ตอนที่12
“เอ่อ...เรื่องนั้นค่อยคุยได้ไหม ฉันหนาว ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” พูดจบก็เตรียมจะหันหลังวิ่ง วินาทีนี้เธอต้องเอาตัวรอดจากผู้ชายตรงหน้าให้ได้ก่อน ทว่าก็ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน ตัวของเธอก็ลอยขึ้นจากพื้นไปเรียบร้อยแล้ว
“ว๊าย ปล่อยฉันนะ”
“ผมจะพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไง”
“ฉันไปเองได้ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย”
เสียงโวยวายของมุขรินทร์ยังคงดังอยู่ตลอด ทว่าก็ไม่ยังสามารถที่จะดิ้นหนีจากซีโวลอดได้ง่ายๆ
ทางด้านปารวีเธอถูกราเดนพากลับเข้าไปในห้องนอนของเขา หญิงสาวถูกวางที่ห้องน้ำ จากนั้นชายหนุ่มก็ยื่นชุดคลุมสีขาวให้เธอได้เปลี่ยน
“เรียบร้อยแล้วก็ออกมาคุยกับผม”
ปารวีค่อยๆ ถอดชุดนอนที่เปียกชุ่มออกทั้งน้ำตา ไม่ได้อยากให้ตัวเองฟูมฟายต่อหน้าเขา ทว่าหัวใจที่ถูกความรู้สึกเสียใจบีบรัดจนปวดหนึบก็ยังคงทำให้น้ำตาของเธอไหลทะลักออกมาได้เรื่อยๆ อยู่ดี
สาวเจ้าสวมชุดคลุมเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าใครยืนรออยู่หน้าห้องเธอก็รีบปาดน้ำตาก้มหน้างุดในทันที
“ร้องให้ทำไม”
สิ้นคำถามของชายหนุ่ม ก็เหมือนเป็นแรงบีบหัวใจของเธอให้ปวดหนึบหนักขึ้น แล้วเธอก็เริ่มที่จะกลั้นเสียงสะอื้นไม่ได้อีกต่อไป
“ก็คุณ...คุณทำอะไรกับผู้หญิงคนอื่น”
“ผมเป็นผู้ชาย มันเรื่องปกติ” ดวงตาคมหลี่มองคนตัวเล็กที่เอาแต่ยืนก้มหน้าสะอึกสะอื้นด้วยแววตาฉงน เธอร้องให้เพราะตกใจกับภาพที่เห็นอย่างนั้นเหรอ เขาพอจะรู้ว่าหญิงสาวเรียนจบแล้ว เรื่องแบบนี้เธอไม่เคยผ่านมันมาหรืออย่างไร
เธอเงยหน้ามองเขาก่อนจะพูดสิ่งที่อยากพูดออกมา “แต่คุณอย่าลืมว่าฉันเป็นเมีย”
“ว่าไงนะ” จากที่หลี่ตามองหญิงสาวด้วยแววตาสงสัย ตอนนี้คิ้วเข้มได้รูปเริ่มขมวดมุ่นจนหัวคิ้วชนกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคิดว่าเธอจะลืมเรื่องที่เขาแต่งงานเพราะความจำเป็นไปแล้วเสียอีก
“ฉันเป็นเมียคุณ ฉันคิดแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่ที่เราแต่งงานกัน ฉันไม่เคยมีใคร แต่คุณ ฮือ ฮือ ฮือ...” ปารวียกมือปากน้ำตาลวกๆ ตัวของเธอสั่นเทา และเริ่มสะอึกสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดๆ มานานหลายปีแล้วล่ะ วันนั้นผมยอมแต่งงานก็เพื่อรักษาหน้าของตาคุณ กับชื่อเสียงของคุณ ผมว่าผมพูดชัดเจนแล้ว อย่าบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณไม่เคยมีใครเพราะคิดว่ามีผมเป็นสามี”
“แล้วมันผิดเหรอคะที่ฉันคิดแบบนั้น ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะอยากจะมาบอกคุณ ว่าฉันรักคุณ”
“รักผม?”
