการผับบาร์อาบอบนวดหลายแห่งแทนมเหศักดิ์ รวมไปถึงมีธุรกิจเกี่ยวกับไอทีที่เริ่มสร้างเป็นของตัวเอง
ตลอดเวลาที่เติบโตมาถูกเลี้ยงมาให้เป็นผู้นำ มีพี่เลี้ยงที่เขารักเหมือนพี่ชายแท้ๆ คือตฤณภพ แต่ทุกวันนี้คนที่เขานับถือเป็นพี่ชายไม่มีชีวิตอยู่แล้ว และคนที่ไม่คิดจะมีครอบครัวอย่างเขาต้องมาใช้บริการบริษัทจัดหาคู่ก็เพราะคนเป็นพ่ออยากจะให้เขาหมั้นและแต่งงานกับกชกร ลูกบุญธรรมอีกคน หากเขาแต่งงานกับกชกรน้องสาวของการันต์ ทุกคนต้องคิดแน่ว่าวันหน้าเขาจะกลายเป็นยายใหญ่แทนคนเป็นพ่อ ซึ่งเขาไม่ได้อยากได้ชื่อว่าเป็นว่าที่นายใหญ่ และไม่ได้อยากเป็นตั้งแต่แรกแล้วด้วย เพราะลำพังธุรกิจที่มีก็ล้นมือแย่แล้ว และรู้ดีว่าหากเขาจะต้องกลายเป็นที่จับจ้องว่าเป็นว่าที่นายใหญ่แทนที่มเหศักดิ์ การันต์คงไม่พอใจเขาเอามากแน่ ซึ่งเขาไม่อยากมีปัญหากับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนในครอบครัว
หลังจากหนีตายจากบ้านมาเทโอมาได้พอใจและมินตราก็กลับมาปรึกษากับณัฐพลที่บริษัทต่อ วันนี้ทั้งวันทั้งสามรู้สึกเหนื่อยกว่าการทำงานมาเป็นเดือนๆ อีก
“ทำยังไงก็ไม่ยอมจริงๆ หรอแก”
ณัฐพลเดินวนไปวนมาคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงการเจรจาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
“อืม”
พอใจพยักหน้า นั่งทิ้งตัวกับโซฟาอย่างคนหมดหนทาง
“แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเลยค่ะ นึกถึงตอนที่เค้าจ่อปืนมาทางมะลิกับพี่พอใจ ขนลุกไปหมดวินาทีนั้นก็ต้องยอมเค้าค่ะ”
มินตรานึกถึงภาพตอนนั้นเธอก็อดใจเสียขึ้นมาอีกไม่ได้ เกิดมาก็พึ่งจะเจอเรื่องสะเทือนใจแบบนี้เหมือนกัน
“ขอบคุณที่เสียสละเพื่อพวกเรานะชะนีน้อย”
ณัฐพลเข้ามานั่งข้างมินตราลูบหลังหญิงสาวเบาๆ นึกขอบคุณมินตราจากใจจริง ทั้งรู้สึกผิดที่เรื่องทั้งหมดต้นเหตุมาจากที่เขาไว้ใจคนง่ายเกินไป
“เรื่องนี้พี่พอใจห้ามบอกให้คุณย่ากับคุณแม่รู้นะคะ”
“อืม ถ้าพี่บอกมีหวังได้เครียดกันจนเข้าโรงพยาบาลแน่ ให้พ้นช่วงนี้ไปสักพักก่อนแล้วค่อยบอกว่าเรามีแฟน”
พอใจรู้ว่าขืนบอกกับคนที่บ้านว่ามินตราจะแต่งงานในเวลากระชั้นชิดแบบนี้มีหวังได้ถูกซักประวัติยาวแน่ คงต้องรอให้เวลาผ่านไปกว่านี้อีกสักหน่อย
“แล้ววันแต่งอะ ใครจะเป็นญาติผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาว”
ณัฐพลเริ่มเห็นว่าจะมีปัญหาอีกเรื่องต้องแก้แล้ว หากผู้ใหญ่ของมินตราไม่รู้เรื่อง
“ก็บอกไปตามตรง ว่าพวกท่านเสียแล้ว ส่วนญาติคนอื่นๆ ก็ติดธุระเพราะงานแต่งมันมีกะทันหันเลยมาไม่ได้”
