ใจง่าย
4 ปีที่แล้ว....
หนูหลิน Talk
สวัสดี ฉันชื่อหนูหลิน ตอนนี้ฉันอายุสิบแปดปีแต่ก็ใกล้ที่จะสิบเก้าปีแล้วล่ะ วันนี้เป็นวันดีเป็นวันที่ฉันสอบติดมหาลัยชื่อดังของจีนและฉันก็ตั้งใจว่าจะกลับไปเรียนที่ประเทศจีนซึ่งเป็นเมืองเกิดของพ่อฉัน คือพ่อฉันเป็นคนจีนค่ะ แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันอยากไปเรียนที่นั่นคือฉันตั้งใจจริงๆนะคะ เหตุผลก็คือฉันอยากไปเพราะคนที่ฉันรักเขาจะไปสร้างอนาคตที่นั่น
ตอนนี้ฉันแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งค่ะ เขาชื่อ มาเฟีย ฉันเรียกสั้นๆว่าพี่เฟีย ปีนี้เขาอายุยี่สิบหกปีแล้วล่ะ ถึงจะอายุต่างกับฉันมากแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคเลย เพราะฉันรักในความเก่งกาจ ความฉลาดหลักแหลม ความสามารถรอบด้านของพี่เขา แต่ถ้าจะให้ฉันเล่าทั้งหมด สองอาทิตย์ก็คงไม่จบอยู่ดี
ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ที่งานเลี้ยงฉลองเรียนจบปริญญาเอกของพี่เฟีย งานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของกระกูลพี่เขานั่นแหละ ภายในงานเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมายล้วนแต่เป็นเพื่อนสนิทของเขาทั้งนั้น ยกเว้นฉันที่แอบป้าแม่บ้านมาแสดงความยินดีกับพี่เฟียแบบลับๆ ถึงจะไม่ได้ถูกเชิญแต่ฉันก็ตั้งใจที่จะมานะ วันนี้ฉันสวมชุดเดรสกระโปรงสั้นประมาณเข่าสีฟ้าอ่อน ผมที่ยาวสลวยก็ถูกมัดม้วนขึ้นราวกับเจ้าหญิง พอดีฉันไปสืบมาว่าพี่เขาชอบแบบนี้อะนะ
จากนั้นฉันก็เดินมุ่งตรงไปที่จุดตรงพี่เฟียกำลังคุยกับเพื่อสนิทของเขาอยู่ คนนั้นก็คือพี่ ไคโร เป็นคู่หูคู่ซี้กันมาตั้งแต่มอต้นและพี่เขาก็รู้ด้วยนะว่าฉันตามจีบพี่เฟียมาตั้งแต่อายุสิบสี่ แต่ก็แปลกนะคนอะไรตามจีบมาเกือบห้าปีแล้วไม่คิดจะใจอ่อนบ้างเลย
"พี่เฟียคะ นี่ของขวัญจากหลินค่ะ" ฉันยื่นกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีฟ้าอ่อนให้กับเขาด้วยความตั้งใจ และทันทีที่พี่เฟียเห็นหน้าฉันจากใบหน้าที่มีความสุขจำต้องสลดลงเป็นโกรธเคืองทันที
"ง้อวววว" พี่ไคโรแซวฉันยกใหญ่เพื่อเรียกความเขินให้กับฉันเป็นอย่างดี หรือบางทีพี่เขาอาจจะกำลังช่วยฉันไม่ให้เสียใจที่คนตรงหน้าทำหน้าไม่รับแขกใส่
"อืม ขอบใจนะ" จากนั้นพี่เฟียก็รีบรับของขวัญจากมือฉันไป ฉันนี่แทบจะเป็นลมลงไปกองกับพื้นด้วยความดีใจเลยล่ะเพราะนี่มันเป็นครั้งแรกที่พี่เฟียรับของขวัญจากฉัน
"เฮ้ย ยิ้มหน่อยดิวะ น้องเขาอุตส่าห์ซื้อของขวัญให้เลยนะเว้ย"
"ไม่ได้ขอ แล้วก็ไม่ได้เชิญด้วย"