ปารวีพยักหน้า พร้อมกับปาดน้ำตาไม่หยุดจนใต้ตาและพวงแก้มรวมไปถึงจมูกเห่อแดงขึ้นเรื่อยๆ
ราเดนยืนกอดอกมองปารวีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ “คุณยังเด็กเกินไปกับเรื่องความรัก ถ้าคุณรู้จักชีวิตของผมจริงๆ คุณอาจจะไม่อยากอยู่ใกล้ผมก็ได้ เรื่องเมื่อกี้ที่คุณเห็น คุณยังรับไม่ได้เลย”
“เธอเป็นแฟนคุณหรือเป็นผู้หญิงที่คุณใช้เงินซื้อมา” ปารวีพยายามทำให้ตัวเองกลับมาพูดจารู้เรื่องอีกครั้ง หากเขาตอบเธอได้ว่าผู้หญิงพวกนั้นเขาใช้เงินซื้อมาเธอจะพยามเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติในตอนที่เขาอยู่ในสถานะโสด
“ผมไม่เคยคบใครเป็นแฟน ไม่เคยมีความคิดว่าอยากจะมีด้วย”
“ทำไม”
“ผมไม่อยากมีชีวิตครอบครัว”
“ทำไม” เสียงที่เปล่งออกมาเริ่มสั่นเครืออีกครั้ง
“เฮ้อ” ราเดนถอนหายใจเฮือกใหญ่ คุยกับผู้หญิงหลงไหลในความรัก ทั้งยังอายุน้อยกว่าเขาหลายปี การจะทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเขามันคงยาก เพราะดูท่าเธอก็คงยังยึดติดอยู่กับความเข้าใจของตัวเองล้วนๆ
เขาอธิบายกับเธอไปตรงๆ ว่าไม่อยากมีชีวิตครอบครัว ยังถามกลับมาว่าทำไม แล้วเขาจะต้องทำยังไงให้เธอได้เขาใจถึงแก่นแท้ของความรู้สึกของเขา
ราเดนคลายจากท่ากอดอกจากนั้นก็เดินเข้าไปยืนตรงหน้าคนตัวเล็กที่กำลังยืนกลั้นเสียงสะอื้นจนหน้าแดง
ครั้งนี้ปารวีกล้าที่จะเงยหน้ามองจ้องดวงตาอันทรงเสน่ห์ของเขา แต่เธอไม่มองเขาด้วยความชื่นชมแล้ว เพราะสายตาของเธอที่มองจ้องไปยังนัยน์ตาสีสวยนั้นเต็มไปด้วยความน้อยใจ
ทำไมเขาถึงไม่ยอมตอบเธอออกมาล่ะว่าเพราะอะไรถึงไม่อยากมีครอบครัว คำตอบนี้เป็นคำตอบที่เขาตอบเธอคนเดียวหรือเปล่า
“เอาแบบนี้แล้วกัน ถ้าผมจะให้คุณลองเรียนรู้ชีวิตของผมล่ะ ถ้าคุณรับได้ผมก็จะให้คุณอยู่ด้วยในฐานะภรรยา แต่ถ้ารับไม่ได้ คุณก็ต้องกลับไป ทางใครทางมัน โอเคไหม”
“ที่คุณพูดมา หมายถึงให้เราลองคบกันเหรอคะ”
“เข้าใจแบบนั้นก็ได้ แต่ผมจะไม่เปลี่ยนอะไรที่ผมไม่อยากเปลี่ยน แล้วผมก็ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ถ้าคุณรับได้ก็โอเค”
ปารวียังคงเงียบ ดวงตาคู่สวยหลุบลงต่ำกำลังใช้ความคิด หากเขาไม่เคยมีแฟน เท่ากับว่ายังไม่เคยได้รักใคร แล้วถ้าเธอทำให้เขารักเธอได้ เรื่องผู้หญิงคนอื่นที่เขาจะเข้าไปยุ่ง ก็น่าจะไม่มีกวนใจเธอแน่ๆ หวังว่าจะเป็นเช่นที่เธอคิดนะ
