First Love 9
สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่สดใส
“มอนิ่งค่ะ ป๊า”
“วันนี้เปิดเทอมวันแรก ลูกสาวป๊าตื่นรึยังเอ่ย” วันนี้ป๊าคอลไลน์มาหาแต่เช้าเพราะอยากเห็นลูกสาวใส่ชุดนักศึกษาครั้งแรก ซึ่งฉันกับครอบครัวเราคุยกันเกือบทุกวันเพราะที่บ้านเป็นห่วงเหมือนกันแหละ มาอยู่ตัวคนเดียวที่กรุงเทพ แต่ดีหน่อยที่ยังมีกะเทยมาเป็นเพื่อน ฉันกับหญิงบี้เราอยู่คอนโดเดี๋ยวกันแต่คนละห้องและคนละชั้นด้วย
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของภาคเรียน ตอนนี้พรีมคนนี้เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง คณะบริหารแล้วน๊า ไม่ใช่เด็กมอปลายอีกต่อไป
(ข้าเจ้าเป็นสาวเจียงใหม่ แฮมบ่อเต้าใดก็จะเป็นสาวแล้ว) เพลงนี้โดนว่ะ!! แอบตื่นเต้นที่ได้ใส่ชุดนักศึกษาครั้งแรก
“ตื่นแล้วค่ะป๊า ตอนนี้กำลังจะไปมหาลัยค่ะ”
“หนูใส่ชุดนักศึกษาแล้ว เป็นไงบ้างคะสวยรึเปล่า” ฉัน ป๊า พี่ชาย เราสนิทกันมาก (: ตอนเด็กๆ พี่ชายฉันเป็นคนดูแลฉันมาตลอด เพราะป๊างานยุ่ง ถ้าจะบอกว่าทำไมฉันโตมากับพี่ชายก็เพราะว่าแม่ฉันเสียตั้งแต่ฉันยังเด็ก ?ตอนนี้พี่ชายคนโตก็ทำงานช่วยป๊าอยู่ที่เชียงใหม่ ส่วนพี่ชายคนรองเรียนอยู่ต่างประเทศแต่เราติดต่อกันตลอด เพราะพี่ชายฉันหวงมาก ไม่อยากให้มีแฟนด้วยซ้ำ
“ลูกป๊าโตเป็นสาวแล้ว สวยเหมือนป๊าเลย”
“โห่!! ไม่ได้ดิป๊า หนูต้องสวยเหมือนแม่ค่ะ) :
“หนูไปเรียนก่อนนะคะ” พูดถึงก็คิดถึงแม่เหมือนกัน แต่ชีวิตฉันไม่เคยรู้สึกขาดอะไรเลย เพราะป๊าไม่เคยมีใครมาแทนที่แม่ฉันสักคน
“โชคดีนะลูก ป๊ารักหนูนะ” ><
@ มหาลัยชื่อดัง
“ตื่นเต้นว่ะ เราก็ไปเรียนอาคารไหนนะชะนี”
“ตึกบริหาร ห้อง B ไง ตื่นเต้นจนลืมเหรอ? ค่ะ กะเทย”
“Hi กะเทย Hi ชะนี / สวัสดีทั้งสอง” มะนาวกับมีนา เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มอปลาย แต่บุคคลและการพูดต่างกันราวฟ้ากับเหว มันสองคนยังคบกันได้ว่ะ นี่ งง มาก
“กว่าจะมาได้นะย่ะ”
“รถติดย่ะ เมืองกรุงตอนเช้ารถติดจะตาย มาทันก็บุญแล้ว” ก็อย่างที่นาวมันพูดแหละ เมืองกรุงการจราจรหนาแน่มาก จะทำอะไรก็ต้องเผื่อเวลา ถามว่าเชียงใหม่เป็นเหมือนกันมั้ย? ก็คล้ายๆ นะแต่ก็ไม่ได้ได้ติดขนาดกรุงเทพหรอก
“ปะๆ ” ขึ้นตึกเรียนกันเถอะ” พวกเราขึ้นอาคารเรียนก่อนเวลา เผื่อเวลาหาห้องเรียนด้วย
