01 | ข้อตกลง
สหรัฐอเมริกา ณ ลาสเวกัส
“โอ๊ย!!! นี่มันวันซวยอะไรของฉัน”เท้าเล็กกระทืบลงบนพื้นกรีดกราดอย่างหัวเสียเมื่อชิปที่เลือกมาหมดหน้าโต๊ะ จำนวนดอลลาร์ไม่น้อยเลยที่เธอหามาเพื่อทุ่มให้กับไพ่บาคาร่าแต่ดวงชะตาไม่พาเจ้าหล่อนอำนวยเลยหมดตัว
“แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ย”ฝ่ามือเหี่ยวย่นตามกาลเวลากุมศีรษะของตนเองเอาไว้เพื่อระบายความเครียด จึงฉุกคิดอะไรดีๆ ได้ ไม่รอช้าที่เธอจะตรงไปยังการ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าลิฟต์เพื่อขอขึ้นไปยังชั้นบริหารบนสุดของคาสิโน
“ขอพบคุณคริปโตส”ใบหน้าหล่อคมคิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันปากหยักสวยได้รูป แก้มตอบเข้าหากัน ดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทยี่ห้อดัง นั่งลงบนเก้าอี้หลุยส์มองผู้สนทนาอย่างไม่ละสายตา
“คุณตกลงจะทำสัญญาขอกู้เงินผมในจำนวนนี้จริงๆ ใช่ไหม”คริปโตสพูดขึ้น เมื่อคุณหญิงมุกดาบอกจำนวนเงินกับเขา เพราะในการทำสัญญาครั้งนี้ ข้อเสนอของคุณหญิงมุกดาดูน่าสนใจเป็นพิเศษ
“คุณก็รู้ว่าคุณพิพัฒน์กำลังจะล้มละลาย ฉันเลยอยากได้เงินไปลงทุนในคาสิโนของคุณ และลูกเลี้ยงของฉันมันสวย ฉันเลยจะเอามาเป็นข้อเสนอในการยืมเงินคุณในครั้งนี้”
มุกดายื่นรูปนังลูกเลี้ยงกาฝากของเธอในโทรศัพท์เครื่องหรู แต่ก็อปเกรดเอให้ดูชายหนุ่มดู เขามองดูรูปในมือถือ ในใจเขาก็บอกว่า
‘ลูกเลี้ยงคุณหญิง หึ! ดูใสซื่อไร้เดียงสาชะมัด’ใบหน้าที่เรียวงาม ปากนิด จมูกหน่อย ผมหยักศกไม่หยิกมาก ทำให้เธอดูสวยอ่อนหวานน่าทะนุถนอม คิดถึงตรงนี้แก่นกายชายเริ่มพองโตจนแทบทะลุกางเกงยี่ห้อดีออกมาอวดสายตาของคุณหญิงมุกดา หัวใจแกร่งสั่นไหวกระส่ำเมื่อความปรารถนาในกายเริ่มก่อตัวขึ้น
“เธอมีอะไรดี ทำไมผมต้องยอมเสียเงินเป็นร้อยๆ ล้านเพราะผู้หญิงคนนี้”ชายหนุ่มถาม รอยยิ้มที่มุมปากช่างน่าเกรงขามเป็นที่สุด
“ลูกเลี้ยงฉันมันโง่ ซื่อบื้อ คุณสั่งอะไรมันก็ทำ แม้กระทั่งบำเรอกามของคุณ”คุณหญิงยังคงพูดอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงไปสักนิดให้ชายหนุ่มฟัง ใครๆ ต่างขนานนามเขาว่าเป็นซาตานร้ายแห่งลาสเวกัส เรื่องฆ่ากับผู้หญิงเป็นอันดับหนึ่ง
“ตกลง อีกสองวันผมจะให้คนไปรับลูกเลี้ยงของคุณ ตอนนี้เชิญคุณเอาเงินไปถลุงบ่อนผมเถอะ ขอให้โชคดี”ฝ่ามือหนาผายเชิญให้อีกฝ่ายออกไปถลุงเงินในบ่อนของเขาตามสบาย
คุณมุกดาเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม สุดท้ายวันนี้เธอก็ได้เงินร้อยล้านมา เพราะการที่มุกดายื่นข้อเสนอที่ทำให้คริปโตสพอใจ หลังจากรวบรวมความกล้าอยู่นานพอสมควรที่จะย่างกายเข้ามาพบซาตานร้ายที่ไม่มีแม้กระทั่งหัวใจฆ่าได้โดยที่กฎหมายทำอะไรเขาไม่ได้
“เธอโชคร้ายที่ได้คุณนายหน้าเลือดมาเป็นแม่เลี้ยง”ใบหน้าหล่อคมคายระบายยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ มือแกร่งลูบริมฝีปากหนาได้รูปของตนอย่างสบอารมณ์ ใช่ว่าเขาขาดแคลนหรืออดอยากผู้หญิงมาจากไหนแต่เพียงแค่มองเจ้าหล่อนผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กนั้นทำให้ไม่อาจละสายตาสีน้ำทะเลจากดวงหน้างามได้
“อีกไม่นานเราก็จะได้เจอเธอแล้วนะสาวน้อย”
บ้านหลังขนาดกลางมีสาวน้อยร่างบาง อายุ 21 ปี กำลังยุ่งกับงานบ้านที่แสนจะมากมาย เพราะแม่บ้านต่างพากันลาออกไปหมด ‘ณัฐริกา มาณีกุล’ จึงต้องมารับหน้าที่นี้แทนแม่บ้านที่พากันมาลาออก เหตุผลที่ว่าพ่อเธอล้มลาย แถมแม่เลี้ยงของเธออย่าง ‘คุณหญิงมุกดา มาณีกุล’ ก็ติดการพนันจนทำให้พ่อเธอเป็นหนี้ แต่เธอไม่รู้ว่าหนี้ก้อนนั้นมากมายขนาดไหน หญิงสาวเป็นคนไม่ถือตัวอะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วย เพราะมารดาของเธอบอกก่อนเสียว่า
‘เชื่อฟังพ่อเขานะลูก อย่าดื้อกับพ่อล่ะ’
เธอก็ทำตามคำที่แม่บอกเสมอมา พอคุณแม่เสีย คุณพ่อได้แต่งงานใหม่กับคุณน้ามุกดา หญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังยินดีกับบิดาด้วย เพราะจะได้มีคนมาดูแลยามแก่เฒ่าและคิดมาตลอดว่าที่น้ามุกดาชอบเดินทางไปอเมริกานั้น เป็นเพราะน้ามุกดามีธุระ แต่เธอเพิ่งมารู้ทีหลังว่าผู้ที่มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของเธอนั้นติดพนัน พอพ่อเธอไม่มีเงินจะใช้หนี้ก็ไปหาที่อยู่ใหม่
“ทานผลไม้หน่อยไหมคะคุณพ่อ แถมคุณพ่อยังไม่ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะคะ” สาวน้อยบอกอย่างเป็นห่วง เพราะบิดาไม่ยอมทานอะไรเลย ตั้งแต่น้ามุกดาออกไปข้างนอก ซึ่งตอนนี้แม่เลี้ยงของเธอก็ยังไม่กลับมา
“ไม่เป็นไรหรอกลูก พ่อไม่หิว”ผู้เป็นพ่อตอบด้วยรอยยิ้มส่งให้ลูกสาวคนเดียวของเขาสบายใจ แววตาของบุตรสาวเขาคนนี้มักแสดงออกถึงอารมณ์และจิตใจเสมอ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนไม่เคยบ่นให้เขาได้ยิน
“กินสักชิ้นเถอะนะคะ”ณัฐริกายังคงรบเร้าเพื่อให้คนเป็นบิดายอมทานผลไม้ที่เธอจัดใส่จานอย่างสวยงาม ทำให้คุณพิพัฒน์ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะไม่อยากให้ลูกเป็นห่วง
“แล้วน้ามุกดาไปไหนคะคุณพ่อ เห็นออกไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนยังไม่กลับอีกเหรอคะ” ณัฐริกาถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ!!! คุณน้าไปเยี่ยมญาติที่เชียงใหม่นะลูก วันสองวันเดี๋ยวก็กลับ” ทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ไปเยี่ยมญาติ แต่ต้องโกหกเพื่อความสบายใจของลูก ร่างสูงวัยรู้แล้วว่าคุณมุกดาจองตั๋วเครื่องบินไปลาสเวกัสเมื่อสองอาทิตย์ก่อน และจะไม่กลับมาจนกว่าจะครบสิบห้าวันและนี่ก็จะครบกำหนดกลับแล้ว
“ค่ะ ถ้างั้นณัฐไปทำงานนะคะ” เธอบอกพร้อมกับยกมือไหว้
“แล้วจะรีบกลับมานะคะ”
“พ่อไม่น่าทำให้หนูลำบากเลย พ่อขอโทษนะลูก พ่ออยากให้เราหมดหนี้ก้อนนี้จริงๆ พ่อจะเลิกกับมุกดา ไม่มีใครรักพ่อเท่ากับแม่ของลูกแล้วจริงๆ” น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาจากดวงตาที่เริ่มพร่ามัวตามกาลเวลา ขณะมองลูกสาวเดินออกพ้นประตูบ้านไป ทำให้หญิงสาวไม่รู้ว่าผู้เป็นพ่อนั้นกำลังเสียใจในความผิดพลาดของตัวเองที่พามุกดาเข้ามาในชีวิต
ชายสูงวัยอยากพาลูกของเขากลับไปอยู่กับป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยาคนแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะเธอคงสบายเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องทำงานหนักแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ณัฐริกาเรียนจบจากที่นั่นเพราะหลังจากที่แม่ของสาวน้อยเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจเจ้าหล่อนจึงกลับมาอยู่ที่เมืองไทยและดูแลผู้เป็นพ่ออย่างดีแรกๆ ที่กลับมาเธอไม่ต้องทำงานให้เหน็ดเหนื่อยเพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ตและโรงแรงที่อยู่กลางใจเมืองกรุงเทพมหานครของเขาทำให้มีเงินไหลเวียนไม่น้อย แต่ณัฐริกาไม่เคยถือตัวงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ที่ร่างบางพอหยิบจับได้เธอก็ทำจนพักหลังเงินทองที่มีมากมายทลายหายหมดเพราะมุกดาเป็นหนี้
15 วันต่อมา
มุกดากลับมาบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากที่เสียพนันเกือบร้อยล้าน ทั้งที่ได้เงินห้าสิบล้านกลับไม่ยอมปลีกตัวออกมา ทำให้เธอกลับมาพร้อมกับเม็ดเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถกลับมาเมืองไทยได้และอยู่รอดในอีกหลายวันเลยทีเดียว
“คุณพิพัฒน์เห็นนังณัฐริกาไหม”ถามเสียงสูงมือที่เริ่มหย่อนคล้อยตามกาลเวลาเรื่องอายุปล่อยมือจากกระเป๋าลากใบใหญ่
“อย่ามาเรียกลูกผมว่านังนะ!! ผมไม่ชอบ!!”พิพัฒน์มองดูภรรยาด้วยสายตาเฉยชา ดูจากสภาพแล้วดูก็รู้ว่าเสียกลับมาอย่างแน่นอน เสียงเข้มจึงตอบออกไปอย่างไม่พอใจ ถึงจะแต่งงานใหม่ แต่ความรักที่มีต่อณัฐริกาไม่เคยลดน้อยลงตามกาลเวลาเลย กลับห่วงหามากขึ้นทุกวันที่ลูกต้องออกไปทำงานกลับบ้านมืดๆ ค่ำๆ อย่างนี้
“สรุปแล้วนัง เอ๊ย ลูกณัฐริกาไปไหน”
“คุณมีอะไรหรือเปล่ามุกดา พูดมาเลยดีกว่า คงมีเรื่องสำคัญสินะถึงเรียกหาลูกสาวผม” เสียงเข้มถามด้วยความสงสัยร้อยวันพันปีไม่เคยถามถึง พอมาวันนี้เอาแต่เรียกหา
“ใช่!! ฉันมี!!! คือว่าลาสเวกัสที่ฉันไปเที่ยวมา เขาเปิดรับสมัครงานเป็นเลขาส่วนตัวที่บ่อน ฉันเห็นว่าเงินเดือนสูงแล้วก็สบายกว่าอยู่เมืองไทย นี่ฉันหวังดีนะ”มุกดาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เพื่อให้คุณพิพัฒน์เชื่อถือ
“อืม...รอถามณัฐเอาเองแล้วกัน จะให้ไปวันไหน ไปยังไง เอกสารก็ไม่ได้เตรียม”พิพัฒน์มองหน้ามุกดาเพื่อจับผิดสังเกตด้วยความสงสัยใคร่รู้
“เดี๋ยวเขาส่งคนมารับ แต่ไม่รู้วันไหน”ตอบแบบไม่สนใจทั้งที่รู้ว่าวันนี้คริปโตสจะส่งคนมารับณัฐริกา แต่เธอไม่รู้ว่าจะบอกนางลูกเลี้ยงยังไงดี ให้คริปโตสจัดการเอาเองล่ะกัน เรื่องนี้มุกดาไม่รู้ไม่ชี้
“คุณณัฐริกา มาณีกุล ใช่ไหมครับ”ชายฉร่างสูงใส่สูทสีดำเดินมาดักหน้าเธอไว้ ในขณะที่หญิงสาวกำลังรอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าบริษัทแห่งหนึ่งที่เธอจะทำได้สองเดือนกว่าๆ ในตำแหน่งเลขานุการที่คนเก่าเพิ่งย้ายออกไป
“ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”เธอตอบด้วยความสงสัย เพราะหญิงสาวร่างบางไม่รู้จักกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนี้ แล้วคนที่ถามเธอเหมือนจะเป็นหัวหน้าการ์ด
“คือว่าเจ้านายของผมให้มารับคุณไปลาสเวกัส” หัวหน้าการ์ดคนดังกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ห๊ะ!!! ลาสเวกัส ไปทำไม แล้วเจ้านายพวกคุณจะเอาตัวฉันไปทำอะไร ฉันไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ”เธอถามเสียงสั่น รู้ว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอแล้ว จึงถอยหลังเตรียมจะวิ่ง แต่ไม่ทันเพราะมีการ์ดมาดักหลังเอาไว้ก่อน
“อย่าให้พวกผมต้องใช้กำลังเลยนะครับ เจ้านายผมสั่งไว้ว่าอย่าให้คุณมีรอยขีดข่วน”การ์ดดึงเธอขึ้นรถคันหรู ซึ่งจอดรออยู่ก่อนแล้ว
“นี่ปล่อยฉันนะ พวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!!!"เธอตะคอกใส่หัวหน้าการ์ด
"ผมขอโทษนะครับ"พูดพร้อมกับนำผ้าเช็ดหน้าที่โปะยาสลบขนาดแรงไว้ เพราะต้องเดินทางหลายชั่วโมง ถ้าใช้วิธีแบบปกติกลัวว่าเธอจะตื่นมาอาละวาดใส่พวกเขาเสียก่อน ก่อนจะอดใจไม่ไหวทำร้ายผู้หญิงของเจ้านายให้มีรอยบอบช้ำเป็นแน่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาได้ไปเยี่ยมยมบาลก่อนอายุไขแน่..
