ความฝันหรือความจริง
หอพัก
สัมผัสแผ่วเบานุ่มนวลบดคลึงเคล้าที่กลีบปากบางกระจับของเธอราวกับต้องการปลอบประโลมให้เธอคลายจากความเศร้าหมอง... ไม่ช้าเรียวลิ้นร้อนก็สอดแทรกเข้ามาดูดกลืนความหวานละมุนปานน้ำผึ้งของเธอด้วยความโหยหาเรียกร้องราวกับเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ไม่อยู่
นี่คงจะเป็นความฝันของเธออีกแล้วสินะ... หญิงสาวคิดพลางขยับเรียวปากจูบตอบชายหนุ่มเจ้าของหัวใจของตัวเองไปอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน มือเรียวยกคล้องกอดที่ลำคอหนาของเขาด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี แม้ก่อนหน้าเธอจะร้องไห้เสียใจเรื่องของเขาแค่ไหน แต่เพียงแค่ได้ฝันถึงเขา ได้รับจูบแสนอ่อนโยนราวกับกำลังปลอบประโลมของเขาจากในความฝันแบบนี้ก็ทำให้เธอไม่อยากตื่นจากฝันนี้เลย
มือหนาสีเข้มหลังมือเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนอย่างน่าหลงใหล ยกมือประคองใบหน้าสวยหวานของคนใต้ร่างให้ตรึงนิ่งกับที่ ก่อนจะก้มลงไปกดจูบเปลือกตาสวยเบาๆ แล้วเลื่อนปากหยักสีสวยลงมาที่ข้างแก้มเนียนนุ่มที่บุ๋มลงไปเป็นลักยิ้มสวย เขากดจูบกดหอมที่แก้มนุ่มอยู่อย่างนั้นเป็นสิบๆ ครั้งด้วยความหลงใหล
ฟอดด ฟอดด
ชายหนุ่มเคลื่อนริมฝีปากหนาชวนสัมผัสลงมาแถวบริเวณซอกคอหอมกรุ่นของเธอแล้วจึงใช้ลิ้นปาดเลียบริเวณต่อมเสียวนั้นจนเธอต้องเผยอปากน้อยๆ ปล่อยเสียงครางออกมาด้วยความเสียวกระสัน
“คุณลีอันโดรขาา..”
เฮือก!
พิรตาละเมอครางเรียกเจ้าของสัมผัสสุดวาบหวามเสียงกระเส่า ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อสัมผัสของเขาค่อยๆ หายวับไปจากห้วงความฝัน หญิงสาวหันมองรอบบริเวณอย่างสะลึมสะลือ ทำไมความฝันเมื่อครู่นี้ถึงเหมือนจริงแบบนี้กันนะ…เหมือนกว่าทุกครั้งที่เคยฝัน มือเรียวเล็กแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ก็พบว่ากลีบปากบางของเธอนั้นเปียกชุ่มราวกับเธอได้ผ่านการจูบมาจริงๆ เป็นไปไม่ได้หรอกพอใจ คนอย่างเขาจะมาจูบเธอแบบในความฝันได้ยังไง แค่มองหน้าเค้ายังไม่อยากมองเลย...
เห้อ...
พิรตาลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เตรียมตัวไปหาเพื่อนของเธอเพื่อทำงานวิจัยตามที่ได้นัดกันไว้และทันทีที่เข้ามาถึงห้องน้ำ เธอก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจกับสภาพพื้นห้องน้ำของตัวเอง ทำไมพื้นห้องน้ำของเธอเปียกปอนราวกับพึ่งผ่านการใช้งานมาไม่นานแบบนี้ หรือว่าเธอปิดฝักบัวไม่สนิทกัน คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็เดินไปที่ฝักบัวภายในห้องพลางมองอย่างสำรวจเพื่อหาความผิดปกติ
ใช่จริงด้วย เธอปิดฝักบัวไม่สนิทหรอเนี้ย ทำไมเธอสะเพร่าแบบนี้นะ ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้สักหน่อย คนตัวเล็กบ่นตัวเอง พลางเดินมาถอดเสื้อผ้าที่อ่างล้างหน้า ฉับพลันดวงตากลมสวยก็เบิกขึ้นทันทีอย่างตกใจเมื่อเห็นรอยจ้ำเลือดสีแดงอ่อนๆ เหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นมาหมาดๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ลำคอหรือแม้กระทั่งบริเวณหน้าอกก็มีรอยช้ำนี้อยู่เต็มไปหมด เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ จะว่าแพ้ครีมทำไมไม่เป็นทั้งตัว ทำไมเกิดแค่บริเวณนี้กัน หญิงสาวคิดหาคำตอบยังไงก็คิดไม่ออก จึงตัดใจเก็บเรื่องนี้ไว้ไปปรึกษาเพื่อนที่มหาลัยเผื่อเพื่อนเธอจะรู้คำตอบ ไม่นานคนตัวเล็กก็ตัดสินใจอาบน้ำทันทีเพราะใกล้ถึงเวลาที่ได้นัดกับเพื่อนของเธอไว้แล้ว
มหาวิทยาลัย K
“พอใจทางนี้!” พิรตาหันไปตามเสียงเรียกก็พบเข้ากับ ญะญ๋า เพื่อนสาวคนสนิทของเธอกำลังยืนร้องเรียกเธออยู่หน้าทางเข้ามหาลัย
“ขอโทษที่สายนะญะญ๋า พอดีฉันนอนดึกไปหน่อยน่ะ”
“ขอโทษทำไมกัน ฉันก็พึ่งมาถึงก่อนเธอไม่กี่นาทีเอง” ญะญ๋าพูดพลางมองใบหน้าที่หม่นลงเล็กน้อยของเพื่อนอย่างแปลกใจ
“เดี๋ยวนะ นี่นอนดึกหรือร้องไห้กันแน่เนี้ย ทำไมตาเธอบวมเป่งแบบนี้พอใจ”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่นอนดึกไปหน่อยน่ะ อ่านหนังสือเพลิน แฮะ” พิรตาเฉไฉตอบเพื่อนของเธอไปเพราะไม่กล้าบอกความจริงว่าเธอร้องไห้ติดกันมาสองคืนแล้วตั้งแต่ที่ได้รับรู้ว่าผู้ชายที่เธอเฝ้าแอบรักมีแฟนแล้ว
"จริงหรอ?"
“อื้ม ไปหอหนังสือกันเถอะ เราจะได้มีเวลาหาข้อมูลนานๆ” พิรตาครางรับในลำคอแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องชวนเพื่อนเดินตรงไปที่หอหนังสือของมหาลัยทันที โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตามืดลึกของใครบางคนกำลังมองตามเธอเข้าไปข้างในด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาอยู่ภายในรถยนต์สุดหรู
┅✹┅
“เห้ออ พอใจฉันว่าเราพอแค่นี้ก่อนได้ไหม สมองฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว ไปชอปปิ้งหาอะไรทานที่ห้างใกล้ๆ มอกันเถอะนะๆ น๊าาา” ญะญ๋าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขอร้องแกมออดอ้อนเธอหลังจากที่เข้ามาหาข้อมูลการทำเล่มวิจัยกันไปหลายชั่วโมงแล้ว
“ก็ได้ค่ะ คุณหนูญะญ๋า” หญิงสาวตอบเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้มหวาน พลางสายหน้าน้อยๆ กับความขี้อ้อนนั้น
“เย้ๆ เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเธอเอง ตอบแทนที่เธอช่วยอธิบายวิจัยของเราให้ฉันเข้าใจง่ายขึ้น”
“ฉันจะกินให้ท้องแตกเลย ห้ามคืนคำล่ะ” หญิงสาวตอบกลับเพื่อนทันควันพลางยกนิ้วเกี่ยวก้อยสัญญา จากนั้นทั้งสองก็เก็บของเพื่อที่จะออกไปเดินผ่อนคลายและหาอะไรทานที่ห้างสรรพสินค้าใกล้มหาลัย
ห้างสรรพสินค้า
“ญะญ๋า ฉันขอไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ เธอไปรอฉันในร้านเลยก็ได้” พิรตาหันมาพูดกับเพื่อนเสียงเบาเมื่อเดินมาถึงหน้าทางเข้าร้านอาหาร
"ไม่ให้ฉันไปเป็นเพื่อนหรอ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ ห้องน้ำใกล้แค่นี้เอง อีกอย่างถ้าไปด้วยกันกลับมาก็กว่าจะได้กินอีก"
“เอางั้นก็ได้ รีบมาล่ะ”
"จ้าาา" พิรตาพยักหน้าก่อนจะแยกทางกันกับเพื่อนเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นเดียวกับร้านอาหารที่เธอเลือกมาทาน
ทว่า...