“เจอสักที ที่นี่กว้างเหมือนกันนะมึง” หลังจากที่เข้าห้องได้สักพักอาจารย์ที่ปรึกษาก็เข้ามาแจ้งรายละเอียดและอธิบายเกี่ยวกับรายวิชาที่เราต้องเรียน) : จริงๆ วันแรก (ก็เหมือนมาเข้า โฮมรูมก่อนเรียนแบบจริงจังแหละและช่วงบ่ายรุ่นพี่สาขาก็นัดให้นักศึกษาสาขารวมตัวกันเพื่อชี้แจงรายละเอียดการรับน้องของสาขา
12.00 น
“กินข้าวกันเถอะทุกคน หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว”
“มึงจะกินพวกเดียวกันเลยเหรอกะเทย”
“อิห่า ไม่กัดกูสักวันจะตายมั้ย” วันนี้เราจะคงกินข้าวที่โรงอาหารคณะนี่แหละ) : ไปเซอร์เวย์ที่ไหนไม่ได้เพราะช่วงบ่ายต้องเข้าพบรุ่นพี่ให้ทัน เลทไม่ได้ด้วย
“ใจจริงกูก็อยากไปกินข้าวที่คณะวิศวะหรือคณะแพทย์นะมึง กูจะได้อิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งใจ”
“มึงเรียนบริหารแต่เสือกสาระแนไปกินทำไมที่คณะอื่นว่ะ”
“อ้าว!! มึงไม่คิดถึงพี่ธีร์บ้างเหรอว่ะ อิพรีม”
“เกี่ยวไรกับกูค่ะ กะเทย” จริงๆ แล้วตั้งแต่วันที่ฉันก่อวีรกรรมที่ค่าย พี่ธีร์มันก็เงียบและไม่พูดกับฉันอีกเลย นี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าพี่เขาเป็นอะไร ซึ่งฉันไม่ได้เจอหน้าพี่เขาต้องแต่กลับจากค่าย ก็ไม่แปลกหรอกที่ไม่เจอเพราะเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ถ้าเจอสิแปลก:)
“ค่า กูก็นึกว่ารักเกิดในค่ายก็เห็นพี่เขาใส่ใจมึงดีนิ ดูจะชอบมึงด้วย”
“หยุดเพ้อค่ะไปแดกข้าวได้แล้ว” เฮ้ย!! เอาจริงฉันก็ไม่ได้จะคิดเรื่องผู้ชายหรอก แต่ถ้าวันหนึ่งที่จะต้องมีแฟนฉันก็อยากจะให้เค้ารักฉันจริงๆ เหมือนที่ป๊ากับพี่ชายที่รักฉันก็เท่านั้น
12.30 น.
“มึง!! ไลน์กลุ่มสาขาแจ้งนักศึกษาไปเจอกันที่ลานกว้างของมหาลัย วันนี้บ่ายโมง”
“แล้วลานกว้างของมหาลัยมันอยู่ตรงไหนวะนาว” มหาลัยกว้างจะตาย จะหาเจอมั้ย? ยิ่งมาเรียนวันแรกด้วยไม่รู้ที่ไม่รู้ทางอะไรเลย
“กูไปสืบมาแล้วค่ะ ลานกว้างอยู่ข้างๆ ตึกวิศวะ ตรงนั้นเป็นลานไว้รวมตัวกันทำกิจกรรม”
“อุ๊ย!! งั้นพวกเราก็ต้องเดินผ่านคณะวิศวะกับลานเกียร์อะดิ) : ว้ายย! กูอยากจะสะดุดลานเกียร์ กูอยากมีผัวเป็นเรียนวิศวะ”
“ไร้สาระมากกะเทย ไปกันได้แล้ว (: มันจะจริงเหรอว่ะ? สะดุดลานเกียร์ได้ผัวเรียนวิศวะ งั้นก็คงมีคนแกล้งไปสะดุดบ่อยอะดิ!มึงอะบ้าบอ”
“ไม่ใช่ใครก็สะดุดได้นะ อิพรีม” เหอะ!!
