15 | กลับบ้านเรา
“อืม!! คริสขา~ ไวท์ไม่ไหวแล้ว”
“อ่า...พร้อมกันนะ”ฝ่ามือหนาจับเอวคอดไว้แน่นเพื่ออัดแน่นเพลิงรักในโค้งสุดท้ายเมื่อความปรารถนาของเขาและเธอตรงกัน เสียงครางดังประสานกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร
ทว่าเมื่อเพลงรักถูกบรรเลงจนชายหนุ่มปลดปล่อยเชื้อขาวขุ่นเข้าสู่กายสาวทุกหยาดหยด ร่างหนาล้มซวนซบกับแผ่นหลังบางของเจ้าหล่อนปากก็พรหมซับหยาดเหนื่อยไคลอย่างไม่นึกรังเกียจ
ดวงจันทร์ทอแสงในค่ำคืนอากาศหนาวเหน็บ ไวโอเล็ตตื่นขึ้นมาในความมืดสลัวเบี่ยงสายตาเมียงมองคนที่นอนกกกอดเธอไว้แน่น ลมหายใจอุ่นรินรดต้นคอขาวผ่องร่างบางขยับกายเพียงเล็กน้อยทว่าวงแขนแกร่งกลับโอบเอวคอดไว้แน่นราวกับว่ากลัวเจ้าหล่อนจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น
“อืม!!”เสียงครางลึกในลำคอหนาอย่างขัดใจเขาเหนื่อยอ่อนเหลือเกินจากบทรักแสนพิศวาสที่เขาและเธอต้อทบทวนด้วยกันยาวนานหลายชั่วโมง ในขณะร่วมรักกันอยู่นั้นไวโอเล็ตสลบไปโดยไม่รู้ตัวแต่กระนั้นคริสตัลก็ยังคงปลุกหญิงสาวขึ้นมาระเริงเพลิงอเวจีด้วยลีลาร้อนจนมอดไหม้
มีหลายความหมายในหัวใจหญิงสาวในตอนนี้ นึกอยากจะโกรธเขาที่เคยทำร้ายเธอทั้งร่างกายและจิตใจ คริสตัลคือผู้ชายคนแรกที่เธอรักภักดี ทว่าหลังจากได้รู้จักเขาจริงๆ แล้วตัวของชายหนุ่มไม่ต่างจากซาตานในร่างของมนุษย์แม้แต่น้อย ก่อนที่ศาลจะตัดสินให้เขาได้รับโทษถึง 5 ปี เพียงไม่นานเธอก็กลายเป็นผู้หญิงไร้ค่าสำหรับเขาทั้งที่อยากจะยืนเคียงข้างไม่ว่าจะวันที่เลวร้ายสำหรับเขามากเพียงใดก็ตามแต่
ฝ่ามือบอบบางสัมผัสลงบนแก้มสากโดยที่คริสตัลไม่รู้ตัว รอยยิ้มบางถูกส่งผ่านให้เขาในความมืดก่อนจะขยับกายซุกนอนแนบอิงกับแผงอกที่แสนอุ่นจนเผลอหลับในอ้อมกอดของซาตานร้ายอีกครั้ง
เช้าวันต่อมา
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้คริสตัลที่นอนหลับพริ้มถอนหายใจด้วยความรำคาญ หรี่ตาคมแขกขึ้นทีละข้างเพื่อปรับโฟกัสกับแสงสว่างหันมองหญิงสาวที่กำลังหลับลึกหายใจสม่ำเสมอบนท่อนแขนแกร่งของตน
“ขี้เซาเหมือนเดิมเลยนะ”ว่าพลางบีบจมูกรั้นเล็กยกศีรษะเจ้าหล่อนขึ้นเล็กน้อยและยกล่ำแขนขึ้น ตวัดขาก้าวลงจากเตียงโดยหยิบผ้าขนหนูปกปิดท่อนล่างเปล่าเปลือยของตนเอาไว้
แอด~
“มอนิ่งลูกรัก”เสียงหวานใสของผู้เป็นแม่ดังขึ้นจากที่ชักสีหน้าไม่พอใจกลับต้องเบิกยิ้มรับมารดาของตน ก่อนที่ท่านจะจุ๊บแก้มสากของเขาราวกับว่าคริสตัลนั้นยังเป็นเด็กอยู่
“มัมคริสโตแล้วนะ”เขาเอ่ยแซวบุพารีของตนก่อนจะหอมแก้มเนียนนุ่มของมาดามณัฐริกาคืน ถึงแม้อายุอานามจะย่างเข้าเลขสี่ทว่าความสวยของท่านไม่ค่อยลดน้อยลงแม้แต่น้อย
“หืม! ยุ่งกัดเหรอลูกคอแดงเชียว”ณัฐริกาแสร้งทำตาลุกวาวเมื่อสายตาดันไปสะดุดกับรอยแดงจ้ำตรงซอกคอขาวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน มิหนำซ้ำตามแผงอกกำยำยังเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนยาว
เธอเองก็ทราบจากแม่บ้านเมื่อวานตอนหัวค่ำหลังจากกลับจากการประชุมกับสามีตนว่าคริสตัลพาผู้หญิงเข้าบ้าน และเมื่อวานทั้งวันหลังจากออกจากเรือนจำจนถึงคฤหาสน์พ่อเจ้าประคุณก็หายหน้าหายตาทั้งวันทั้งคืน เธอจึงอยากจะเห็นหน้าสาวสวยคนนั้นที่ทำให้คริสตัลไม่โผล่หัวไปให้ตะวันส่องหัวเลยสักนิด
“...”
“ไม่ทำหน้าแบบนี้นะมัมล้อเล่น มัมจะตามไปกินข้าว”ณัฐริกาว่าพลางอมยิ้มเล็กน้อย ไม่น่าเชื่อทายาทมาเฟียจะทำหน้าตกอกตกใจเหมือนกับเด็กที่ทำผิดและกลัวผู้ใหญ่จับได้อย่างไรอย่างนั้น
“มัมไม่น่าลำบากเดินมาเลย”เขานั้นเป็นห่วงท่านนักเนื่องจากว่าผู้เป็นแม่ต้องเดินขึ้นมาอีกชั้นของคฤหาสน์หลังใหญ่ เนื่องจากอาณาเขตที่กว้างขว้างและก่อนหน้านี้ที่เขากุมอำนาจด้านมืดแทนผู้เป็นพ่อจึงปลีกตัวจากท่านทั้งสอง และพื้นที่ส่วนตัวทั้งหมดคือชั้น4 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของคฤหาสน์จอร์นนี่แบร์
“หืม...คิดว่ามัมแก่หรือไงกัน”เธอว่าด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ถึงคริสตัลจะไม่ได้คิดแบบนั้นก็ตามแต่ ทว่าเธอเองยังอยากดูแลลูกแฝดทั้งคู่ให้ดีเหมือนที่เคยทำหน้าที่นั้นมาตลอด ไม่คิดว่ามันคือความลำบากเพราะขึ้นชื่อว่าแม่ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้นที่จะทำเพื่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตน
“ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแด๊ดถึงมัมขนาดนี้ นี่ผมยังรู้สึกผิดที่มัมคิดว่าตัวเองเลย
“...”
“ขอโทษนะครับ”คริสตัลบอกมารดาด้วยความรู้สึกผิดหากคริปโตสผู้เป็นพ่อของเขาชีวิตคงจะไม่ได้เดินไปด้วยกลีบกุหลาบเป็นแน่ เพียงแค่ครั้งนั้นที่ภรรยาสุดที่รักของท่านร้องไห้ปานจะขาดใจเพราะเขาถูกจับกุมด้วยสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ท่านก็ไม่คิดจะใช้อำนาจช่วยเขาให้เป็นอิสระ
“พอเลยไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย อีก 15 นาทีต้องลงไปถึงโต๊ะอาหาร ถ้าไม่อย่างนั้นมัมจะโกรธคริสจริงๆ ด้วย”เธอส่ายหน้าไปมาสำหรับความคิดของตัวเอง อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วแต่ทำไมถึงเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจจากคนอื่นนัก ทั้งที่คริปโตสสามีของเธอก็มีให้มากล้นแล้ว
หลังจากี่ผู้เป็นแม่จากไปคริสตัลก็ปิดประตูลงสายตาคมจ้องมองคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่มองเขาด้วยสายตาราบเรียบยากเกินที่ชายหนุ่มจะคาดเดา แต่ทว่าเขากลับไม่สนใจว่าเจ้าหล่อนจะสาปแช่งด่าทออะไรในใจเขาหรือเปล่า ทำได้เพียงเดินเข้าไปใกล้เธอกดปากหยักพรหมจูบทั่วดวงหน้ากระเง้ากระงอด
“ปล่อยฉันกลับบ้านได้หรือยัง”อันที่จริงไวโอเล็ตไม่ควรถามคำถา���นี้เลยด้วยซ้ำเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเธอเอง แต่หากว่าทำอย่างนั้นมิวายคนใจร้ายคงจะไม่ยอมปล่อยเธอกลับง่ายๆ อย่างแน่นอน ก็ดูจากบทรักที่เขากระทำกับร่างกายบอบบางของเธอสิราวกับสัตว์ป่าหิวโซที่ขาดอาหารมาแรมปีก็ไม่ปาน
“ฉันจะให้เธอกลับบ้าน”
“...”
“กลับบ้านเรากันนะไวท์”บะ...บ้านของเรา? คืออะไรกันทำไมได้พบคริสตัลครั้งนี้มีใครใส่กรอกยาเปลี่ยนนิสัยให้เขากินหรือเปล่า ใยเล่าถึงได้เปลี่ยนไปทั้งคำพูดคำจา กิริยา ร่วมอีกทั้งแววตาที่แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก
“บ้านบ้าบออะไรของนาย”ด้วยความสงสัยจึงเอ่ยปากถามเพื่อให้แจ่มแจ้งกระจ่างชัด ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำตอบจากเขาที่ทำให้เธออยากจะวิ่งหนีออกไปให้ไกลจากตรงนี้นัก
“ที่ที่เราเคยอยู่ด้วยกันไง!”ไวโอเล็ตสลัดคำพูดของคริสตัลออกจากหัวเพราะหากเธอหวั่นไหวกับคำลวงของซาตานร้ายก็มิวายกลับไปนั่งเสียใจและเสียน้ำตา หญิงสาวเรียนรู้คำว่าตายทั้งเป็นเพราะเขา แต่ก็อยากจะขอบคุณความเจ็บปวดที่ให้กำเนิดไวโอเล็ตคนใหม่
