EP 7 | พี่ลืมผมแล้วเหรอ
เทมป์มองตามร่างบางไปจนสุดสายตา ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในช่วงเวลาทำงานเขาคงจะเดินตามเธอออกไปแล้วทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เขาได้ติดต่อหรือได้เจอกับเธออีกครั้ง
“น้องเทมป์คะ!”
“เอ่อ..ครับ”
ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเพราะเสียงของจูเน่ เมื่อหันกลับมาจึงเห็นว่าตอนนี้สมาชิกในโต๊ะกำลังมองเขาเป็นตาเดียว เขาเผลอมองเธอนานเกินไปสินะ
“พี่ขอไอจีหน่อยสิ”
แม้จะไม่มีใครพูดอะไรแต่สายตาของทุกคนกำลังล้อเลียนเขาอยู่ชัดๆแถมจูเน่ยังยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มอีกต่างหาก
“ผมไม่เล่นไอจีครับ ไม่ชอบถ่ายรูป”
เทมป์ตอบกลับไปอย่างสุภาพ เขาเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปก็เลยไม่รู้ว่าจะมีอินสตาร์แกรมไปทำไม
“งั้นเฟสบุ๊ค”
“ผมไม่มีเฟสบุ๊คเหมือนกันครับ”
สามสาวหันมองหน้ากันทันที พวกเธอเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาไม่มีจริงๆ หรือเป็นการปฏิเสธทางอ้อมกันแน่
“ผมไม่ได้เล่นโซเชียลเลยจริงๆ ครับ”
เทมป์ยืนยันอีกครั้งเพราะสีหน้าของอีกฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่สามสาวจะไม่เชื่อแต่สำหรับเขาการไม่เล่นโซเชียลก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน
“งั้นไลน์ล่ะ ถ้าบอกว่าไม่มีไลน์นี่ไม่เชื่อแล้วนะ”
ใบหญ้ากอดอกถามด้วยสายตาจับผิด แม้จะไม่เห็นพิรุธอะไรจากชายหนุ่มตรงหน้าเลยก็ตาม
“มีครับ”
มือหนาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดเข้าแอปพลิเคชันไลน์แล้วเปิดคิวอาร์โค้ดเพื่อให้จูเน่สแกนเพิ่มเพื่อน
“เรียบร้อย อ่อ! แต่พี่ไม่ได้จะจีบเทมป์นะแค่ขอไว้เผื่อมีคนอยากได้”
จูเน่ขยิบตาส่งให้เทมป์อย่างขี้เล่นก่อนทั้งสามสาวจะเอ่ยลากันอีกสองสามประโยคแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
มหาวิทยาลัย xx
“ไหวมั้ยวะชาร์”
ใบหน้าสวยที่กำลังทำหน้าง้ำหน้างอด้วยความเครียดเนื่องจากบทละครของเธอแทบจะไม่คืบหน้าเลย
“ไม่!”
ชาร์ลอตตอบพลางก้มลงนอนหนุนแขนตัวเองอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าการคุยกับบัตเตอร์ในโอเพ่นแชทจะไม่มีประโยชน์เธอได้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆ มาอย่างครบถ้วน
แต่สิ่งที่ยังไม่ได้เลยคือความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร ไม่ว่าจะเขียนยังไงบทก็ยังคงติดๆ ขัดๆ ไม่ราบรื่นอย่างที่เธอคิดเอาไว้
“กลับไปที่ร้านอีกสักรอบดีมั้ย”
แคลร์คิดว่าบางทีการกลับไปที่ร้านอีกครั้งอาจจะทำให้ชาร์ลอตมีไอเดียเพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้
“ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะตอนนี้ไอ้ชาร์กำลังมีปัญหาเรื่องความรู้สึกของตัวละคร ของแบบนี้มันต้องเจอเอง รู้สึกเอง รับรองว่าเขียนไหลลื่นแน่นอน”
จูเน่พูดออกไปตามความคิดและเธอเองก็มีแผนสำรองเตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้วรอแค่จังหวะและเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง
“ฉันก็อยากจะเจอเหมือนกัน อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกมากสักแค่ไหนกันเชียว”
ชาร์ลอตพูดพลางลุกขึ้นนั่งหลังตรง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างท้าทายในเมื่อการจินตนาการมันยากนัก เธอก็จะใช้ตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ไปเลยแล้วกัน
ที่คนเขาพูดกันว่าวงการหมาเด็กเข้าแล้วออกไม่ได้มันจะสักแค่ไหนกันเชียว ผู้หญิงที่เปย์หนุ่มบาร์โฮสไปเป็นแสนๆ เพื่อแลกกับสิ่งที่พวกเธอเรียกว่าความสุข มันจะรู้สึกมีความสุขจริงๆ หรือเปล่า
“เยี่ยม! ฉันเตรียมเด็กเอาไว้ให้แกแล้วด้วยไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาจากที่ไหน”
“ใคร”
สีหน้าของชาร์ลอตแสดงออกถึงความระแวงอย่างชัดเจนเพราะนอกจากจูเน่จะเอาแต่เชียร์ให้เธอลองมี ‘เด็กเลี้ยง’ เป็นของตัวเองแล้ว เพื่อนสาวของเธอยังเตรียมเด็กที่ว่านั่นเอาไว้แล้วด้วย
“น้องเทมป์ที่ร้านฟิลลิ่งไง”
จูเน่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจสุดๆ เธอยื่นโทรศัพท์ที่มีแชทสนทนาของเธอกับเทมป์ไปตรงหน้าของชาร์ลอต
Line | Temp
Ju’ ne: เทมป์ค่าบ
Ju’ ne: พี่เน่เองน้าาา
Temp: ครับพี่
Ju’ ne: เทมป์เคยรับงานเพื่อนเที่ยวมั้ย
Ju’ ne: แบบที่เขาไปกินข้าวกัน
Ju’ ne: ไปเที่ยวเป็นเพื่อน
Temp: ไม่เคยครับ
Temp: ถ้าพี่เน่สนใจผมถามเด็กในร้านให้ครับ
Ju’ ne: ไม่ใช่พี่ค่าาา
Ju’ ne: พี่หาให้เพื่อน
Temp: ใครเหรอครับ
Ju’ ne: เดี๋ยวพี่ให้นางทักไลน์เทมป์นะ
Ju’ ne: เทมป์จะไม่รับงานก็ไม่เป็นไร
Ju’ ne: ลองคุยดูก่อน
Temp: ครับ
Temp: สติ๊กเกอร์หมีพยักหน้า
ชาร์ลอตเงยขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์ทันทีที่อ่านบทสนทนาจบ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนสนิทของเธอจะเตรียมการไว้ขนาดนี้แต่เธอกลับถามสิ่งที่ใจอยากรู้ออกไปก่อนสมองจะประมวลผลเสียอีก
“แกเอาไลน์มาจากไหน”
หรือจะแลกไลน์กันหลังจากที่เธอกลับออกจากร้านไปแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดชาร์ลอตก็ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนทั้งสามคนเสียแล้ว
“แหนะๆ หวงออกหน้าออกตาเลยนะ”
ใบหญ้ากระเซ้าเย้าแหย่พลางยกนิ้วเรียวขึ้นชี้หน้าเพื่อนสาวบ่งบอกให้รู้ว่าฉันกำลังรู้ทันความคิดของเธออยู่นะ
“หวงกับผีน่ะสิ! แค่สงสัย”