“น้องสาวสนใจไปดูแมวที่ห้องพี่มั้ย? คณะไหนครับเนี้ย? สนใจแลกไลน์กันมั้ยครับ? เบลอๆๆๆ”
หลังจากที่พวกเราเดินออกจาก โรงอาหารเพื่อที่จะมุ่งไปลานกิจกรรมรวม ตลอดทางที่เดินผ่านคณะวิศวะ ก็จะมีผู้ชายแซวตลอดทางฉันก็ไม่เข้าใจนะ ทำไมรุ่นพี่เค้าไม่นัดที่อื่นว่ะ>>> มาอะไรแถวนี้//
“ว้ายย ตุ๊บ!! ทุกคนฉันสะดุดลานเกียร์ เอาจริงพื้นที่นี่เรียบมาก มันไม่ได้ลื่นอะไรเลยแต่ฉันสะดุดเข้ากับอะไรไม่รู้) : ตอนนี้อิพรีม งง มาก
: (เฮ้ย มีผู้หญิงสะดุดลานเกียร์ว่ะ สงสัยต้องเตรียมต้อนรับสะใภ้วิศวะแล้วว่ะ) : เสียงฮือฮ่าดังมาจากผู้ชายคณะวิศวะ ถามว่าอายมั้ย ตอบเลยว่า มาก
“พรีม เป็นไรมั้ย” มีนาเป็นคนแรกที่เข้ามาดึงให้ฉันลุกขึ้น ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกแค่ล้มลงไปเฉยๆ
“มีนา ช่วยพยุงฉันลุกขึ้นทีแล้วรีบพาเดินออกจากตรงนี้ที” หลังจากที่หลุดออกจากหลังเกียร์ได้ ก็เดินมาถึงลานรวมสักที) : ฉันบอกกับตัวเองว่าถ้าไม่จำเป็นจะไม่มาเหยียบคณะนี้ เด็ดขาด “เป็นไรละมึง เรื่องไร้สาระของมึงแหนะ!!
“มึงจะซ้ำเติมกูเพื่ออะไร เดี๋ยวตบคว่ำเลยกะเทย” คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ
Part ธีร์
“ไอ้ธีร์ มึงรู้ข่าวรึยังว่ะ”
“ข่าวอะไรของมึงว่ะ ไอ้โน่” ตอนนี้พวกผมนั่งอยู่ใต้ตึกเรียน เตรียมตัวขึ้นเรียนวิชาเอกของสาขาวิชา
“ก็เมื่อกี้ น้องพรีมเดินสะดุดลานเกียร์ว่ะ”
“น้องจะได้ผัวเรียนวิศวะนะเว้ย แต่ว่าใครวะจะได้น้องพรีมเป็นเมียนี่ดิ!>รอดูต่อไป”
“-----------” ไอ้นี่ ปากล่อตีนฉิบหาย น้องจะได้ใครเป็นผัวไม่ได้ทั้งนั้นนอกจากผมคนเดียว เอาจริงนะตั้งแต่กลับจากค่ายมา ผมก็ไม่ได้เจอน้องอีกเลย
วันนี้เพจมหาลัยก็ปล่อยรูปน้องเพราะความสวยของน้องไงเสือกไปสะดุดตาผู้ชายหลายคนเข้า..ทำให้น้องเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายอยากได้เป็นแฟนมากที่สุด แล้วผมควรทำยังไง? มีแต่คนชมว่าน้องสวย มีแต่คนอยากจีบ แค่เปิดเทอมวันแรกน้องฮอตขนาดนี้เลยเหรอว่ะ?
“มึงจะทำหน้าอมทุกข์อีกนานมั้ย ชอบน้องเค้าก็จีบดิครับหรือว่าจะรอให้หมาคาบไปแดกก่อน แล้วมานั่งซึมเป็นส้วมไม่ได้นะโว้ย”
“กูต้องทำไงว่ะ” สับสนฉิบ น้องเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมคิดจะจีบ แต่ผมไม่เคยจีบใครมาก่อนในชีวิตไง มันเลยเป็นเรื่องที่ยากสำหรับคนอย่างผม
“เก่งไปซักทุกอย่าง แต่เสือกตกม้าตายเรื่องผู้หญิง ถ้ามึงจะจีบน้องเค้ากูมีวิธี”
“ยังไงวะ” หลังจากนั้นมันก็แนะวิธีให้ผมจีบน้องเขา มุกจีบ อีกสารพัด (เอาว่ะ ผมจะลองดูสักตั้ง เป็นไงเป็นกัน น้องต้องเป็นแฟนผมคนเดียวเท่านั้น คนอื่นก็ข้ามศพผมไปก่อนเถอะ)
#พี่จะตีมึนจีบน้องแล้วนะทุกคน ## ไรต์อยากจะสะดุดลานเกียร์บ้างเผื่อมีผัวเป็นวิศวะ
