บท
ตั้งค่า

โดนดุ

“ดึกปานนี้แล้วทำไมไม่รู้จักกลับบ้าน” เสียงดุทรงอำนาจดังขึ้นจากข้างหลังทำเอาร่างเล็กของพิรตาต้องหันขวับกลับไปมองแทบจะทันที ทว่าเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงที่มีใบหน้าดุเย็นชาของเขา ดวงตากลมสวยก็เบิกโพลงขึ้นทันทีด้วยความตกใจ

“ขะ คุณลีอันโดร”

“ไม่ได้ยินที่ถามรึไง!” สองสาวต่างสะดุ้งเฮือกด้วยความอย่างตกใจเมื่อคนเขาตะคอกถามขึ้นมาอีกครั้ง

“เอ่อ คือ...”

“แล้วคุณเป็นใคร ทำไมต้องมาตะคอกเสียงใส่พวกเราด้วย” ญะญ๋าถามอย่างไม่พอใจเมื่ออยู่ๆ มีใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาทำหน้ายักษ์และตะคอกใส่เธอกับเพื่อน ทำเอาลีอันโดรตวัดสายตาดุกร้าวหันไปมองทันทีอย่างเยือกเย็น จนร่างของญะญ๋าต้องขยับเดินไปหลบที่หลังของเพื่อนอย่างหวาดกลัวกับสายตาดุเย็นชาคู่นั้น

หน้าตาหล่อเสียเปล่า ทำไมดุขนาดนี้เนี้ย

“คะ คือ พวกเรามาดูหนังกันค่ะ แต่มันเหลือแค่รอบสามทุ่มก็เลยนั่งรอเวลาน่ะค่ะ” เป็นเสียงสั่นแหบพร่าของพิรตาที่เอ่ยตอบออกไปเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าหันมาส่งสายตาคาดคั้นเอาคำตอบกับเธออีกครั้ง

“คิดอยากจะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้งั้นสินะ อยากจะกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ หรือเที่ยวไปไหนมาไหนค่ำๆ มืด ๆ ก็ได้รึไง!”

“มะ ไม่ใช่อย่างงั้นนะคะคุณลีอันโดร” พิรตารีบปฏิเสธเขาออกมาทันทีไม่อยากให้เขาเข้าใจเธอผิด ไม่อยากให้ในสายตาของเขาเธอเป็นเด็กไม่ดี

“คือ.. คือเราพึ่งไปหาข้อมูลทำวิจัยเสร็จกันน่ะค่ะ เลยมาหาอะไรทานกันที่นี่ แล้วพอดีมีหนังเข้าใหม่ก็เลยอยากดูเพื่อผ่อนคลายเท่านั้นเองค่ะ”

“พอใจนี่เธอรู้จักผู้ชายหน้าดุคนนี้ด้วยหรอ” ญะญ๋ากระซิบถามเพื่อนเบาๆ ด้วยความแปลกใจระคนหวาดกลัวอยู่ข้างหลัง

“เอ่อ คุณลีอันโดรคือลูกชายของคุณท่านน่ะญะญ๋า”

“ฉันไม่ได้จะมายืนฟังเธออธิบาย หรือแก้ตัวอะไรทั้งนั้น” ชายหนุ่มพูดพลางมองไปรอบบริเวณ ก็เห็นมีวัยรุ่นชายประมาณสามสี่คนมองมาที่เธอด้วยแววตาที่เดาก็รู้ว่าพวกนั้นมันคิดอะไรกับยัยเด็กนี่แน่ กรามแกร่งขบกันจนขึ้นเป็นสันนูนทันทีด้วยความหวงแหน

“กลับบ้าน!” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาทรงอำนาจ สายตาก็ดุดันน่ากลัวจนเธอได้แต่ลอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก

“คือ...หนูขออนุญาตชวนพอใจดูหนังได้ไหมคะ อีกอย่างเราก็พึ่งซื้อตั๋วไป ถ้าพอใจกลับไปหนูคงไม่กล้าดูคนเดียว” ญะญ๋าเอ่ยขออนุญาตเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างหวั่นกลัว

“ไม่กล้าดูก็แยกย้ายกันกลับบ้าน นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอสองคนจะมาดูหนังกลางดึกแบบนี้ อ๋อ หรือนัดใครไว้กันแน่ล่ะ” ประโยคแรกชายหนุ่มตอบเพื่อนของเธอ แต่ประโยคถัดมานั้นเขาหันมาจ้องเธอแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยัน

“ไม่ ไม่ได้นัดใครไว้ค่ะ เรามากันแค่สองคน” เธอหันมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ใจหนึ่งก็อยากอยู่เป็นเพื่อนญะญ๋า ใจหนึ่งเธอก็กลัวเขาจะหาว่าเธอเป็นเด็กดื้อ ที่ขัดคำสั่งเขา ญะญ๋าที่เห็นเพื่อนของเธอแสดงสีหน้าลำบากใจ จึงทำให้เธอพลอยรู้สึกผิดไปด้วย

“งั้นวันหลังเราค่อยมาดูก็ได้เนอะ วันนี้ก็ดึกแล้วจริงๆ แหละ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่หอพักเอง ไปกันเถอะ” ด้วยเพราะรู้จากเพื่อนว่าผู้ชายคนนี้ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของเพื่อน ญะญ๋าจึงจำต้องตัดใจจากการดูหนังในครั้งนี้แล้วหันไปชวนเพื่อนสาวกลับแทน

“อะ อื้ม ขอบคุณนะ” พิรตาพยักหน้าก่อนจะเดินกลับไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินกลับมาไหว้ลาเขาก่อนกลับ แต่ทว่า...

“เดี๋ยว!” สองสาวหันไปมองที่ชายหนุ่มทันทีกับน้ำเสียงเข้มทรงอำนาจที่ดังขึ้นอีกครั้ง

“เธอกลับบ้านไปได้แล้ว ส่วนเธอฉันจะไปส่งเอง” เขาหันไปบอกเพื่อนของเธอด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่พอหันมาพูดกับเธอน้ำเสียงเขาค่อนไปทางดุ

เห้อดุอีกแล้ว ทำไมเขาชอบดุเธอกันนะ เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือก็เปล่า...

“แต่ว่า...”

“ฉันพูดชัดแล้วนะ” เขาสวนทันควันพลางใช้ลิ้นดุนกระพุงแก้มราวกับกำลังระงับอารมณ์หงุดหงิด

“เดี๋ยวฉันกลับกับคุณลีอันโดรก็ได้จ้ะญะญ๋า ไม่ต้องห่วงนะ” หญิงสาวเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปบอกกับเพื่อนเธอให้คลายความกังวล ญะญ๋าจึงจำต้องพยักหน้ารับก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ลาชายหนุ่มหน้าดุผู้มีพระคุณของเพื่อน

“เอ่อ... งั้นฉันกลับแล้วนะพอใจ สะ... สวัสดีค่ะคุณลีอันโดร”

“...” ร่างสูงยืนนิ่งโดยไม่ยอมรับไหว้หรือตอบรับคำบอกลานั้น ร่างเล็กของญะญ๋าจึงต้องเลี่ยงเดินกลับออกไปอีกทางทันที

“เอ่ออ...คือ” พิรตาลอบมองใบหน้าหล่อคมดุของผู้ชายที่เธอแอบรักอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อตอนนี้เหลือแค่เธอกับเขายืนกันอยู่สองคนหน้าโรงหนัง

“มัวยืนบื้ออยู่ทำไม ตามมาสิ!” เขาพูดเสียงดุใส่เธออีกแล้ว พูดดีกลับเธอสักครั้งไม่ได้รึไงนะ เอะอะตะคอกลูกเดียวเลย

“เอ่อ ขะ ค่ะๆ” พิรตารีบวิ่งตามเขาไปทันทีด้วยกลัวว่าเขาจะหันมาดุเธออีกรอบหากขืนยังชักช้าโอ้เอ้

┅✹┅

ทันทีที่เดินมาถึงลานจอดรถร่างสูงของคุณลีอันโดรก็เดินไปคุยอะไรสักอย่างกับลูกน้องของเขาด้วยใบหน้าดุจริงจังเหมือนเช่นทุกครั้ง ส่วนเธอก็ทำได้เพียงแค่ ยืนเก้ๆ กังๆ มองซ้ายขวาอย่างทำตัวไม่ถูกรอเขา เขายืนคุยกับลูกน้องไม่นานก็มีรถสปอร์ตหรูที่เธอเคยเห็นในทีวีขับเข้ามาจอดตรงหน้าเขาทันที

พิรตามองตามร่างสูงที่เดินอ้อมไปฝั่งคนขับเงียบๆ โดยไม่กล้าเอ่ยถามอะไรกับเขา เพราะปกติเธอกับเขาแทบจะไม่เคยคุยอะไรกัน ส่วนมากจะมีแต่เธอที่พยายามจะทักเขา และพยายามจะพูดกับเขาอยู่ฝ่ายเดียว เธอคิดพลางก้มมองที่พื้นด้วยความน้อยใจ

“จะเดินกลับเองใช่ไหม” หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงทันทีอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“จะกลัวอะไรนักหนา มานี่” เขาเดินกลับมากระตุกเรียวแขนเล็กของเธอให้เข้าไปหาอย่างไม่เบามือนัก ก่อนจะกระชากประตูเปิดแล้วจับร่างเล็กของคนขี้กลัวยัดเข้าไปนั่งข้างในรถทันทีด้วยกิริยาที่ดิบเถื่อน

ตุบ!

