บทย่อ
ถ้าคนหนึ่งเห็น ผี แล้ว อีกคนเป็นโรคนอนไม่หลับ ต้องมาเจอกันคุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ 'ฟ้าคราม' ใครที่ได้จ้องมอง นัยน์ตาสีอ่อน ของเธอ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน น่าหลงใหลราวกับว่ายิ่งมองก็เหมือนถูกสะกดจิต ดวงตาที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉาในความสวยสดงดงามคู่นี้ แต่น้อยคนจะรู้ว่าความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้นัยน์ตาสีอ่อน กลับแฝงด้วยพลังอันน่าสะพรึงชวนขนลุกที่เรียกว่า 'ดวงตาเห็นผี' 'เอ็ดเวิร์ด' นักธุรกิจหนุ่ม มาเฟียข้ามชาติ หล่อ รวย หุ่นดี แต่ก็แฝงความโหดเหี้ยมไม่ปรานีใครหน้าไหน ไม่ว่าสาวคนไหนเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก สวดภาวนาให้เป็นเพียงคู่นอนแค่หนึ่งคืนก็ยอม แต่ใครจะคิด ความเฟอร์เฟค ทั้งหมดนั้นกลับมีสิ่งหนึ่งที่เขายังไม่สามารถรักษาได้ นั่นคือ 'โรคนอนไม่หลับ'
1. คนแห็นผี
‘ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...’ เสียงเคาะประตูดังสนั่นไปทั่วบ้าน ฉันที่กำลังล้างจานอยู่ จึงต้องรีบล้างมือ เพื่อเดินออกไปเปิดประตู ดูว่าใครกันที่มาหากันตั้งแต่เช้าในวันหยุดแบบนี้
ฉันเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนในยามเช้า ที่แท้ก็เป็นคุณป้าข้างบ้านคนดังนี่เอง ท่าทีของเขาดูสั่นกลัวเล็กน้อย มือสองข้างกุมกันแน่นถนัด แถมสายตายังไม่กล้าจะสบตาฉันด้วยซ้ำ
“มีอะไรเหรอคะ คุณป้า” ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นเฉียบ
“หนูฟ้าครามจ๊ะ คือว่า....”
“...” ฉันเงียบ กอดอกมองดูคุณป้าตรงหน้าอย่างเฉยเมย
ที่เห็นว่าเขามีท่าทีกลัวฉันแบบนี้ แท้จริงแล้วคุณป้าข้างบ้านกับฉันเรามีเรื่องกันมา
ย้อนกลับไปเมื่อสองวันก่อนป้าคนนี้อาละวาดด่ากราดหน้าปากซอยใส่คนไปทั่ว จนคนในซอยนี้เอือมระอากรนด่าหนักแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครจะต้านสกิลปากร้ายของป้าเขาได้เลย
ฉันเพิ่งเลิกจากที่ทำงานต้องเดินผ่านตรงที่เกิดเรื่องพอดี กลับมัวเดินสนใจแต่มือถือ จึงกลายเป็นว่าฉันเดินชนป้าเขาอย่างจัง จากนั้นฉันจึงกลายเป็นเป้าสนามอารมณ์ให้กรนด่าหน้าปากซอยในวันนั้นให้คนเห็นกันไปทั่วจนเป็นจุดสนใจ
ฉันโดนป้าคนนี้ยืนด่าฉอด ๆ หาว่าไร้มารยาท แม้จะกล่าวขอโทษไปแล้ว แต่ป้าคนนี้ก็สรรหาคำด่า ขุดมาตั้งแต่พระเจ้าเหาขนมาสาดด่าหมดทุกเม็ด ฉันเองก็พยายามไม่สนใจอยากเดินผ่าน แต่ก็ถูกป้าดึงมือรั้งเพื่ออยากจะด่าต่อ
ความอดทนคนเรามันมีขีดจำกัด บวกกับเพิ่งกลับมาจากการทำงานที่แสนเหนื่อยล้า ฉันที่ยืนเงียบมาสักพัก จึงกัดฟันเอียงตัวเข้าไปกระซิบข้างหูคุณป้าเบา ๆ เพียงไม่กี่ประโยค
เมื่อคุณป้าได้ยินดังนั้นก็ยืนนิ่งสีหน้าแห้งเผือกปล่อยฉันให้เดินเข้าซอยแต่โดยดี แม้คนรอบข้างจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมจู่ ๆ ป้าปากแซ่บคนนี้ถึงเงียบไป แต่เชื่อได้เลยว่าป้าตรงหน้าจะไม่แสดงกิริยาต่ำ ๆ ไล่ด่าคนอื่นอีกแล้ว
และการที่ป้าหอบตัวเองมายืนตัวสั่นถึงหน้าบ้านฉันแบบนี้ นั่นแสดงว่าที่ฉันพูดไปเป็นความจริงทั้งหมด
“ป้ามาทำอะไร จะพูดหรือไม่พูดเนี่ยเสียเวลาฉันนะ” ฉันเท้าสะเอวมองอย่างหาเรื่อง
“หนูฟ้าครามคนงาม ป้ามาดีนะมาดี ป้าแค่อยากรู้ว่า...เอ่อ...” ป้าเขายังไม่กล้ามองหน้าฉัน น่ารำคาญชะมัด
“ป้าจะถามฉัน ว่าทำไมฉันถึงรู้ว่า ป้าเคยมีผัวเก่าแถมยังตายไปแล้วใช่มั้ย”
“ใช่จ๊ะ ตั้งแต่ป้ามาอยู่ที่นี่ไม่เคยมีใครรู้ว่าป้าเคยมีผัวเก่าที่ตายแล้ว ป้าเลยสงสัย เรื่องนี้ป้าไม่เคยบอกใครเลย”
“นั่นไง...” ฉันพยักเพยิดใบหน้าไปด้านหลังของป้า เธอหันหลังไปตามที่ฉันมอง
“หนูฟ้าคราม ป้าไม่เห็นอะไรเลย ยะ...อย่าทำให้กลัวสิ” สีหน้าคุณป้าเริ่มซีดเผือก
“ป้าไม่เห็น ใช่ว่าคนอื่นจะไม่เห็น ก็ผัวเก่าป้า เขายืนอยู่ข้างหลังคุณป้าทนโท่ ฉันเห็นตั้งแต่สองวันก่อนแล้วด้วย ตามติดป้าตลอด ดูลุงเขารักป้าเนอะ” ฉันพูดไปตามความจริง แม้ว่าสีหน้าของคุณลุงที่มองคุณป้าคนนี้จะออกไปทางอาฆาตมากกว่า
“อะไรนะ!!!!!” คุณป้าเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ถอยเซล้มลงพื้นด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกโพลง ตัวสั่นระริก ฉันเห็นดังนั้นจึงนั่งยอง ๆ ลงต่อหน้าป้าคนนี้
“ป้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่คุณลุงตอนเสียชีวิตใส่เสื้อลายทาง เสียคาทีในบ้านใช่มั้ยล่ะ จะให้ฉันพูดด้วยมั้ยว่า เขาตาย...ยัง...ไง” ฉันจ้องมองป้ามองลึกเข้าไปยังดวงตาของเธอที่มีแต่ความวิตกจนน้ำตาคลอเบ้า
“ปะ...ป้าไม่ได้ทำอะไรนะ ป้าแค่...”
“ป้าไม่ต้องเล่าให้ฉันฟัง ฉันไม่ใช่นักสืบ หรือตำรวจ ฉันแค่รำคาญป้าที่ยืนด่าคนอื่นฉอด ๆ ก็เท่านั้น อีกอยากคุณลุงผัวเก่าป้าก็ตามมายุ่งวุ่นวายให้ฉันมาบอกป้าเนี่ย”
“ขะ..เขาอยากบอกว่าอะไร” สายตาป้ามองฉันด้วยความกลัวและวิงวอน
“อะแฮ่ม มึงเอาเงินที่มึงขโมยกูมาเสพสุขกับผัวใหม่ ไปคืนให้แม่กูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูจะคอยตามจองล้างจองผลาญมึงให้ไม่ตายดีทั้งมึงและผัวใหม่มึงแน่” ฉันเลียนเสียงผู้ชาย แม้จะฟังดูแปลก ๆ ไปหน่อย แต่ก็อยากถ่ายทอดออกมาให้เหมือนที่สุด “คุณลุงว่ามาแบบนั้นแหละป้า”
“ห๊ะ!!!!! ไม่จริงงงงงงงงง ฉะ...ฉันไม่อยากตาย!!!” คุณป้าร้องเสียงสติไปแล้ว แต่การที่เขามากรีดร้องหน้าบ้านฉันแบบนี้ไม่ดีแน่ ฉันจึงต้องเขย่าตัวป้าที่นั่งกับพื้นให้เขาได้สติ
“นี่ป้า จะมาร้องหน้าบ้านคนอื่นหาพระแสงอะไรคะ แทนที่จะมากรีดร้องสู้ไปทำให้มันเข้าที่เข้าทางให้คุณลุงไปสู่สุคติ สำนึกผิด ไม่ดีกว่ารึไง”
“ป้าต้องทำไงบ้างหนูฟ้าคราม ช่วยป้าเถอะ ป้าขอร้อง ให้ป้าทำอะไรก็ยอม” คุณป้าจับมือฉันก้มหน้าวิงวอนด้วยน้ำตา เฮ้อปกติก็ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งอะไรสักหน่อย
“เรื่องกล้วย ๆ หนึ่งป้าต้องเอาเงินไปคืนแม่ของคุณลุง สองป้าต้องไปทำบุญให้คุณลุงด้วยความตั้งใจจริง ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน และสามเลิกทำตัวไปด่ากราดชาวบ้านได้แล้ว คุณลุงขอมาเท่านี้”
“ได้จ๊ะ ฝากบอกเขาทีป้าจะทำทุกอย่างเลย ป้าสำนึกแล้ว”
“ในเมื่อป้ารับปากแล้ว ก็ลุกขึ้นมาก่อน ใครเดินผ่านมา จะหาว่าฉันมีเรื่องกับป้าได้”
“จ๊ะ” ฉันพยุงคุณป้ายืนขึ้น ป้าปัดฝุ่นตามตัวก่อนจะขอตัวกลับ ในเมื่อความเกลียดชังหายกันแล้ว ฉันจึงเดินไปส่งป้าที่ประตูรั้วหน้าบ้านตัวเอง
เมื่อกำลังจะเดินเข้าประตูบ้าน คุณลุงก็มองฉัน จากใบหน้านิ่งงันก็ค่อย ๆ ยิ้มให้แล้วร่างของคุณลุงก็สลายหายไปกับตา
“ขอให้คุณลุงไปสู่สุคตินะคะ สาธุ” นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำให้พวกเขาได้ พวกเขาเหล่านั้นแค่ต้องการความช่วยเหลือ และฉันก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สามารถมองเห็นความต้องการของพวกเขาได้ก็เท่านั้นเอง
พอถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยสินะ อย่างนั้นฉันจะขอแนะนำตัวก่อนนะ ฉันชื่อวิกานดา หรือเรียกว่าฟ้าครามก็ได้ค่ะ เห็นฉันอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ ในซอยหมู่บ้านแออัดแบบนี้ จริง ๆ ฉันรวยมากนะขอบอก พ่อแม่ฉันเสียไปแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อ ห้าปีก่อน ในขณะที่ฉันกำลังเรียนมหาวิทยาลัย และได้ทิ้งสมบัติมากมายไว้ให้ฉัน ซึ่งฉันก็เก็บมันไว้ใช้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันฉันอายุ 28 ปี ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่ง GM ซึ่งมี CEO เป็นเพื่อนสนิทชนิดที่ว่าฉันเป็นคนเดียวที่สามารถขึ้น มึง กู กับมันได้เป็นเรื่องปกติ และฉันเองก็มีหุ้นอยู่ที่นั่นนิดหน่อยด้วย เลยเป็นการทำงานที่ค่อนข้างสบายใจ และไม่กดดัน
นั่นอาจดูเป็นประวัติคร่าว ๆ ทั่วไป แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าฉันน่ะมีความสามารถพิเศษไม่เหมือนใคร และคงไม่มีใครอยากจะเหมือน นั่นคือฉันมีสัมผัสที่หก ไม่สิหรืออาจจะมากกว่านั้นเพราะดวงตาสีอ่อนของฉันเห็นมันอย่างจังไม่ว่าจะกลางวันกลางคืน จนตอนนี้แทบแยกไม่ออกแล้วว่า ใครเป็นผี ใครเป็นคน บางครั้งจึงสร้างความสับสนให้คนรอบข้าง ว่าฉันคุยกับใคร และดูมีนิสัยแปลกในสายตาของคนปกติ(ที่ไม่เห็นวิญญาณ)