สายตาของเธอกลับไปสะดุดเข้ากับร่างสูงสง่าของใครบางคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูดุดันน่ากลัวกำลังเดินตรงมาทางที่เธอยืนอยู่ โดยที่ข้างหลังมีชายชุดดำสามคนเดินขนาบข้างตามมา
"คุณลีอันโดร..." ขะ เขามาที่นี่ได้ยังไง ก็เมื่อสองวันก่อนเธอยังอ่านข่าวเขาอยู่เลย งานเปิดตัวคอนโดสุดหรูที่สเปนกับแฟนสาวของเขา เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาที่ไม่รู้มาจากไหนก็เอ่อขึ้นมาซึมที่ขอบตาสวยของเธอทันที พิรตามองชายหนุ่มด้วยความคิดถึง เธออยากวิ่งเข้าไปกอดเขาให้หายคิดถึงด้วยซ้ำ แต่คงทำได้แค่คิดเท่านั้น เพราะเธอรู้สถานะตัวเองดี
“สะ สวัสดีขะ”
หญิงสาวยกมือไหว้เมื่อร่างสูงของเขาเดินเข้ามาใกล้จุดที่เธอยืนอยู่ แต่ทว่ากลับต้องยกมือค้างกลางอากาศ เพราะเขาไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ เขาทำราวกับไม่ได้ยินและไม่เห็นเธอ ทั้งที่เธอยืนใกล้เขาไม่ถึงคืบด้วยซ้ำแต่เขากลับไม่มองมาหรือตอบรับอะไรเธอเลย เขาเดินผ่านเธอไปราวกับเธอไม่มีตัวตนหรือเป็นอากาศธาตุอย่างนั้นแหละ
หญิงสาวหันหลังกลับไปมองก็เห็นเขากำลังยื่นมือทักทายชายวัยกลางคนที่ยืนรอเขาอยู่หน้าร้านอาหารชื่อดัง ก่อนที่ชายคนนั้นจะผายมือเชื้อเชิญให้ร่างสูงของเขาเข้าไปในภัตตาคารหรูระดับวีไอพีของห้างอย่างนอบน้อม ดูท่าทางเขาคงมาคุยธุรกิจหรืองานกัน เธอไปทักเขาแบบนั้น ถ้าเขาหยุดคุยคงทำให้เขาเสียเวลาในการทำงานแน่หญิงสาวคิดปลอบใจตัวเอง ก่อนจะตัดใจจากการมองเขาแล้วเดินไปที่ห้องน้ำทันที
“ทำไมไปนานจังอ่ะพอใจ ฉันแอบกินรอเธอมาจนจะอิ่มแล้วเนี้ย”
“โทษทีจ้ะญะญ๋า พอดีฉันเจอคนรู้จักเลยไปทักทายนิดหน่อยน่ะ”
“แล้วทำไมตาเธอแดงๆ แบบนั้นอ่ะ”
“ตอนเดินมาฉันเผลอขยี้ตาแรงไปหน่อยน่ะ ไม่มีไรจ้ะ รีบกินกันเถอะ” เธอตอบกลับเพื่อนพลางนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตัวเองเพื่อเบี่ยงเบนความสงสัยของเพื่อน
“พอใจกินเสร็จดูหนังกันนะ หนังเรื่องนี้ฉันรอมาสองปีเต็มเลยนะ ฉันอยากดูมากๆ เลยอ่ะ นะๆ ดูเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” ญะญ๋าอ้อนเธออีกแล้ว มีหรอที่เธอจะใจแข็งกับลูกอ้อนของเพื่อนคนนี้ได้
“ฉันต้องยอมเธออีกแล้วสินะ” หญิงสาวพูดพลางอมยิ้มน้อยๆ ออกมามองใบหน้าสุดอ้อนของเพื่อนรัก
"เย้! เธอนี่ทั้งสวยและใจดีสุดๆ เลย"
“เอ่อ ญะญ๋า คือฉันมีเรื่องจะถามอ่ะ คือเธอเคยใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวแล้วแพ้บ้างไหม แล้วส่วนมากถ้าแพ้ เธอแพ้ทั้งตัวหรือเฉพาะส่วนหรอ” หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนของเธอทันทีหลังจากที่พึ่งนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ค้างคาใจอยากปรึกษา
“ทำไมหรอ เธอแพ้อะไรหรอพอใจ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ ตอนฉันอาบน้ำฉันเห็นรอยช้ำที่บริเวณคอแล้วก็หน้าอก หรือฉันกินอะไรแล้วเกิดแพ้รึเปล่าก็ไม่รู้”
“ช้ำที่คอแล้วก็ที่หน้าอกหรอ! ไหนฉันขอดูหน่อย” ญะญ๋าพูดจบก็ขยับเข้ามานั่งข้างเธอแล้วเปิดคอเสื้อของเธอเพื่อดูรอยช้ำนั่นทันที
“นี่ทำอะไรของเธอน่ะ คนในร้านเต็มเลยนะ” หญิงสาวพูดด้วยความตกใจแล้วหันมองไปรอบบริเวณหน้าตาตื่น
“นี่พอใจ แกแอบมีแฟนแล้วไม่บอกฉันหรอ”
“ห้ะ!! เธอพูดอะไรของเธอญะญ๋า ฉันมีแฟนที่ไหนกันเล่า”
“ก็รอยที่คอและหน้าอกเธอมันเหมือนรอยที่โดนผู้ชายหรือใครสักคนดูดมาเลยนิ” พิรตารีบถลาเอามือไปปิดปากเพื่อนของเธอทันที
“รอยดูดอะไรกัน ฉันยังไม่มีแฟนและไม่เคยมีอะไรกับใครเลยนะ จะมีก็แต่...” เธอพูดออกมาเบาๆ พลางนึกถึงความฝันสุดวาบหวิวระหว่างเธอกับลีอันโดรเมื่อคืนนี้
“แต่? แต่อะไรพอใจ บอกฉันมาให้หมดเลยนะ”
“ฉันแค่เคยฝัน แต่ฉันสาบานได้เลยนะญะญ๋าว่าฉันไม่เคยมีอะไรกับใคร รอยนี้อาจจะเพราะแพ้ครีม หรือกินอะไรผิดแปลกก็ได้”
“ฝันงั้นหรอ ฝันว่าอะไรเล่ามาซิ”
“เอ่อ... คือ” หญิงสาวอ้ำอึ้งไม่กล้าพูด
“พอใจ ฉันยังเป็นเพื่อนเธออยู่ไหม” ทำไมเพื่อนเธอกดดันเธอด้วยคำถามนี้นะ
“คือฉันฝันว่ามีอะไรกับคนที่ฉันแอบรักน่ะ “
“แอบรักหรอ ใครกัน”
“ไว้ฉันพร้อมฉันจะเล่าให้เธอฟังนะ” หญิงสาวตัดบทพลาง ยื่นมือไปพลิกเนื้อที่กำลังสุกได้ที่ เพื่อหลบสายตาของเพื่อนเธอที่มองมาอย่างคาดคั้นสงสัย ญะญ๋าที่แม้จะอยากรู้เพียงใดแต่ก็ไม่คาดคั้นเพื่อนมากไปกว่านี้เพราะแค่นี้คนตรงหน้าเธอก็น้ำตารื้นขึ้นมาจนเธอตกใจแล้ว
┅✹┅
“เหลือแค่รอบสามทุ่มอ่ะพอใจทำไงดี” ญะญ๋าพูดด้วยใบหน้าที่ซึมลงเล็กน้อยหลังจากพึ่งกลับมาจากเคาน์เตอร์ขายตั๋วหนัง ทำเอาคนที่ชอบตามใจเพื่อนอย่างเธอต้องรีบลุกขึ้นไปปลอบเอาใจแทบจะทันที
“สามทุ่มก็ดูได้ เดี๋ยวฉันดูเป็นเพื่อนเธอเองไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ไม่มีทำวิจัย ฉันกะจะนอนตื่นสายสักหน่อยด้วย”
“งื้อออ ฉันรักเธอที่สุดเลยย”
ภัตตาคาร ณ ห้างสรรพสินค้า
“นายครับคุณพอใจเธอออกไปจากร้านแล้วครับ ตอนนี้เธอกับเพื่อนอยู่ที่โซนโรงหนัง” เสียงรายงานจากลูกน้องทำให้ชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าเรียบนิ่งฟังการรายงานสินค้าล็อตใหม่ที่ทางบริษัทของเขานำเข้ามา คิ้วกระตุกขึ้นทันที
ดึกปานนี้แล้วทำไมไม่รู้จักกลับบ้าน...