"ไอ้เฟีย มึงพูดแบบนี้น้องหนูหลินเสียใจนะเว้ย"
"ไม่เป็นหรอกค่ะ หลินชินแล้ว" ฉันหันหน้าไปเอ่ยกับพี่ไคโรพร้อมกับยิ้มออกมาแห้งๆ เพราะฉันไม่อยากให้พี่ไคโรมองพี่เฟียไม่ดี ต่อให้เขาต่อว่าฉันยังไงฉันก็โกรธเขาไม่ลงหรอกเพราะว่าฉันรักเขา แคร์เขา สามารถทำให้เขาได้ทุกอย่างไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร
"หึ เธอนี่ความอดทนสูงเนอะ ขนาดฉันไล่ตะเพิดไปตั้งหลายครั้งยังไม่ไปติดพันธุ์ผู้ชายคนอื่นอีก" ฉันรีบหุบยิ้มรีบตีสีหน้าผิดหวังจากเขาทันทีเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ด่าว่าฉันตลอด แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงแรงจนจุกตรงกลางใจแบบนี้นะ
"ไอ้เฟียมึงพูดเกินไปแล้วนะ น้องเขายังเด็กนะเว้ย"
"ถ้ามึงสงสารนัก ก็เอาเลยสิดูท่าทางน่าจะง่ายอยู่นะ หึ" พี่เฟียชักสีหน้ารังเกียจฉันอีกทั้งยังมองแบบเหยียดราวกับว่าฉันเป็นสิ่งที่น่ารังเกลียดเป็นตัวประหลาดอย่างนั้นแกละ
"พี่เฟีย ทำไมต้องดูถูกหลินขนาดนี้คะ เกลียดหลินมากขนาดนั้นเลยหรอ" ฉันยอมรับนะว่าตอนนี้ฉันรู้สึกโกรธเขาอยู่ไม่น้อย ทั้งๆที่ผ่านมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
"เออ!"
"แต่หลินรักพี่ค่ะ และหลินก็จะตามจีบพี่ไปแบบนี้แหละ จนกว่าพี่จะเปิดใจ"
"โอ๊ย! ทำไมเธอหน้าด้านแบบนี้วะกลับไปเลยนะฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ!"
"ไม่ค่ะ เดี๋ยวหลินจะไปนั่งตรงนั้นนะคะสัญญาว่าจะไม่กวนพี่กับเพื่อนๆ" จากนั้นฉันก็รีบสาวเท้ายาวๆเดินหนีออกมาจากตรงนั้นมุ่งหน้าไปยังโต๊ะจีนที่ไกลที่สุดและไร้ผู้คนเพราะขืนยืนนานกว่านี้มีหวังบ่อน้ำตาแตกแน่ๆ
"ก็น้องเขารักมึงไง จะให้ทำไงได้วะ การที่น้องเขาอดทนมาขนาดนี้ก็คงต้องการความรักจากมึงสักครั้งนั่นแหละ มึงก็พูดดีๆกับน้องสักครั้งบ้าง สงสารน้องเขา"
"กูพยายามทำให้ยัยนั่นเกลียดกูตลอดเวลา ทั้งด่า ทั้งดูถูกเหยียดหยามสารพัด แต่แม่งก็ยังทนอยู่กูล่ะงง"
"เฮ้อ...เกิดเป็นมึงนี่เหนื่อยเหมือนกันนะ"
หลังจากที่ฉันเดินออกมานั้นฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาจะพูดอะไรใส่ฉันบ้าง ตอนนี้ฉันขอแค่เสพความสุขจากการเห็นคนที่ฉันแอบชอบหัวเราะมีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ถึงแม้ว่าความสุขตรงนั้นมันไม่ได้เกิดจากฉันก็ตาม แต่ก็เอาเถอะ แค่เห็นเขายิ้มได้แค่นี้ คนแอบรักอย่างเราก็ดีใจที่สุดแล้ว พอเวลานานเข้าไปนับหลายชั่วโมงฉันที่กำลังนั่งดูเขาอยู่ จู่ๆภาพที่เคยชัดก็ตัดไปอย่างไร้ความรู้สึกและก็เข้าสู่ห้วงนิทราไป.....
2 ชั่วโมงผ่านไป....
