14. คิดถูกหรือผิด
ตอนที่ 14.คิดถูกหรือผิด
@คอนโดหรู
เมื่อรถตู้คันใหญ่ถูกขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าคอนโดหรู กองทัพก็รีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้มาเฟียหนุ่ม
“ให้ผมช่วยไหมครับ” มือขวาคนสนิทเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าปรีชญานั้นนอนหลับสบาย ตั้งแต่ที่ผับจนมาถึงที่นี่
“ไม่เป็นไร” อาชาตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะอุ้มร่างบอบบางเอาไว้บนอกแกร่งอย่างง่ายดาย โดยมีกองทัพยืนสังเกตุการณ์อยู่เงียบๆ
เขาไม่ได้เห็นภาพแบบนี้มานานแล้ว
“ตามแม่บ้านมาให้ฉันแล้วก็เลิกงานได้เลย” ร่างสูงหันมาบอกลูกน้องคนสนิทแค่นั้น ก่อนจะอุ้มร่างเล็กที่อยู่บนอกเดินหายเข้าไปในลิฟท์ด้วยท่าทางสบายๆราวกับว่าอีกคนน้ำหนักเบาเหมือนกับปุยนุ่น
“คงไม่หรอกมั้ง” กองทัพบ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่อสมองของเขากำลังขบคิดและสงสัยอย่างหนักว่าแท้จริงแล้วนั้น อาชาสนใจปรีชญาจริงๆหรือเขาทำไปแค่เพียงเพราะเหตุผลทางธุรกิจกันแน่
แต่สุดท้ายกองทัพก็จำต้องพับเก็บความคิดพวกนั้นลงไปเพราะตลอดห้าปีที่ผ่านมา เจ้านายของเขาแทบจะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนแบบจริงจังเลย
บนห้อง
“อื้ม ปล่อยนะจะนอน” จู่ๆร่างเล็กก็เริ่มรู้สึกตัวหลังจากที่กายแกร่งกำลังพาเธอเดินเข้าไปในห้องนอน หนำซ้ำเธอยังดีดดิ้นไปมาพร้อมกับบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“อยู่เฉยๆ อยากลงไปนอนที่พื้นหรือไง” อาชาตอบกลับเสียงดุ เขาพาเธอเดินไปยังเตียงนอนกว้างอย่างทุลักทุเลมากขึ้น เพราะเมื่อปรีชญาได้ยินเสียงของเขาเธอกลับค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมามอง
“คะคุณ! ปะปล่อยฉันน้าา!“ พอเห็นว่าเป็นคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้าเธอก็ยิ่งโวยวาย ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะตัดสินใจปล่อยเธอลงพื้นตามคำขอนั้น โชคดีที่บริเวณด้านหน้าเป็นขอบเตียง หญิงสาวจึงไม่ไดเจ็บมาก แต่ถ้าวัดจากระดับความสูง ก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย
ตุบ!
”อ๊ะ! อะโอ้ย จุก“ เพราะเขาปล่อยเธอให้หล่นลงไปตามคำเรียกร้อง คนเมาจึงรู้สึกจุกขึ้นมาพร้อมกับอาการเวียนหัวโลกหมุนที่ยังคงมีอยู่
”นะนี่! ปล่อยฉันลงทำไม ฮะ! ไอ้คนบ้าเจ็บนะเว้ย“
”ก็เธอบอกให้ฉันปล่อย หึ“ ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับกอดอดยืนมองคนที่ค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าเวทนาอยู่ไม่น้อย เขาเห็นสภาพของคุณหนูตระกูลใหญ่แล้วอดที่จะหัวเราะในใจไม่ได้
ถ้าคุณอาได้มาเห็นลูกสาวของตัวเองในสภาพนี้ เขาอยากรู้จริงๆว่าท่านจะรับได้ไหม
พรึ่บ!
”หัวเราะอะไรฮะ! ไอ้! อะไอ้....”
มือเล็กคว้าเข้าไปบนคอเสื้อแกร่งก่อนจะพ่นคำต่อว่าออกมา แต่ในขณะนั้นเธอกลับรู้สึกเหมือนทุกอย่างไหลมาจุกที่คอทำให้พูดไม่ออก กว่าอาชาจะรู้ตัวว่าอีกคนนั้นกำลังจะทำอะไร ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“อย่านะ...”
“อุก อ้วกกก!”
“!!!!!”
ใบหน้าหล่อที่นิ่งเฉยอยู่ตลอดเวลา บัดนี้ฉายแววตกใจออกมาอย่างปิดไม่มิด เมื่อโดนว่าที่เจ้าสาวอ้วกใส่ชุดสูทราคาแพงของตัวเองจนเละเทะไปหมด
“ทำบ้าอะไรของเธอ!!” ปากหนาตวาดออกมาเสียงดัง ก่อนที่เสียงในสมองของเขาจะดังก้องกังวาลขึ้นมาว่า.....เขาไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิดที่พาอีกคนมาที่นี่ เพื่อหวังจะเอาคืนหญิงสาว เรื่องที่เธอกล้าบังอาจมาวางยาเขา
แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างหนุ่มลูกครึ่งเลยสักนิด เพราะนอกจากเธอจะเมาให้เขาแบกแล้วนั้น บัดนี้คนตรงหน้ายังอ้วกใส่เขาออกมาจนหมดกระเพาะอีกด้วย
"อึก อ๊า ปวดหัวชะมัด“
ฟุ่บ!
