6. ผิดปกติ
ตอนที่ 6.ผิดปกติ
หลายนาทีผ่านไป
ฉ่า~
เสียงเนื้อราคาแพงถูกย่างอยู่ในกะทะ เมื่อเห็นว่าเริ่มได้ที่แล้ว มือเล็กก็ไม่รอช้าที่จะเอื้อมไปหยิบขวดเกลือขึ้นมา ดวงตาเฉี่ยวมองเม็ดเกลือสีขาวในขวดด้วยสีหน้าครุ่นคิดก่อนที่รอยยิ้มร้ายกาจจะค่อยๆฉายออกมา
ฟึ่บๆๆ
ปรีชญาเขย่าขวดโรยเกลือลงไปบนเนื้อชิ้นนั้นอย่างไม่ยั้งมือพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของเธอที่ยังคงยกยิ้มอยู่อย่างนั้น ป้าชื่นเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันมาถามอีกคน เพราะจำนวนเกลือที่ร่วงหล่นลงไปนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย
“ใส่เยอะเกินไปหรือเปล่าคะคุณหนู”
“ไม่หรอกค่ะป้า แบบนี้กำลังพอดี :)” ใบหน้าสวยหันไปเอ่ยตอบอย่างไม่คิดอะไร วันนี้แผนของเธอนั้นง่ายมากๆ ถ้าหากอาชายอมเจรจากับเธอแต่โดยดีเรื่องราวระหว่างเขากับเธออาจจะจบง่ายกว่าที่คิด
เวลาผ่านไปไม่นาน ก็มีเสียงรถคันหรูขับเข้ามาจอดในรั้วของคฤหาสน์หลังใหญ่ ร่างสูงบึกบึนก้าวเท้าลงจากแลมโบกินี่ของตัวเองด้วยท่าทางสบายๆ โดยวันนี้อาชานั้นได้เดินทางมาที่นี่คนเดียว เขาไม่ได้พาลูกน้องคนสนิทอย่างกองทัพมาด้วยเพราะเห็นว่าวันนี้ไม่ได้มีอะไรสำคัญ เป็นเพียงแค่การนัดมาทานข้าวเฉยๆ ร่างสูงจึงสั่งให้กองทัพหยุดงานไป
“สวัสดีค่ะคุณอาชา เชิญด้านนี้เลยค่ะ“ สาวใช้ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปต้อนรับแขกคนพิเศษและนำเขาเดินเข้ามาในบ้าน
ดวงตาคมกวาดตาดูไปรอบบ้านหลังใหญ่ที่เขาเคยมาเมื่อนานมาแล้วด้วยความรู้สึกสนใจที่คฤหาสน์หลังนี้ยังคงดูดีไม่เปลี่ยน แต่แล้วในขณะนั้นเองมาเฟียหนุ่มก็ได้พบเข้ากับเจ้าของบ้านอย่างเจ้าสัวเปรมชัยที่ดูเหมือนจะรอพบเข้าอยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีครับคุณอา” ปากหนักไม่ขอช้าที่จะเอ่ยทักทาย
“มาแล้วเหรออาชา อากำลังรออยู่พอดีเลย” เจ้าสัวยิ้มรับ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ข่าวจากสาวใช้ว่าวันนี้ลูกสาวถึงขั้นยอมลงมาเข้าครัวโชว์ฝีมือด้วยตัวเองเพื่อต้อนรับว่าที่คู่หมั้น
เขาคิดว่านี่มันเป็นสัญญาณดีๆจากลูกสาวของตน....
“รอผมเหรอครับ”
“ใช่น่ะสิ ไม่รู้เราไปทำยังไง ทำไมลูกสาวอาถึงได้อยากเข้าครัวเพื่อเราโดยเฉพาะ”
ร่างสูงได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นอา เปรมชัยคงกำลังหลงคิดไปว่าความสัมพันธ์ของเขากับปรีชญากำลังไปได้ดี แต่ในทางกลับกันมันกลับตรงกันข้าม เพราะเขาไม่คิดว่าคนอย่างปรีชญาจะยอมหมั้นกับเขาง่ายขนาดนั้น เพราะดูจากสีหน้าและท่าทางของเธอในตอนที่เขาเจอเธอครั้งที่แล้ว มันไม่ได้บ่งบอกเลยสักนิดว่าเธอจะชอบเขา
“คุณอาคิดแบบนั้นเหรอครับ“ หนุ่มลูกครึ่งเอ่ยถาม ในขณะที่เปรมชัยเดินนำเขาเข้ามาในห้องรับประทานอาหารที่แลดูโอ่อ่าไม่ต่างจากห้องนั่งเล่นเลยสักนิด
“อื้ม ปกติลูกสาวอาก็ไม่ใช่คนชอบเข้าครัวเท่าไหร่หรอก แต่วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันพิเศษ ยัยปริมถึงได้ยอมลงมือทำอาหารเอง”
ในขณะที่เปรมชัยกำลังเอ่ยถึงลูกสาวอยู่นั้น ทั้งสองก็ได้พบกับชื่นที่กำลังยืนจัดโต๊ะอาหารอยู่พอดี
“สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณอาชา” แม่บ้านสูงวัยไม่รอช้าที่จะเอ่ยทักทายคนตรงหน้า นางรู้จักอาชาเพราะเปรมชัยเป็นคนบอกเอาไว้ว่าวันนี้จะมีแขกมา
นางเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่แปลกใจที่ได้เห็นปรีชญายอมเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเองเพื่อต้อนรับว่าที่คู่หมั้นคนใหม่ล่าสุด เพราะป้าชื่นคือแม่บ้านที่ค่อนข้างสนิทกับคุณหนูของตัวเอง ทำให้นางรู้ดีกว่าใครว่าปรีชญานั้นพยายามต่อต้านคู่หมั้นทั้งสามคนที่ผ่านมามากแค่ไหน แต่กับอาชา มันแปลกออกไป
“ถ้าอาหารเสร็จแล้วก็ไปตามยัยปริมมาเถอะชื่น จะได้เริ่มทานกัน”
“ค่ะคุณท่าน”
เมื่อได้รับคำสั่ง ชื่นก็ไม่รอช้าที่จะเดินกลับเข้าไปในครัวที่มีปรีชญากำลังยืนตกแต่งจานสเต๊กของตัวเองอยู่ด้วยสีหน้าพึงพอใจกับทุกอย่างในวันนี้ที่เป็นไปตามแผน อย่างน้อยๆวันนี้เธอก็ไม่ได้พังครัวของป้าชื่นไปจนหมด
“คุณหนูคะ คุณอาชามาถึงแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นปรีชญาก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอ่ยตอบกลับแม่บ้านคนสนิทออกไป
“ช่วยยกของที่เหลือออกไปหน่อยนะคะ”
“ได้ค่ะคุณหนู” ชื่นไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามายกจานอาหารที่เหลือออกไป
ยกเว้นจานสเต๊กน่ารับประทานตรงหน้าที่ปรีชญาตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือเพื่อว่าที่คู่หมั้นของเธอ รอยยิ้มร้ายค่อยๆปรากฎออกมาจากใบหน้าสวยอีกระรอก ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปหยิบขวดยาเล็กๆที่ถูกซ่อนเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองออกมา
“หึ วันนี้ขอแบบเบาๆก็แล้วกันนะ หวังว่าจะคุยกันรู้เรื่อง” ว่าจบยาน้ำสีใสก็ถูกเทลงไปในแก้วน้ำส้มเล็กน้อย ก่อนที่ปรีชญาจะเก็บทุกอย่างกลับลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
หญิงสาวหยิบช้อนมาคนทุกอย่างในแก้วให้เข้ากัน พร้อมกับรอยยิ้มมีความสุขที่ผุดพรายออกมาบนใบหน้า ยังไงวันนี้.....เธอหวังว่าแผนของตนเองจะผ่านไปได้ด้วยดี ขอให้อาชาเข้าใจอะไรๆอย่างง่ายๆด้วยเถิด
สองนาทีต่อมา
ตึก
ตึก
ฟึ่บ...
”สเต๊กเนื้อริบอายส์สำหรับว่าที่คู่หมั้นค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ :)“ เสียงหวานเอ่ยบอกคนตรงหน้าพร้อมกันรอยยิ้มสดใสของเธอที่ถูกส่งไปให้ร่างสูง
อาชาเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวที่จัดการวางจานอาหารที่มีหน้าตาน่ารับประทานเอาไว้ตรงหน้าของเขา ด้วยความรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่วันนี้อีกคนดูมีท่าทางเปิดรับเขามากกว่าปกติ เช่นเดียวกับเจ้าสัวเปรมชัยที่อดยิ้มออกมาไม่ได้
เขาไม่เคยเห็นลูกสาวจะใส่ใจคู่หมั้นคนไหนเท่านี้มาก่อน นั่นทำให้เจ้าสัวรู้สึกว่าครั้งนี้เขาเลือกไม่ผิดคน
“ขอบคุณ....ครับ” อาชาตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มของเขา ก่อนที่ร่างเล็กจะเลื่อนเก้าอี้ด้านข้างของเขาออกพร้อมกับนั่งลงข้างๆกายแกร่ง
“คุณทำเองทั้งหมดนี่เลยเหรอ”
ปากหนาเอ่ยถามออกมาหลังจากมองดูจานอาหารของตนเองและอาหารไทยที่หลากหลายอย่างบนโต๊ะ แต่ทำไมดูเหมือนเขาจะได้ทานสเต๊กอยู่คนเดียว
“เปล่าค่ะ ฉันทำแค่สเต๊กของคุณ ก็วันก่อนคุณบอกว่าอยากทานอาหารฝีมือฉันไม่ใช่เหรอคะ”
ปรีชญายิ้มตอบ เธอใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางมองใบหน้าหล่อด้วยท่าทางสนใจอีกคนอย่างผิดปกติ นั่นทำให้อาชาเริ่มรับรู้ได้ว่าอีกคนนั้นต้องการทำอะไรบางอย่าง
“ปกติน้องไม่ได้ทำอาหารให้ใครทานง่ายๆเลยนะอาชา” เปรมชัยย้ำบอก
“แล้วคุณอาไม่ทานด้วยกันเหรอครับ”
“โอ้ ไม่ล่ะ ช่วงนี้อาฟันไม่ค่อยดีน่ะ ไม่อยากเคี้ยวเยอะ วันนี้ก็เลยขอให้ชื่นทำอาหารไทยง่ายๆให้”
ได้ยินแบบนั้นอาชาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบสายตาไปมองใบหน้าสวยที่นั่งเหยียดยิ้มมองหน้าเขาอยู่ ซึ่งมองแค่แวบเดียวร่างสูงก็รู้ว่านั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่จริงใจ มันแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
“:)”