คนตัวเล็กรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติแต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบจากจูเน่เสียงเรียกชื่อบุคคลในวงสนทนาของใบหญ้าก็ทำให้พวกเธอหันไปมองพร้อมกัน
“เทมป์นี่! เทมป์ๆ ทางนี้”
เทมป์ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยืนเสียงเรียกชื่อของเขาในโรงอาหารต่างคณะฯเพราะไม่คิดว่าจะเจอคนรู้จัก
วันนี้เขาเอาโน้ตบุ๊คของนักศึกษาในคณะนิเทศฯที่จ้างลงโปรแกรมใหม่มาส่งให้ นอกจากเรียนหนังสือ ทำงานที่ร้านฟิลลิ่ง เขายังรับซ่อมคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คและลงโปรแกรมต่างๆ อีกด้วย
“รู้จักสาวๆ สวยๆ แล้วเก็บเงียบเลยนะ ไม่คิดจะเล่าให้เพื่อนฟังบ้างเลย”
ไมค์ชายหนุ่มเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสามเซนติเมตรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในมหาวิทยาลัยของเทมป์เอ่ยแซว
“พี่เค้าเคยไปเที่ยวที่ร้าน”
เทมป์ส่งยิ้มไปทางกลุ่มของสี่สาวบางๆ ก่อนดวงตาคู่คมจะเผลอหยุดมองชาร์ลอตอยู่หลายวินาที
“เฮ้ย! ไม่ใช่แค่เคยไปเที่ยวแล้วมั่ง มองตาค้างขนาดนี้”
ชายหนุ่มจะปฏิเสธก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะเขามองเธอจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรการวางสายตาไปยังใบหน้าสวยของชาร์ลอตถึงทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาทุกครั้ง
“เทมป์ กำลังรออยู่พอดีเลย”
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ เจ้าของโน้ตบุ๊คก็เดินเข้ามายืนส่งยิ้มหวานอยู่ตรงหน้าเทมป์เสียแล้ว
“นี่โน้ตบุ๊คครับ ผมลงโปรแกรมให้เรียบร้อยแล้ว”
มือหนายื่นกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊คลายคิตตี้สีชมพูหวานแหววไปให้หญิงสาวตรงหน้า ระหว่างทางที่เดินถือมาเกือบทุกสายตามองมาทางเขาและไมค์ด้วยสีหน้าอมยิ้ม เชื่อได้เลยว่ากลุ่มคนเหล่านั้นคงหนีไม่พ้นสาววายที่กำลังจิ้นกันไปไกล
“ขอบคุณน้า เอาเลขบัญชีมาสิ”
“นี่ครับ”
เทมป์ยื่นนามบัตรเล็กๆ ที่เขาเป็นคนทำไว้สำหรับแจกให้ลูกค้าเผื่อว่าลูกค้าจะบอกต่อกันและทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น
“น้องคนนั้นใครอ่ะ ทำไมเทมป์ถือกระเป๋ามาให้วะ”
ใบหญ้าพูดในขณะที่ใบหน้าสวยเก๋ยังคงชะเง้อชะแง้ไปทางนั้นอย่างสนอกสนใจไม่ต่างจากแคลร์และจูเน่
ชาร์ลอตแบนปากพลางกลอกตามองบนอย่างที่เธอชอบทำเวลารู้สึกหมั่นไส้ก่อนจะหันกลับมาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าสะพายของตัวเอง
“ไม่เข้าเรียนกันหรือไง”
คนโดนเหวี่ยงหันมองหน้ากันอย่างก่อนจะอมยิ้มออกมา ทั้งๆ ที่คุณหนูชาร์ลอตเหวี่ยงวีนเป็นเรื่องปกติแต่ทำไมเพื่อนๆ ของเธอถึงสัมผัสได้ว่าครั้งนี้มันไม่ปกติกันนะ
ร่างบางรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางหยิบชีทเรียนขึ้นมาถือเอาไว้แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินร่างสูงของใครบางคนก็เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“ยังไม่ได้ทักทายกันเลย จะรีบไปไหนเหรอครับ”
เทมป์เอ่ยถามพลางส่งยิ้มบางๆ ให้หญิงสาวตอนนี้ไม่ได้อยู่ในร้าน เขาไม่ต้องคอยระแวงว่าจะมีใครมาจับผิดเรื่องการล้ำเส้นลูกค้ามากจนเกินไป
“เรารู้จักกันด้วยเหรอ”
แทนที่เขาจะรู้สึกเสียใจหรือตกใจกับคำพูดของเธอ เทมป์กลับหัวเราะออกมาเบาๆ และนั่นยิ่งทำให้ชาร์ลอตรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม
“พี่ลืมผมแล้วเหรอ ผมเสียใจนะครับเนี้ย”
