6 ปีที่แล้ว
ชายหนุ่มเดินตรงมายังโต๊ะอาหารของวิวด้วยใบหน้ายิ้มกรุ่มกริ่มอย่างมีเลศนัย 'วิว' ผู้เป็นน้องสาวตัวแสบของเขาเอง ก็รีบหรี่ตามองผู้เป็นพี่ชายทันทีเพราะเธอไม่เคยเห็นเขามีใบหน้าแบบนี้มาก่อน จนบางทีเธอก็คิดว่าเขาเพี้ยน
"ใคร!"
"อะไร?"
"ก็ผู้หญิงคนเมื่อกี๊นี้ คือใคร" ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องสาวตัวแสบของตนด้วยน้ำเสียงสุดห้วนตามสไตล์
"ผิง เธอเป็นเพื่อนน้องเอง ผิงมาทำอาหารให้"
"ทำไม! มีอะไร?" ชายหนุ่มมองไปที่จานข้าวกะเพราเนื้อที่อยู่ตรงหน้าวิวด้วยแววตาอยากจะแย่งชิงเพราะฟังจากที่เธอพูดถึงเพื่อนสาวว่ามาทำอาหารให้ก็แอบมีแววตาที่เคลือบแฝงความหวงแหนตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด
และแน่นอนพี่ชายพี่แสน (ไม่) ดีอย่างเขา มีหรอที่จะปล่อยให้ของรักของน้องสาวลอยนวล เขาต้องแย่งมันมาครอบครองเท่านั้น
"นี่ อย่าแม้แต่จะคิดนะ"
"หึ!"
พรึ่บ!!
เขาแย่งจานข้าวกะเพราเนื้อของวิวมา แล้วตักเข้าปากพร้อมกับเคี้ยวตุ้ยๆทันที จนน้องสาวที่มีใฝตรงมุมปากนั้นหน้างอคอเหง้าเข้าเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น
"พี่เวลอ่ะ ชอบแย่งของน้องตลอดเลย ตอนเด็กก็ชอบแย่งของเล่นพี่ไวน์ ตอนโตก็ยังแย่งข้าวน้องอีก นิสัยไม่ดีเลยนะ!" เขาไม่สนใจในสิ่งที่วิวพูด แถมยังตักข้าวใส่ปากแบบไม่ยั้ง
"รสชาติคุ้นๆนะ" เขาเอ่ย
"เหมือนแม่ทำใช่ไหมล่ะ ก็เพราะเหตุผลนี้แหละน้องถึงชอบให้ผิงทำอาหารให้น้องกินบ่อยๆ" เขาชะงักไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินน้องสาวพูดถึงมารดาที่จากไป ซึ่งท่านเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันเมื่อ 6 ปีก่อน
"อืม ก็เหมือนอยู่แต่ไม่อร่อยเท่า"
"แล้วนี่ พี่จะเล่นการเมืองตามที่พ่อบอกไหม พี่ไวน์ไม่กลับมาแบบนี้พี่จะทำไง"
"ก็ไม่ทำไง แล้วแต่เขาสิยังไงฉันก็ไม่ยุ่งด้วย อะหมดแล้วฝากล้างด้วยนะ!!" เขายื่นจานให้วิวแล้วเดินไปที่เตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายใจ
"แล้วฉันต้องล้างไหมเนี่ย"
09:23
"ป้าคะขอหมูปิ้งหนึ่งไม้และข้าวเหนียวหนึ่งห่อค่ะ" แม่ค้าวัยกลางคนจับหมูปิ้งหนึ่งไม้และข้าวเหนียวหนึ่งห่อใส่ถุงหูหิ้วทันทีเมื่อมีออเดอร์เข้าจากนั้นก็ยื่ยให้เธอแล้วเอ่ยว่า...
"15 บาท จ่ะ"
"นี่ค่ะ" หญิงสาวยื่นเงินให้แม่ค้าแล้วรับหมูปิ้งพร้อมกับข้าวเหนียว เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีเธอก็เดินหน้ามาถึงสวนสาธารณะใกล้ๆห้องพักของเธอ แล้วนั่งลงม้านั่งสีน้ำตาล แล้วรับรับประทานข้าวเช้า+เที่ยงไปในตัว ในขณะที่กำลังลิ้มรสหมูปิ้งแสนอร่อยเธอก็ไปสะดุดตากับพ่อลูกคู่หนึ่ง ที่กำลังนั่งปิ๊กนิกด้วยกันสองคน
"พ่อครับ ทำไมแม่ไม่กลับมาหาพวกเราสักทีครับ"
"แม่ของลูกคงไม่กลับมาแล้วล่ะเพราะแม่ขึ้นไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์คอยมองเราสองคนอยู่ไม่คลาดสายตาเลย เพราะฉะนั้นลูกต้องเป็นเด็กดีเป็นคนดี แม่จะได้มองลงมาพร้อมกับรอยยิ้มไงครับ"
"ครับ ผมจะเป็นเด็กดีให้แม่เห็นผมทุกวันเลย"
"ดีมากลูก นี่ครับไก่ทอดของโปรดลูก กินเยอะๆนะ" คนเป็นบิดายื่นน่องไก่ทอดให้ลูกชายด้วยความรักและเอ็นดู หญิงสาวเห็นสองพ่อลูกคู่นี้มีความสุขยิ้มแย้มแจ่มใส ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ บางครั้งเธอก็ต้องการความรักความอบอุ่นแบบนี้ แต่มันคงไม่มีวันนั้นตั้งแต่แม่ของเธอจากไป เธอก็ไม่เคยได้รับความอบอุ่นแบบนั้นอีกเลย...