หลังจากปลดปล่อยทุกอย่างออกจากร่างไปหมดแล้ว ปรีชญาก็ไม่รอช้าที่จะฟุ่บตัวลงไปบนเตียงกว้างตามเดิมก่อนจะนอนหลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งไปอย่างง่ายดาย ผิดกับอีกคนที่เอาแต่ยืนทำสีหน้าซีดเผือดอยู่แบบนั้น พร้อมกับคาดโทษคนเมาเอาไว้ในใจ ภาพอ้วกของเธอลอยเด่นอยู่ด้านหน้าของเขา ทำเอาร่างสูงแทบไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปชั่วขณะ
“คิดถูกหรือคิดผิดวะ” ว่าจบ อาชาก็กลั้นใจสาวเท้าเดินหายไปในห้องน้ำโดยไม่สนใจว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงของตัวเองจะเป็นอย่างไร
หลายนาทีต่อมา....
“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะคุณอาชา“ เสียงแม่บ้านวัยสี่สิบที่มักจะคอยดูแลคอนโดแห่งนี้ให้มาเฟียหนุ่มอยู่เป็นประจำเอ่ยรายงายอีกคนออกมาอย่างนอบน้อม หลังจากทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น
นั่นก็คือการจัดการเปลี่ยนชุดแล้วก็เช็ดตัวให้ปรีชญา
“ขอบใจ นี่เงินค่าจ้างวันนี้ ไปพักเถอะ” อาชายื่นเงินปึกหนึ่งไปให้คนตรงหน้าเพื่อตอบแทนที่อุส่าห์ตื่นมาทำงานให้เขาในตอนกลางดึกแบบนี้
“ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างงั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อรับเงินเสร็จแม่บ้านวัยกลางคนก็เดินออกไปจากคอนโดสุดหรู อาชาจึงไม่รอช้าที่จะเดินกลับเข้าห้องไปสำรวจว่าที่เจ้าสาวของตัวเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ตึก
ตึก
“ดูดีขึ้นเยอะ”
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยตามที่ตัวเองต้องการ กายแกร่งก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปปิดไฟตามจุดต่างๆเพื่อเตรียมตัวเข้านอน
ร่างสูงเดินมาล้มตัวลงนอนข้างๆปรีชญาด้วยความตั้งใจให้เหตุการณ์ทุกอย่างนั้นเป็นไปในรูปแบบนี้ ทุกอย่างที่เขาทำ ผลลัพธ์มันจะเห็นชัดเจนก็ในตอนที่อีกคนตื่นขึ้นมา....
เพราะเขาจะหลอกเธอว่าเธอเมามากจนเผลอมีอะไรกับเขา นึกได้แบบนั้นอาชาก็ชักจะอดใจรอตอนเช้าไม่ไหว เขาอยากเห็นจริงๆว่าอีกคนจะทำหน้ายังไง เมื่อตื่นมาแล้วรู้ว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขา เธอเมาขนาดนี้เขามั่นใจว่าปรีชญาไม่มีทางที่จะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ
รุ่งเช้า
11.20 นาที
“อื้อ~”
เสียงร่างเล็กที่หลับไปเกือบสิบชั่วโมงค่อยๆบิดกายไปมาอยู่บนเตียงกว้างสีเทาเข้มก่อนที่เปลือกตาเฉี่ยวจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่ปรีชญามองเห็นนั่นก็คือเพดานห้องที่ไม่คุ้นตา ก่อนที่เธอจะค่อยๆได้สติสำรวจห้องนี้ไปรอบๆ พอรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง คุณหนูสาวจึงสะดุ้งลุกขึ้นนั่งพรวดพราดอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจ!
พรึ่บ!
“อ๊ะ!” แต่ลุกขึ้นนั่งได้เพียงชั่ววินาที อาการแฮงค์จากเหล้าเมื่อคืนก็โถมใส่สมองของเธอทำเธอจี๊ดไปหมดทั้งแถบ
“ตื่นแล้วเหรอ”
ควับ!
แม้จะปวดหัวแค่ไหน แต่พอได้ยินเสียงทุ้มอันแสนคุ้นหูนั่น ปรีชญาก็หันไปมองคนที่เดินเข้ามาใหม่อย่างว่องไว ก่อนที่เธอจะเบิกตากว้างออกมาด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อได้เห็นหน้าของอาชา
“คุณ! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?”
“ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ในเมื่อนี่มันคอนโดฉัน” อาชาตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบเช่นเคย เขายืนจ้องเธอนิ่งพร้อมกับแอบยิ้มในใจที่ได้เห็นอีกคนมีท่าทางตกใจแบบนี้ มันมากเกินกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้ด้วยซ้ำเพราะผู้หญิงอย่างปรีชญา มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าคงไม่แปลก หากเธอจะตื่นมาในห้องผู้ชาย
ก็เธอดูเฟียสซะขนาดนั้น....ไม่แปลกที่เขาตะมองเธอเป็นคุณหนูกร้านโลก
“อะไรนะ!? แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!” เธอถามออกมาเสียงแหลม ก่อนจะก้มลงไปมองชุดแปลกๆที่ตัวเองสวมใส่อยู่ก่อนจะพบว่ามันเป็นเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใคร
