ตอนที่5/2 ความอบอุ่น
“พูดเหมือนแกจะไม่เมา” พี่อาวุธหันไปแขวะใส่ฉันอย่างไม่จริงจัง
“แหมคุณลุง ถึงเมาฟ้าก็ยังมีพี่รหัสแสนดีคอยดูแลอยู่แล้ว ต้องห่วงอะไรคะ” ฉันตอบพี่อาวุธพร้อมกับอ้อนพี่แตงค์ไปอย่างลืมตัว อาจจะเพราะแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปแน่เลย ถึงทำให้ฉันกล้าทำแบบนี้ทั้งที่ไม่กล้ามานานแล้ว แต่พี่แตงค์ก็ไม่ได้ว่าหรือพูดอะไรมาก ทำให้ฉันสบายใจว่าเขาคงไม่โกรธฉัน
แล้วเราทุกคนก็นั่งดื่มกันไป คุยกันไป โดยส่วนใหญ่ก็เรื่องเรียนกับน้องเล็กอย่างเรนโบว์ และก็แลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวของกันเล็กน้อยไม่ได้เจาะลึกอะไรเพื่อจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
“แล้วเรนมีแฟนหรือยังอ่ะ” พี่อาวุธถามออกมา
“ถามทำไมคะ ฟ้าหวงนะ” ฉันแทรกขึ้นก่อน เพราะตอนนี้เริ่มมึน(หนัก)แล้ว กล้าหมดแหละ
“ไอ้บ้า พี่ก็ถามในฐานะพี่ไหมวะ ไม่ได้จะคิดอะไรแบบนั้น” พี่อาวุธตอบกลับทันที
“เรนยังไม่มีค่ะ” เรนโบว์ตอบกลับ
“น่ารักขนาดนี้ไม่มีจริงอ่ะ พวกแกสองคนดูหลานฉันให้ดีเลยนะเว้ย อย่าให้ผู้ชายที่ไหนมายุ่งเด็ดขาด” แล้วพี่อาวุธก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนเหลือเชื่อ ก่อนจะหันมาสั่งฉันกับพี่แตงค์
“ฮ่าๆ งานนี้ต้องมอบหน้าที่ให้กับพี่แตงค์เลยค่ะ เพราะว่าผู้ชายที่มายุ่งกับหลานพี่วุธ ฟ้าไม่กล้ายุ่ง” ฉันหัวเราะแล้วพูดออกมา เพราะช่วงนี้มีข่าวของเรนโบว์กับพี่สายฟ้าที่มาตามขายขนมจีบให้กับเรนโบว์ถึงคณะบ่อยๆ แน่นอน ว่าใครก็ไม่กล้ายุ่งกับพวกเขาหรอก
“ใครวะ” พี่อาวุธถาม
“ไอ้สายฟ้า” แล้วก็เป็นพี่แตงค์ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พอฉันเงยหน้าไปมองหน้าพี่แตงค์ ก็เห็นสายตาเขาแปลกๆ จะบอกว่าแปลกตั้งแต่มองที่เรนโบว์มาแล้วก็ว่าได้ หรือว่าพี่แตงค์จะ...
“โอ๊ะโอ” พี่อาวุธทำเสียงขึ้นก่อนจะกระดกเหล้าขึ้นดื่ม ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูดกัน แล้วก็เล่าถึงวีรกรรมต่างๆไปเรื่อย ยิ่งเหล้าเข้าปากมากเท่าไหร่ ก็ต่างพากันพูดคุยอย่างสนุกสนานเท่านั้น
“เป็นไงเรา เมาหรือยัง” ฉันเห็นพี่แตงค์พูดอะไรไม่รู้กับเรนโบว์ ท่าทางสนิทสนมและเป็นห่วง
“ว่าอะไรนะคะ” ก่อนเรนโบว์จะยื่นหน้าเข้าใกล้พี่แตงค์
“พี่ถามว่าเมาหรือยัง” แล้วพี่แตงค์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรนโบว์ก่อนจะอะไรไม่รู้ เพราะตอนนี้เสียงค่อนข้างดัง แล้วฉันก็ไม่ได้นั่งใกล้พวกเขาด้วย
“อ๋อ มึนๆนิดหน่อยค่ะ” เรนโบว์ตอบปากขมุบขมิบ แต่ฉันอ่านปากไม่ออก สงสัยจะเมาแล้ว
“ถ้าไม่ไหวก็หยุดนะ เมามากเดี๋ยวพรุ่งนี้จะปวดหัว” พี่แตงค์พูดขึ้น พวกเขาพูดอะไรกันสองคนนะ แล้วทำไมฉันต้องนั่งมองพวกเขาคุยกันด้วย
“ค่ะ” เรนโบว์ยิ้มให้พี่แตงค์
“งั้นเดี๋ยวเรนไปห้องน้ำก่อนนะคะ” เรนโบว์ยังคงพูดอีก พี่แตงค์ก็เหมือนกัน
“เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรนยังไหว”
“แน่ใจนะ” ฉันอยากรู้จัง ว่าพวกเขาคุยอะไรกันสองคนเป็นนานสองนาน ไม่ให้ฉันกับพี่อาวุธฟังบ้างเลย
“แน่ใจสิคะ รอให้เรนลุกแล้วล้มเมื่อไหร่ พี่แตงค์ค่อยช่วยก็พอ” แล้วอยู่ๆพี่แตงค์ยกมือขึ้นไปจับหัวเรนโบว์โยกไปมาเบาๆ นั่นทำให้ฉันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายแปลกๆ
เมื่อก่อนพี่แตงค์ก็อบอุ่นกับฉันแบบนี้แหละ แต่หลังจากตอนนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เขาเริ่มนิ่งใส่ฉันทีละนิด ทีละนิด ถึงตอนนี้จะยังไม่ถึงกับนิ่งมาก แต่ก็ถือว่าเปลี่ยนไปจากแรกมาก
แล้วเรนโบว์ก็ลุกเดินออกจากโต๊ะไป สงสัยจะไปห้องน้ำนั่นแหละ แต่ดูเหมือนน้องน่าจะไหว อีกอย่างเมื่อกี้ก็คงบอกพี่แตงค์แล้ว แล้วพี่แตงค์ไม่ไปด้วยแบบนี้ ก็แสดงว่าน้องไหวจริง อืม งั้นฉันนั่งต่อแล้วกัน
ผ่านไปสักพักใหญ่ที่เรนโบว์ไปห้องน้ำก็ไม่กลับมาสักที ฉันก็เลยลุกไปตาม และพี่ๆก็เห็นด้วย แต่พอมาในห้องน้ำ กลับไม่เห็นเรนโบว์ ฉันรีบไปบอกพี่อาวุธกับพี่แตงค์ แล้วสักพักพี่แตงค์ก็ลุกออกไป ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหนแต่ท่าทางเขารีบร้อนมาก และไม่นานเขาก็กลับมา ก่อนจะนั่งซดเหล้าเข้าปากไม่หยุดจนฉันกับพี่อาวุธมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