"แกกล้ารังแกลูกฉันหรอ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!!!"
"แต่พี่แพนเขาตบหนูก่อนนะพ่อ!!"
"ไม่จริงเลยนะคะ อีลูกเมียน้อยนี่มันตบหนูก่อน พ่อต้องไล่มันออกจากบ้านนะคะ!!!"
"ออกไปให้พ้นหน้าฉัน ออกไป!"
6 ปีที่แล้ว
'ออกไปให้พ้นหน้าฉัน ออกไป!!!'
สายน้ำอุ่นๆไหลอาบแก้มอย่างไม่รู้ตัว เมื่อสิ้นเสียงของผู้เป็นพ่อที่เอ่ยปากไล่ลูกสาววัยสิบหกปีออกจากบ้าน สาวน้อยได้แต่ร้องไห้สะอื้นด้วยความเสียใจเธอพยายามปาดน้ำตาเท่าไหรก็ไม่ยอมหยุดไหล เธอวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนอย่างน่าสงสาร ปิดประตูดังปังพร้อมกับเดินไปที่เตียงก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
"อึ่ก..ทำไมพ่อถึงไม่รักเราบ้างเลยอ่ะ ฮือๆ" หญิงสาวเอ่ยด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวบิดา ที่ตั้งแต่เธอจำความได้เธอไม่เคยรู้สึกถึงความรักจากพ่อของเธอเลย
"แม่คะทำไมจากไปเร็วจังเลย ทำไมไม่รอหนูบ้าง" เธอหันหน้ามองรูปคู่ของเธอและแม่ที่หัวเตียง วันเวลาแห่งความสุขที่เธอได้ทำร่วมกับแม่มันหายไปแล้วในวันนี้
ในเมื่อฉันอยู่ที่นี่แล้วชีวิตฉันไม่มีความสุขปราศจากความรักความอบอุ่น ฉันก็จะเดินทางตามหาความรักความอบอุ่นด้วยตัวของฉันเอง
หญิงสาวตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย ภายในใจเธอคิดแค่ว่าจะต้องไปจากที่นี่.. ต้องออกไปให้ไกล.. เดินไปจนไม่มีใครหาเธอเจอ
22:43 น.
เด็กสาวเดินมาเรื่อยๆไปตามฟุตบาตริมถนน ตอนนี้เธอง่วงและหิวมากเพราะเธอยังไม่ได้ทานข้าวเย็นก่อนที่จะออกมาด้วยซ้ำ
ซ่าส์~
สายฝนเย็นฉ่ำตกลงมาจากฟากฟ้าที่มืดครึ้มพร้อมกับหอบเอาเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ามาด้วย สาวน้อยผู้หน้าสงสารยืนตากฝนด้วยความหนาวเหน็บและสั่นคลอน ด้วยความที่กลัวเสียงฟ้าร้อง และเป็นเด็กจึงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง
"จะตกอะไรตอนนี้ฮะ ฮือๆ" เธอร้องไห้ออกมาและปล่อยน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่ขาดสาย ความเจ็บจแปล๊บมันวิ่งแล่นเข้ามาในหัวใจ
ฟุ่บ~
เธอนั่งกอดเข่าตัวเองและร้องห่มร้องไห้เหมือนจะขาดใจ ในตอนนี้เธอคิดแค่ว่าขอให้ตายจากโลกนี้ไปซะ เพราะไม่อยากเป็นภาระและไม่อยากเป็นหุ่นเชิดของพี่สาวและพ่อแท้ๆของตัวเอง ที่ต้องการอยากให้ทำอะไรเธอก็ต้องทำ
พอกันที ต่อไปนี้ฉันจะไม่กลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว ลาก่อน...
"หนู มานั่งตากฝนทำไมตรงนี้ลูก" เสียงของหญิงปริศนาดังขึ้นในขณะที่เธอกำลังเศร้า เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วพบกับหญิงวัยกลางคน คนหนึ่งเธอใช่ร่มของเธอบังฝนให้กับเด็กสาว
เด็กสาวตัวน้อยมองไปที่แววตาความห่วงใยของผู้หญิงปริศนาคนนี้มันทำให้เธอรู้สึกถึงความห่วงใยและความอบอุ่นเหมือนที่เคยได้จากแม่ หญิงวัยกลางคนลูบหัวเด็กสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยนเธอจึงยิ้มให้หญิงคนนั้นด้วยความดีใจ
ครืดดดดดดดดดดดดดด
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยจึงหลุดออกจากภวังค์ เมื่อเสียงริงโทนโทรศัพท์เข้าเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วพบว่าปลายสายเป็นเพื่อนรักจึงกดรับสายทันที
"เออ ว่าไงมีอะไรหรือเปล่า"
(แก~ ว่างปะคืนนี้)
"มีไร ผิดใจกับผัวหรอจ๊ะ" เธอพูดแซววิวผู้เป็นเพื่อน รัก
(บ้า! ฉันไม่เคยมีผัวนะ มีแต่แฟนที่เคยเสียตัว)
"จ่ะๆ เออแล้วแกมีอะไรให้ช่วยล่ะ"
(คืนนี้ไปทำงานช่วยฉันหน่อยนะ ยิ่งพี่เวลกลับมาเขาก็ต้องเข้มงวดขึ้น บังคับฉันมากขึ้น แล้วยิ่งสถานะการณ์โควิดแบบนี้ พี่ชายฉันต้องไม่กลับสิงคโปร์แน่ๆเลยแก ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ ฉันไม่อยากให้พี่เวลด่าอ่ะ แค่วันนี้วันเดียว นะ นะ นะ) เธอเบะปากมองบนทันทีเมื่อได้ยินคำขอร้อง เพราะเธอชินกับอาการแบบนี้ของเพื่อนสาวแล้ว สำหรับวิวครั้งเดียวไม่มีอยู่จริง!!
"แล้ว...ค่าจ้างอ่ะ"
(ให้สามเท่าเลย!!)
"อืม....มันก็.."
(เลี้ยงข้าวหนึ่งอาทิตย์ด้วย อะ!)
"โอเค แบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย คืนนี้เจอกันนะ"เธอกดตัดสายโดยไม่ฟังอีกฝ่ายที่กำลังจะพูด
"ว่าจะไม่รับความช่วยเหลือจากแกแล้วน๊า แกก็หาทางช่วยฉันจนได้นะยัยวิว แกนี่มันเป็นเพื่อนที่ประเสริฐจริงๆ ถ้าฉันไม่มีแก ป่านนี้ฉันก็คงเร่ร่อนไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้" เธอเปิดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูเวลา เพราะมันใกล้ถึงเวลาที่เธอจะต้องไปทำงานแล้ว
"โห สายแล้วหรอเนี่ยรีบไปดีกว่าเรา" เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วเดินสับเท้าไปยังป้ายรถเมล์ที่อยู่หน้าทางเข้าสวนสาธารณะ
อีกด้าน
"น้องโทรหาเพื่อนเรียบร้อยแล้ว วันนี้น้องขอส่งเพื่อนไปทำงานแทนนะจ๊ะ" วิวเอ่ยและเป็นเชิงขออนุญาตด้วย
"แล้วไว้ใจได้หรือเปล่า"
"ไว้ใจได้สิน้องให้ผิงทำงานให้ตลอด อุ๊บส์!" วิวยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองหลุดพูดความลับออกมา ชายหนุ่มได้ยินดังนี้จึงยกนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วชี้ไปที่หน้าผู้เป็นน้อง
"แปลว่า ที่ผ่านมาแกจ้างเพื่อนมาทำงานให้ใช่ไหม"
"เอ่อ..คือ.."
"ใช่ ไหม!!" เขาเน้นทีละคำ
"เออ!!... ก็น้องไม่ค่อยว่างนิ"
"โกหก! แกมันขี้เกียจวิว!!" ชายหนุ่มพูดแทงใจดำน้องของเขาจนเธอทำหน้ามุ่ยด้วยความที่เถียงพี่ชายไม่ชนะและไม่เคยชนะ
"หึ แต่ครั้งนี้พี่ก็ต้องยอมนะ เพราะคืนนี้น้องต้องไปงานสัมมนากับพ่อผู้บังเกิดเกล้า" เขาขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
"งานอะไรอีกวะ!"
"ไม่รู้ พ่อสั่งก็ต้องไป"
"เออๆ ครั้งนี้ฉันยอมก็ได้ แต่ครั้งหน้าตายเป็นตาย เฮ้อ ฉันกลับก่อนนะตอนเย็นมีธุระต่อเจอกันอีกทีพรุ่งนี้เช้าละกัน"
"โอเค บาย" เวลลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มๆของวิวก่อนที่จะเดินไปที่ประตูแล้วเดินออกไปไม่เห็นแม้แต่หลัง
"เฮ้อ.....พี่เรานี่มันจริงๆเลย”
__________________________________
หนูวิว ขี้เกียจดีจังเลยลูก เข้าสูตอนที่สองแล้ว สวัสดีท่านผู้อ่านทุกคนเน้อ //ยิ้มจนเห็นฟันทั้งสามสิบสองซี่
