Former Lover แฟนเก่า

98.0K · จบแล้ว
NBSTER
65
บท
900
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ฉันรักเขา เขาทิ้งฉัน ฉันเกลียดเขา เขารักฉัน รักที่ไม่มีทางมาบรรจบ

นิยายรักโรแมนติกประธานคนต่ำต้อยรักหวานๆรักแรกพบโตมาด้วยเศรษฐีโรงแรม/มหาลัย

CHAPTER 1

เสียงเพลงแดนช์ดังสนั่นลั่นบ้านหลังโตสุดซอย แค่ประตูเหล็กแกร่งหนาของรั้วบ้านที่ถูกออกแบบลวดลายสวยงามทันสมัยก็บ่งบอกถึงฐานนะเจ้าของบ้านเป็นอย่างดีว่าอยู่ในระดับไหน

คงไม่กระจอกแน่

ผ่านเข้ามาในบริเวณบ้านเสียงโห่ร้องกรี๊ดดังขึ้นชัดกว่าเดิมอีกมันเกิดเป็นพักๆ ตรงโซนข้างบ้านซึ่งคาดว่าเป็นบริเวณสระน้ำ

ปาร์ตี้ริมสระ?

มีใช้กันจริงๆ บรรดาลูกคนมีอันจะกิน

“ปาร์ตี้เชิญทางนี้เลยครับ”

หนุ่มคนหนึ่งคาดว่าเป็นคนใช้ของบ้านบอกพร้อมกับพายมือเชิญฉัน ถึงกับให้คนมาต้อนรับถึงประตูหน้าบ้านเลยเหรอทุ่มทุนมากที่สุด ก่อนจะเข้าไปถึงจุดนั้นตามเสียงก็ต้องผ่านบรรดาฝูงรถสปอร์คันหรูหราหลายคันจอดเรียงระนาดเต็มจนล้นออกมาดูระเกะระกะไปหมด

ทำให้ต้องรีบเดินหนีเลี่ยงไกลๆ ถ้าเกิดเข้าไปเอากระเป๋ารูดทำรอยความซวยต้องมาเยือนฉันอีกแน่ นี่ก็ซวยมากพอแล้วทำไมต้องมาอยู่กับสถานการณ์ที่ไม่ชอบด้วย

KUN: มารับหน่อย

KUN: กลับไม่ไหว

KUN: เมา

PAR: เพื่อ?

KUN: บอกม๊า

แค่นี้การสนทนาทางข้อความทุกอย่างก็หยุดลงตัว ฉันรีบเด้งตัวจากที่นอนหอพักหน้ามหาลัยคว้ากระเป๋าสะพายมายังบ้านแห่งนี้ทั้งไม่เต็มใจสักนิด บางครั้งไปลากจากคลับ บางครั้งไปลากจากร้านยาดอง บางครั้งไปลากจากมาเมาดิบและครั้งนี้ต้องมาลากจากบ้านครั้งหน้าฉันไม่ต้องไปลากมันที่อาบอบนวดเลยหรือวะ

เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยเว้ย!

งานปาร์ตี้ธรรมดาสำหรับพวกเขาแต่ไม่ใช่กับฉัน การตกแต่งเต็มไปด้วยลูกโปงสีฟ้าขาวรอบสระน้ำสวยใสสีฟ้าสะท้อนแสงกับดวงไฟประดับโดยรอบมันสวยนะแต่คงไม่ใช่ตอนนี้เวลานี้

วู้...

ฮิ้ว...

ดวงตาสวยเบิกกว้างเท่าไข่ห่านกับสิ่งที่สะท้อนปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้า ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงของผู้ชายที่รายล้อมไปด้วยสาวสวยรูปร่างผอมเพรียวไร้ไขมันใส่บิกินี่วันพีชบ้างทรูพีชบ้างเต้นอวดส่วนเว้าส่วนโค้งสะโพกมนด้วยความเย้ายวน

ทั้งในสระน้ำและบนบกโชว์เพื่อเรียกเสียงโห่แซวจากชายหนุ่มรอบข้างอย่างเมามัน ทุกอย่างครบครันสะดวกสบายไปหมดทั้งอาหารเครื่องดื่มชนิดต่างๆ มีไว้ให้บริการ

แม่เจ้า! เซ็กซี่แม้กระทั่งเมดสาวไม่มีเงินทำไม่ได้แน่

การเดินเข้ามาในโซนบริเวณสระน้ำหลังจากหยุดสักพักเพราะมัวแต่มองหาไอ้ตัวปัญหาที่ยังไม่เห็นหัวตั้งแต่ก้าวเข้ามา ไม่รู้ตายจมสระไปแล้วหรือยัง แต่ละก้าวเป็นการเดินแบบกล้าๆ กลัวๆ ก็ไอ้สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องมองมายังฉันราวกับว่าเป็นตัวประหลาด

ใช่สิฉันไม่ได้แต่งตัวเหมือนพวกเขาแค่เสื้อครอปกางเกงยีนขาสั้นทั่วไปความหวั่นใจเกิดขึ้นชั่วขณะเพราะกลัวว่ามาผิดที่จึงรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา

ทว่า...

“ยังไม่เข้าไปหามันอีกเหรอ?”

ผู้ชายตัวสูงเหมือนนายแบบสีผิวขาวผ่องตัดกับสีผมดำสนิทริมฝีปากเรียวสีคล้ำนิดๆ ผลพวงมาการสูบบุหรี่อีกทั้งยังมีรอยสักตรงแขนซ้ายให้ลุคแบดบอยไปอีก เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันในระยะห่างพอสมควรมือเรียวข้างหนึ่งถือแก้วเหล้าไว้ในมือเขาชื่อ ‘เกมส์’

พวกเดียวกันกับคนที่ฉันกำลังตามหา

“หาไม่เจอ”

“หึ” เขาเป็นคนเย็นชามากสายตาหาเรื่องตลอดเวลานาทีที่เขาเข้ามาทักจะสังเกตได้เลยว่าไม่มีสายตาคู่ไหนกล้ามองมาเลยไม่เหมือนเมื่อกี้สักนิด “ตามมาดิ”

ก็ดีจะได้รีบกลับ ออกตัวไว้ก่อนว่าฉันก็ไม่ได้สนิทหรือว่ารับรู้เรื่องของผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่นักดูท่าเขาจะอายุมากกว่าด้วยอีกอย่างหนึ่งเขาคงเห็นฉันทุกครั้งในตอนที่ต้องมาลากใครบางคนกลับบ้านมั้งถึงได้เข้ามาทักตามเพื่อนร่วมโลก

การเดินตามมาเงียบๆ กระทั่งเข้ามาในตัวบ้านมันจะมาลานกว้างเอาไว้สำหรับปาร์ตี้ด้านในอีกที่หนึ่งนั้นเต็มไปด้วยซากขวดเหล้าเบียร์เกลื่อนแล้วฉันก็เห็นไอ้ตัวปัญหาคนนั้น

มันยังกล้านอนแบบสบายใจอยู่บนโซฟากลางลานกว้างแถมข้างกายยังมีผู้หญิงคนหนึ่งเอียงซบลงแผ่นอก ลานนี้มันไม่ได้มันอยู่คนเดียวยังมีผู้ชายอีกสี่คนนั่งอยู่เป็นจุดๆ นาทีนี้ฉันไม่สนใจว่าจะมีใครบ้างสิ่งที่สายตาเห็นมันโฟกัสไปที่โซฟานั้นจุดเดียว

มันคนเดียวที่มีผู้หญิง!

ร่างเล็กเดินเข้าไปคว้าขวดเบียร์ขวดหนึ่งที่ยังเต็มไปด้วยของเหลวด้านใน ฝ่ามือบีบเกร็งจับคอขวดเบียร์แน่นจนสายตาคนอื่นกลัวมันแตกคามือของเธอนักการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดน้อยนักที่คนอื่นจะเลือกทำทว่าเธอกับไม่มีความลังเลใจเลย

“ฉิบหายแล้ววะ”

เสียงใครคนหนึ่งพูดดังขึ้นเข้ามาในโสตประสาทหูฉันซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ฉันต้องสนใจการเดินเข้าไปยืนข้างกับโซฟาตัวนั้นเสี้ยววินาทีเดียวของเหลวในมือก็ถูกยกขึ้นเทราดศีรษะทันที

~ซ่า~

กรี๊ดดด!

“เชี่ยใครวะ!”

ร่างใหญ่ของมันดีดเด้งลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงสบถออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกาจผสมกับเสียงกรี๊ดก่อนหน้าทำให้ดังสนั่นลั่นลานกว้าง หญิงสาวที่นอนข้างกายในตอนแรกบัดนี้ได้ตกลงกระแทกพื้นเรียบร้อย

“ฉันเอง”

“นังบ้า!”

เสียงนั้นมันไม่ใช่เสียงของไอ้ตัวปัญหาที่เรียกฉันมาแต่มันกับเป็นเสียงผู้หญิงคนเดิมกับที่นอนซบอกมันต่างหาก เธอลุกจากพื้นยืนจ้องฉันเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

เพล้ง!

“หุบปากถ้าไม่อยากเจอเสียบ!” ขวดเบียร์เมื่อกี้ถูกพลิกเอาด้านล่างขึ้นมาจากนั้นก็จัดการฟาดลงไปกับโต๊ะข้างๆ ให้แตกเหลือตรงคอขวดที่ถูกมือเล็กจับแน่นนั้นด้านปลายกลายเป็นความแหลมคมเธอโชว์ของในมือขู่ผู้หญิงคนนั้นรั้งท้ายด้วยการเบี่ยงหางตาลงพูดกับคนตรงโซฟา “ส่วนแกลุกขึ้นยืนเดี๋ยวนี้ไอ้กุน!”

‘ไอ้กุน’ ไอ้ตัวปัญหาที่ฉันเอ่ยถึงตั้งแต่แรกมันตามจิกตามกัดทุกช่องทางเพื่อให้มารับแล้วไหนไอ้ที่ว่าเมาจนกลับไม่ไหววะถ้ามีอาการอย่างที่บอกจริงคงไม่นอนกอดหญิงน่าระรื่นขนาดนี้ ครั้งแรกกับการระเบิดอารมณ์แบบหน้ามืดตามัวไม่เห็นหัวใครทั้งนั้นต่อให้เอาช้างมาฉุดก็เอาไม่อยู่

“พี่กุน...”

แต่แล้วเสียงเล็กของยัยนั่นคนนั้นก็เข้ามาร่วมวงระเบิดระหว่างฉันกับไอ้กุนอีกครั้งหนึ่งอุตส่าห์ให้ออกจากวงโคจรไปดีๆ แล้วเสือกเข้ามาอีกก็ตามใจ คราวนี้ไม่แค่เรียกชื่อเปล่าแต่ยังเข้าไปกอดลำแขนไอ้กุนที่ลุกขึ้นยืนนิ่งอยู่เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของหรือไม่ก็เพื่อสื่อให้ฉันรับรู้ท่าทางอ้อนแอ่นประดิดประดอยทำทีกลัวการกระทำของฉันนั้นยิ่งทำให้ปวดหัวเพิ่มอีกหลายเท่าตัว

“ปลา”

เอาเข้าไปพอยัยนั่นคนนั้นเรียกชื่อไอ้กุนแต่มันไม่สนใจกับเรียกชื่อฉันแทน ไม่ใช่รักสามเศร้านะเว้ยไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อวนขนาดนี้ถูกไหมยิ่งถูกเมินเดี๋ยวจะยิ่งสร้างปัญหาให้ฉันอีก

อารมณ์ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ไม่ว่าจะเห็นที่ไหนก็ตามการได้รับความสนใจน้อยหรือไม่ได้รับความสนใจสุดท้ายก็ลงด้วยการโวยวาย

โวยวายราวกับทำสงครามย่อมๆ

“เออ! ปลาทำไมมองไม่ชัดหรือไงวะ?” ฉันตั้งใจจ้องสายตาเขม็งไปยังคนร่างสูงผมดำใบหน้ามีเปียกชุ่มไปด้วยเบียร์ ไม่น่าสงสารสักนิดเดียวสะใจมากกว่าอีก “อย่าตอแหล!”

“ทำไมไม่ปลุกเหมือนตอนเช้าล่ะครับ มอนิ่งคิสไงหรือว่าโกรธเค้า...”

มอน่งมอนิ่งคิสบ้าห่าเหวอะไรของมันอีกฉันไม่เคยทำแบบนั้นไม่ว่าจะเป็นแต่ก่อนหรือว่าตอนนี้น้ำเสียงหวานทุ้มเกิดขึ้นเกินปกติแบบไพเราะเสนาะหูอย่างไม่น่าเชื่อก็ไม่ต้องเชื่อนั้นแหละดีที่สุดเพราะมันเป็นเพียงแค่การแสดงของไอ้กุน

“อย่าด้าน”

“ไม่เอาหน่าเค้าเมากลับเองไม่ไหวจริงๆ นะครับ”คนตัวสูงยังพูดไม่สะทกสะท้านกับอะไรสักนิดเดียวอีกทั้งยังทำท่าทางจะเดินมาหาฉันอีก

“ใครกันคะพี่กุน?”

นั่นไงตัวต้นเรื่องเริ่มเอาตัวมาขวางการสนทนาระหว่างฉันกับไอ้กุนแล้วยัยนั่นไม่ว่าเปล่าด้วยนะ เธอการกระชากแขนของไอ้กุนที่กำลังจะเดินมาหาฉันให้มันหันใบหน้ามาพูดกับเธอแทนการเฉยเมยไม่สนใจที่เมื่อกี้ยังไงก็ช่างเรื่องระหว่างสองคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันหรอกแต่คติฉันไม่ว่าจะไปลากไอ้กุนจากไหนก็ตามผลมันต้องสำเร็จทุกครั้ง!

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“นั่นมัน...”

“เพื่อน ฉันเป็นเพื่อนมัน!” ฉันชิงพูดตัดหน้า

“ไม่ใช่” คราวนี้คนตัวสูงตรงหน้าฉันมันไม่ยอมการปฏิเสธจึงเริ่มขึ้น “ไม่ใช่เพื่อน”

“…”

นัยน์ตาสีนิลลุกวาวแต่ท่าทางมันยังนิ่งเฉยไม่เคลื่อนไหวฉันก็ไม่ได้เอ่ยอะไรไปนอกจาการเงียบคราวนี้ยอมรับว่าเดาอาการของไอ้กุนไม่ออกมันผิดปกติ

“จะอยู่ในสถานะไหนก็ได้แต่ไม่ใช่เพื่อน”

“ฉันไม่ใช่เพื่อนมันแต่... เป็นเพื่อนที่สนิทมากต่างหาก เธอเข้าใจคำนี้มั้ย?” ครานี้ฉันเลือกส่งสายตาเป็นเชิงห้ามไอ้กุนให้หุบปากของมันลง “ฉันถามเข้าใจมั้ย?”

“ก็แค่เพื่อนสนิท”

ก็ยังคิดไม่ได้