พอใจเปรยสายตามองณัฐพลก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ ที่เธอคิดได้ตอนนี้ก็มีตามที่พูดออกไป หากได้เจอน้ำฟ้าพอใจอยากจะฉีกเนื้อยัยนั่นเป็นชิ้นๆ ที่ทำคนอื่นเดือดร้อนกันหมด โดยเฉพาะน้องสาวของเธอ
“ทำไมกลับมากันดึกนักล่ะลูก”
ไพลินรอลูกๆ ทั้งสองจนเกือบจะเข้ากลางดึก เพราะเห็นว่ายังไม่กลับโทรไปก็ไม่รับกันทั้งคู่ หากลูกๆ เธอกลับมากันช้าอีกนิดก็จะขับรถไปที่บริษัทแน่
“ทำงานเพลินไปหน่อยค่ะ แล้วก็กว่าจะขับรถมาถึงบ้านอีก พอใจว่าจะหาคอนโดใกล้ๆ บริษัทอยู่คุณแม่ว่าไงคะ”
เป็นพอใจที่เอ่ยตอบคนเป็นแม่เสียงอ่อน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ด้วยท่าทีเหน็ดเหนื่อย
“หืม ทีก่อนหน้าแม่บอกให้หาอยู่ตั้งนานแล้วจะได้ไม่เหนื่อยขับรถ ทำไมบอกอยากอยู่บ้านล่ะ”
ไพลินมองหน้าพอใจสลับกับมินตราด้วยสายตาแปลกใจ คราแรกเธอเป็นคนออกความคิดเห็นเองว่าให้ลูกทั้งสองหาซื้อบ้านหรือคอนโดแถวนั้นอยู่ แต่กลับมีแต่คำปฏิเสธและบอกว่าอยากจะอยู่กับแม่
“ก็ ตอนนั้นมันยังไม่เหนื่อยเท่าตอนนี้นี่คะ”
พอใจว่าพร้อมเข้าไปสวมกอดเอวไพลินเอาไว้หลวมๆ
“อืม ดีแล้วล่ะลูก เราสองคนจะได้ไม่เหนื่อยขับรถไกลๆ”
“ค่ะคุณแม่ มีอะไรทานบ้างคะหิ๊วหิว”
การเจรจาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มินตราจึงเริ่มที่จะสบายใจขึ้นมาได้บ้าง แถมตอนนี้ท้องไส้ก็ยังส่งเสียงร้องท้วงเมื่อไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่กลางวันแล้ว
“พะโล้ขาหมู ไปอุ่นเอานะลูก”
“เหรอคะ”
เป็นมินตราที่รีบแจ้นเข้าไปในครัวนำหน้าพอใจ คนที่หูผึ่งที่ได้ยินของโปรดของคนทั้งบ้านก็รีบตามน้องสาวไปติดๆ เพราะรู้ว่าหากปล่อยให้มินตราได้เลือกทานก่อน คงเลาะหนังไปใส่จานตัวเองหมดพอดี เป็นเรื่องเดียวเลยที่เธอยอมให้น้องไม่ได้
“มะลิ หนังของพี่นะ”
ไพลินขบขันพฤติกรรมของลูกทั้งสอง ตั้งแต่เล็กจนโตแบ่งกันได้แทบทุกอย่าง ยกเว้นเมนูพะโล้ขาหมูนี้เมนูเดียว
“ท่านแจ้งมาว่าพรุ่งนี้ให้พาว่าที่ภรรยานายไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านตอนเย็น”
ไอเซย่าเข้ามาหามาเทโอในห้องทำงานช่วงกลางดึก หลังจากได้รับรู้คำสั่งของมเหศักดิ์ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง
“อืม”
“กำชับเธอให้ดีว่าต้องทำตัวยังไง ฉันว่าคุณเกรซซักประวัติเธอยาวแน่”
เขากำชับคนที่เป็นทั้งเพื่อนพ่วงด้วยตำแหน่งเจ้านายด้วยความเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่ามเหศักดิ์ไม่ชอบคนพูดโกหก