"อื้อ~ พี่เฟีย!" ฉันเผลอครางแผ่วเบาออกมาเมื่อรู้สึกตัวขึ้นได้ว่าพี่เฟียกำลังซุกไซร้ซอกคอของฉันอย่างเมามัน จากนั้นฉันก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นทีละนิดก่อนที่จะค่อยๆกวาดสายตามองไปรอบๆห้องแล้วพบว่ามันคือห้องนอนของเขานั่นเอง
"พี่อุ้มหลินมาห้องพี่หรอคะ ต..ตั้งแต่เมื่อไหร่ ล..แล้วพี่จะทำอะไร!"
"ก็จะทำให้เธอสมหวังไง อยากเป็นเมียฉันมากไม่ใช่หรอ"
"พี่เฟียจะลักหลับหลินหรอคะ"
"ทำไม ไม่ชอบหรือไงเธอรักฉันอยากได้ฉันจนตัวสั่นไม่ใช่หรอ นี่ไงฉันก็จะสนองให้อยู่นี่ไง" ในขณะที่เขาพูดกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งออกมาจากปากมันทำให้รู้ได้ในทันทีเลยว่าตอนนี้เขาเมา และเมามากๆ เพราะถ้ามีสติจริงจ้างให้เขาก็ไม่คิดที่แตะต้องตัวฉัน ฉันพยายามใช้สองมือดันคนร่างสูงออกจากตัว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างกายเขาจะขยับเลยแม้แต่น้อย
"พี่เฟียเมามากแล้วนะคะ ลุกออกจากตัวหลินค่ะหลินจะกลับบ้าน"
"หึ เธอไม่อยากเป็นเมียฉันแล้วหรอหรือไม่รักฉันเหมือนเดิมแล้ว ถึงปฏิเสธสิ่งที่ฉันต้องการ"
"หลินยังรักพี่เหมือนเดิมค่ะ แต่ว่าหลินไม่เคย...."
"แล้วถ้าฉันต้องการตอนนี้ล่ะเธอจะยอมให้ฉันไหม"
"อึก..." ฉันกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้ในหัวของฉันมันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงแต่อีกใจหนึ่งมันก็คิดไปไกลว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่ฉันจะสามารถทำให้พี่เฟียรักฉัน อีกอย่างมันก็เป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันไม่ใช่หรอหนูหลิน การที่ได้จูบและได้มอบตัวและหัวใจให้เขามันคือการมอบความรักที่เธออยากจะทำมาตลอดไม่ใช่หรอ
"ถ้าพี่ต้องการ....หลินก็ให้พี่เฟียได้"
"ไม่อยากจะเชื่อ ว่าเธอจะเป็นคนใจง่ายได้ขนาดนี้หนูหลิน!"
"ถึงจะง่ายก็ง่ายกับคนที่หลินรักเท่านั้น นั่นก็คือพี่ และหลินก็จะรักพี่ตลอดไป จะติดบ่วงรักพี่แบบนี้จนกว่าหลินจะตาย"
"เธอพูดเองนะหนูหลิน"
พี่เฟียใช้ริมฝีปากหนาประกอบลงริมฝีปากบางของฉันอย่างไม่รอช้า ก่อนที่เขาจะเริ่มเพิ่มรสจูบขึ้นมาอย่างเร่าร้อนเกินที่ฉันจะรับไหวสำหรับ จูบแรก ด้วยความที่ฉันจูบไม่เป็นฉันก็ปล่อยให้เขาเป็นคนคุมเกมฝ่ายเดียว พี่เฟียบดขยี้กลีบปากอันอ่อนนุ่มของฉันจนรู้สึกแสบไปหมด
"จ๊วบ~" เสียงดูดปากที่เยิ้มไปด้วยน้ำลายดังออกมาเป็นระยะเมื่อเข้าเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ จากนั้นพี่เฟียก็เริ่มสอดลิ้นสากเข้ามาในโพรงปากร้อนของฉันแล้วเกี่ยวเอาลิ้นเล็กและตวัดเพื่อเป็นการหยอกล้อ ฉันนี่แทบใจขาดตายเพราะหายใจไม่ออกมันรู้สึกอึดอัดไปหมด แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเชียวล่ะ จูบแรกอันร้อนแรงแบบนี้สามารถเล่าให้เพื่อนๆฟังให้อิจฉาได้สบายๆเลย
"ตกเป็นของฉันเถอะนะหนูหลิน!"