“อ้ะ” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความเจ็บ พรางเอามือลูบบริเวณแขนเล็กที่มีรอยนิ้วมือของเขา

“ดุจังเลยนะครับนาย” เสียงเอ่ยแซวของนิคมือขวาคนสนิทของเขาอีกคน ทำให้ชายหนุ่มต้องตวัดสายตามามองอย่างดุดัน

“นี่ถ้าเธอรู้ว่านายรีบมาหาเธอขนาดไหนคงยิ้มแก้มปริแน่ครับ”

“ไอ้นิค! กูเพื่อนเล่นมึงรึไง” นิคยิ้มให้เจ้านายหนุ่มอย่างกวนอารมณ์ ไม่ได้หวาดกลัวเจ้านายหนุ่มของตัวเองเลยสักนิด เพราะเขารู้ว่าถ้าหากเป็นเรื่องของหญิงสาวในรถแล้วล่ะก็ เจ้านายเขาไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก เพียงแค่เขินจนต้องกลบเกลื่อนด้วยการตะคอกและทำหน้าดุแบบนี้เท่านั้นเอง

“นายหญิงรอนานแล้วครับ”

“ไอ้นิค!!” ลีอันโดรกัดกรามจนนูนเป่งด้วยความโมโหระคนกลัวว่าเธอจะได้ยินในสิ่งที่ลูกน้องเขาแซว

“ครับนาย” นิครับคำพลางโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถของตัวเอง ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มยืนหน้าดำหน้าแดงขบเขี้ยวฟันอยู่คนเดียว

ปัง!

เสียงเปิดและปิดประตูที่ดังขึ้นจากฝั่งคนขับทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ พลางแอบลอบมองเขาอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นใบหน้าหงุดหงิดบึ้งตึงของเขา

“มองอะไร!”

“ปะ เปล่าค่ะ” หลังจากตอบคำถามเขาเสียงสั่นแหบพร่า รถสปอร์ตสุดหรูก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วทันที

บรรยากาศในรถตอนนี้ทั้งอึมครึมและเงียบสงบจนเธอยินเสียงหายใจของตัวเอง แถมตอนนี้เธอยังรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่รู้เลยว่าหนาวเพราะแอร์หรือรังสีความเย็นชาของเขากันแน่

“เอ่อ เลี้ยวขวาข้างหน้าค่ะคุณลีอันโดร”

“ฉันต้องรีบเข้าไปเคลียร์เอกสารด่วน ไม่อยากกลับรถไปมา” เขาตอบเสียงเรียบโดยไม่หันมามอง

“งั้นจอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ ดะ เดี๋ยวพอใจขึ้นแท็กซี่ต่อเองค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกเขาด้วยความเกรงใจ แต่เขากลับไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด เท้าหนาเหยียบคันเร่งไปต่อราวกับไม่ได้ยินที่เธอพูด

“ไปกับฉัน! เดี๋ยวกลับมาส่ง” ลีอันโดรหันมาบอกคนที่นั่งหน้าซีดเสียงราบเรียบเช่นเคย แต่ทว่าคำพูดของเขากลับทำเอาเธอซีดไปกว่าเดิม เธอไม่ได้กลัวเขาตรงข้ามเธออยากอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลาอยู่แล้ว หากไม่ใช่เวลาที่ดึกมากแบบนี้

“ปะ ไปไหนคะ มันดึกแล้วนะคะ”

“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ”

“ขะ เคลียร์เอกสารที่ไหนคะ”

“ทำไม! กลัวหรอ”

“ปะ เปล่าค่ะ”

“หึ!”

ลีอันโดรหัวเราะในลำคอกับอาการของหญิงสาวข้างกาย ยัยเด็กนี่จะมีสักครั้งไหมที่จะเก็บอาการของตัวเองบ้าง คิดอะไรนี่ออกทางสีหน้าและแววตาไปซะหมด ไม่ว่าจะเสียใจ น้อยใจหรือแอบรักใคร ใช่ เขารู้ว่าเธอแอบชอบเขา รู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ก็เก็บอาการไม่ได้แบบนี้ไง ใครๆ ก็มองออกทั้งนั้น มีแค่เจ้าตัวแหละที่คิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา เด็กน้อยเอ้ย ชายหนุ่มคิดในใจและแอบอมยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะหันมองหญิงสาวข้างกายที่นั่งเม้มปากจนแก้มนุ่มของเธอบุ๋มลงไปเป็นลักยิ้มสวยที่เขาหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน

กรามแกร่งขบกันแน่นอย่างพยายามข่มใจไม่ให้กระชากร่างเล็กเข้ามากดจูบกับความน่ารักนาสทะนุถนอมของเธอ

L - CLUB

สถานบันเทิงและคาสิโนครบวงจรที่ใหญ่โตและหรูหราที่สุดในย่านนี้คือธุรกิจของครอบครัวเขา ความจริงแล้วสถานบันเทิงและคาสิโนพวกนี้เขามอบหมายให้ ลีออน น้องชายคนเล็กของเขาเป็นคนดูแลทั้งหมด และที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นสาขาย่อยๆ นักถ้านับกับสาขาที่ต่างประเทศทำให้น้องชายของเขาไม่ค่อยมาตรวจงานมาดูงานที่นี่ จะมีก็แต่เดรคลูกน้องคนสนิทของลีออนเท่านั้นที่ไปๆ มาๆ เพื่อรายงานผลให้เจ้านายของมันทราบ

วันนี้เขามาที่นี่เขาจึงถือโอกาสมาดูการบริหารของสาขาที่เมืองไทย มาตรวจงานและเช็คความเรียบร้อยของที่นี่ดูความพัฒนาของที่นี่สักหน่อย อีกอย่างเขาอยากลงโทษคนตัวเล็กข้างๆ ที่ริอาจกลับหอดึกๆ ดื่นๆ ดูซิเด็กที่นอนเร็วแบบเธอจะทนได้สักแค่ไหน

“คุณลีอันโดรคะ เอ่อ ที่นี่คือที่ไหนคะ” พิรตาพูดพลางหันมองสถานที่รอบบริเวณนอกตัวรถอย่างหวาดหวั่นและไม่คุ้นเคย เสียงเปิดและปิดประตูรถทำให้เธอต้องรีบลงจากรถแล้ววิ่งไปคว้าข้อมือหนาของเขาทันทีด้วยความลืมตัว

“รอด้วยค่ะ เอ่อ ขอโทษค่ะ” เธอปล่อยมือหนาทันทีที่เห็นเขามองมาที่เธอด้วยดวงตาดุราวกับไม่ชอบใจที่เธอถือวิสาสะไปจับมือเขา

“เชิญด้านบนครับนายใหญ่” การ์ดร่างยักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่ประตูหลังทางเข้าสำหรับแขกวีไอพีและผู้บริหารคลับผายมือเชิญร่างสูงของลีอันโดรให้เข้าไปด้านในอย่างนอบน้อม ลีอันโดรจึงเดินเข้าไปข้างในคลับโดยไม่หันหลังกลับมามองคนตัวเล็กที่เขาพามาด้วยราวกับต้องการแกล้งทิ้งเธอเอาไว้ พิรตาที่เห็นเขาเดินเข้าไปข้างในโดยไม่รอเธอก็รีบสับเท้าเดินตามเขาเข้าไปข้างในทันที

แต่ทว่า...ร่างเล็กกลับถูกล็อคและกระชากแขนสุดแรงให้กลับออกมา

“ตรงนั้นสำหรับผู้บริหารและแขกวีไอพีเท่านั้น ลูกค้าเชิญซ้ายมือ”

“คือ หนูมากับคุณลีอันโดรค่ะ”

“สภาพอย่างเธอนี่นะมากับนายใหญ่” การ์ดร่างยักษ์มองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน ใช่แล้วล่ะ สภาพเธอตอนนี้ดูไม่เหมาะกับสถานที่ใหญ่โตหรูหราแบบนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดคอกลมสีชมพู กระโปร่งยีนสีซีดเลยเข่าขึ้นมาเพียงนิดกับรองเท้าผ้าใบราคาไม่กี่บาท เธอหันไปมองรอบบริเวณก็เห็นมีแต่คนที่แต่งตัวดีหรูหราไฮโซเหมาะกับสถานที่ ต่างจากเธอราวฟ้ากับเหว

“แล้วหนูสามารถรออยู่ตรงไหนได้บ้างคะ”

“ข้างนอก ลานจอดรถ” พี่การ์ดตอบเธอออกมาส่งๆ ราวกับไม่อยากจะเสวนากับเธอก่อนจะหันไปตรวจบัตรต่ออย่างไม่คิดสนใจเธออีก

“เอ่อ... ค่ะ” พิรตาพยักหน้ารับคำพลางเดินน้ำตาคลอออกมาข้างนอกคลับทันทีด้วยความน้อยใจ ถ้าเขาจะทิ้งเธอเอาไว้แบบนี้ จะพาเธอมาด้วยทำไมนะ…คนใจร้าย

┅✹┅

“มึงรู้ไหมผู้หญิงที่มึงไล่ออกไปน่ะ คือว่าที่นายหญิงใหญ่ของที่นี่!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel