บท
ตั้งค่า

1

The Obsidian Eyes

เวลาเย็นมาถึงแล้ว ขอบฟ้าริมทะเลกว้างแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงอมทองราวกับเปลวไฟ และเมื่อมองจากสระน้ำของโรงแรมที่ตั้งอยู่ชิดหาดก็ทำให้หลงใหลจนยากจะถอนตัวได้

แล้วอยู่ๆ ระหว่างที่เราว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระแอนก็ว่ายไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งเข้า

“โอ๊ย” เธองอแงทันที

“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่เห็นคุณเลย แย่จัง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อ...” แอนนิ่งค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายที่ชนเธอ ดูจากแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อก็รู้ทันทีว่าเธอประหม่าสุดขีด นั่นก็เพราะผู้ชายที่กำลังขอโทษเธอด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งเป็นผู้ชายร่างสูงที่หน้าตาดีทีเดียว บางทีเขาอาจจะเป็นนายแบบก็ได้ และน่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ก็ลูกครึ่งเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษและมีผิวที่ออกจะขาวสว่าง

“ผมชื่อไรอัน” ชายร่างสูงแนะนำตัว ยิ้มกว้างที่สดใสมีเสน่ห์ของเขาทำให้แอนหายเจ็บและเลิกถูมือกับลูกโนๆ บนหน้าผากทันที และฉันก็รู้อีกนั่นล่ะว่าทำไมแอนถึงไม่เจ็บทั้งที่ถูกชนแรงขนาดนี้

“ฉันชื่อแอนค่ะ แล้วนี่เพื่อนฉันชื่ออัยย์” แอนแนะนำตัวเองและฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ผมเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษครับ แต่โตที่อังกฤษและอยู่ที่นั่นมาตลอด ช่วงนี้ว่างก็เลยมาเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อน” เขาเล่าอย่างร่าเริงด้วยภาษาอังกฤษ “ รู้ไหมว่าผมมีเพื่อนคนไทยน้อยมาก ทำให้ผมรู้สึกอายที่พูดภาษาไทยไม่ได้ทั้งที่มีเชื้อไทย บางทีถ้าผมมีเพื่อนคนไทยมากขึ้นผมอาจจะหัดภาษาไทยได้ แต่เฮ้อ...ไม่รู้จะมีใครอยากเป็นเพื่อนกับคนที่พูดภาษาไทยไม่ได้เรื่องอย่างผมบ้างไหม...”

เมื่อไรอันพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารขนาดนี้แอนก็น้ำตาคลอและรีบปลอบใจเขาเหมือนเขากำลังจะตาย เธอสอนภาษาไทยให้เขาด้วย ไม่นานแอนกับเพื่อนใหม่ก็คุยกันสนุกสนานถูกคอด้วยภาษาอังกฤษปนไทย จากนั้นพวกเขาก็สนิทกันจนเริ่มสาดน้ำใส่คนตรงข้าม แล้วเมื่อน้ำกระเซ็นมาถูกฉัน ฉันก็สาดน้ำใส่พวกเขาบ้าง

ไปๆ มาๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแอนกับไรอันถึงมีเรื่องสนุกให้คุยกันได้ไม่หยุด พักใหญ่หลังจากคุยราวกับเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาหลายปีไรอันก็พูดขึ้น แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนคำแทนตัวเองจาก ‘ผม’ มาเป็น ‘ฉัน’ แล้ว

“เธอไม่มีวันรู้หรอกว่าฉันอยากมีเพื่อนคนไทยมากแค่ไหน แอนกับอัยย์คุยสนุกดีนะ ใจดีด้วย ฉันไม่ได้คุยกับใครสนุกๆ แบบนี้มานานแล้ว แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้เราไปรวมแก๊งกันดีกว่าไหม? ”

“รวมแก๊งเหรอ? ” แอนประหลาดใจ

“ใช่ ไปเจอเพื่อนๆ ของฉัน ในทริปนี้พวกเราวางแผนทำกิจกรรมสนุกๆ ไว้หลายอย่าง พวกเราเป็นกลุ่มที่เป็นกันเองมาก พวกเธอจะต้องชอบแน่ ไปด้วยกันนะ”

“โอเค ก็ได้ นี่เพราะนายชวนหรอกนะ” แอนตอบตกลงทันที เธอมีนิสัยน่ารักกว่าฉันอยู่อย่างคือเข้ากับเพื่อนใหม่ง่าย เธอเริ่มสนิทกับไรอันขนาดที่ระหว่างทางเขาคุยว่าจะไปเที่ยวบ้านเธอ และถ้าแอนกับฉันไปอังกฤษเขาจะเปิดบ้านเช่าว่างให้เราพักฟรี ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่น่ารักและใจดีขนาดนี้

สักพักไรอันก็พาพวกเรามาถึงสระน้ำอีกฟาก ริมน้ำสีเทอร์ควอยส์ที่กำลังเรืองแสงในความมืดราวกับอัญมณีนั้นกลุ่มเพื่อนของเขากำลังนั่งเล่นกันอยู่ และ…

เป็นไปไม่ได้น่า...

ถึงจะไม่อยากเชื่อแต่หนึ่งในเพื่อนของไรอันที่หันมาหาพวกเราก็ทำให้ฉันหุบยิ้มได้ในทันที ฉันจำร่างสูงที่โดดเด่นนั้นได้ถึงจะเห็นแค่เสี้ยวข้าง ก็ฉันเพิ่งจะสบประสาทเขาทั้งด้วยคำพูดและสายตาไปเมื่อช่วงบ่ายนี่ แล้วฉันก็คงทำตัวไม่ถูกหากไรอันจะแนะนำฉันให้รู้จักกับคนที่เพิ่งมีเรื่องกัน

“เฮ้ อเล็กซ์” ไรอันร้องเรียกเขาและเพื่อนคนอื่น “เฮ้ ทุกคน”

ดวงตาคมเข้มสีออบซิเดียนปรายมองมาเมื่อได้ยินเสียงของไรอัน ฉันไม่อยากเจอเขาสักหน่อย ทำไมคนที่ทั้งใจดีและร่าเริงอย่างไรอันถึงมีเพื่อนที่เย่อหยิ่งและเย็นชาแบบนี้ได้นะ!?

“ฉันพาเพื่อนใหม่มาแนะนำ นี่แอน นี่อัยย์” ไรอันแนะนำเราก่อนจะแนะนำอีกฝ่าย “แอน อัยย์ สองคนนี้คือเพื่อนของฉัน อเล็กซ์กับเลอาห์”

ทันทีที่ไรอันแนะนำชื่อของฉัน ดวงตาสีออบซิเดียนดำสนิทก็ลากมาจับจ้องและราวกับตรึงล็อคร่างของฉัน นิ่งแข็ง เยือกเย็น และขุ่นเคืองในความเงียบงัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาจำเรื่องเมื่อบ่ายนี้ได้ และเขาเกลียดฉัน

“ไฮ” เพื่อนๆ ของไรอันทักเรา มีแค่อเล็กซ์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ทักทาย เขาแค่ดูเหยียดหยามและรำคาญจนต้องลากสายตาเลยไปมองที่อื่นราวกับพวกเราเป็นแค่เงาหรือกรวดทราย ไม่ผิดเลยที่ในวงการแฟชั่นลือกันว่าเขาทั้งหยิ่งและเย็นชา ถึงฉันจะผิดเองที่ดูถูกเขาก่อนแต่ก็ช่วยไม่ได้ แต่ว่าที่จริงคนไร้สาระอย่างฉันก็มีประโยชน์กับโลกนี้อยู่บ้างเหมือนกัน เพราะฉันคอยช่วยทำให้พวกคนดังไม่หลงตัวเองจนเกินไป

เพราะฉะนั้นฉันจะเป็นเพื่อนกับนายแบบนางแบบไปทำไม? ฉันได้แต่แอบคิดว่าจะปลีกตัวไปตอนนี้ได้ไหม ขณะนั้นเองเลอาห์ก็เอ่ยทักทายพวกเราด้วยรอยยิ้มสวยหวาน “สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก”

เอ๋...? แปลกทีเดียว เลอาห์ไม่ได้หยิ่งใส่พวกเราอย่างที่ฉันระแวงไว้...บางทีอาจมีอเล็กซ์คนเดียวที่นิสัยแย่ก็ได้

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ” ฉันกับแอนรีบตอบ อา...เมื่อได้เห็นตัวจริงใกล้ๆ ฉันก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเลอาห์ถึงก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบระดับท็อปคลาสได้ในเวลาไม่นาน ด้วยใบหน้าแบบลูกครึ่งที่โดดเด่นของเธอ รอยยิ้มที่มองแล้วราวกับตกอยู่ในมนตรา ไหนจะรูปร่างได้สัดส่วนและเอวที่เล็กบางอย่างไร้ที่ตินั่นอีก ที่สำคัญดูเธอจะเป็นกันเองและเข้ากับคนง่ายอย่างเหลือเชื่อ

ต่อมาไรอันก็แนะนำเพื่อนสองคนสุดท้ายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันให้ฉันกับแอนรู้จัก “แล้วนี่ลูก้ากับโรเซีย เป็นแฟนกัน”

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันกับแอนพูดแทบจะพร้อมกัน ต่างก็นิ่งอึ้งไป ฉันไม่เคยเห็นสองคนนี้ตามหน้าแมกกาซีนมาก่อน ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ดังแต่คงเพราะฉันอ่านแมกกาซีนน้อยไป ดูก็รู้ว่าพวกเขาเป็นนายแบบและนางแบบชั้นนำ การมองพวกเขาทำให้ฉันเหมือนตกอยู่ในความฝัน และแอนเองก็คงรู้สึกอย่างเดียวกัน เหมือนราวกับกำลังมองภาพวาดแสนสวยที่แสนล้ำค่า และนั่นก็เพราะความงดงามอย่างไร้ที่ติของพวกเขา

“สวัสดีจ้ะอัยย์กับแอนน์” โรเซียส่งยิ้มให้พวกเรา และรอยยิ้มของเธอก็งดงามราวกับไม่ใช่ความจริง ในขณะที่โรเซียดูไร้ที่ติราวกับเจ้าหญิงลูก้าก็ดูราวกับเจ้าชายฝาแฝดที่แสนจะสง่างามของเธอ อาจจริงอย่างที่ใครบางคนกล่าวไว้ว่าคนที่เป็นเนื้อคู่กันจะหน้าตาเหมือนกัน โรเซียมีดวงตาสีน้ำตาลเจือแดงราวกับท้องฟ้าในเวลาทไวไลท์ เส้นผมยาวหยักเป็นลอนหนาสีเดียวกัน ส่วนลูก้าเป็นผู้ชายหน้าสวยที่ดูหล่อเหลาสุดขีดอย่างไร้ข้อกังขา รูปร่างไร้ที่ติ และหน้าตาก็คมคายยิ่งกว่าภาพวาดเสียอีก ที่สำคัญสองคนนี้ดูใจกว้างและน่าคบพอๆ กับไรอันเลยทีเดียว

“ฉันอยากชวนอัยย์กับแอนไปเที่ยวกับเรา พวกเราจะได้มีเพื่อนคนไทยเพิ่มขึ้น” ไรอันบอกเพื่อนๆ ของเขา เลอาห์ ลูก้าและโรเซียยิ้มร่าเริงเมื่อได้ยินข้อเสนอนั้น ผิดกันลิบลับกับอเล็กซ์ที่ยืนอยู่ติดๆ กัน คนอันตรายคนนั้นไม่ได้ยิ้มง่ายเหมือนเพื่อนคนอื่นของเขาเลยสักนิด เจ้าของใบหน้าราวกับรูปสลักเวลานี้ดูมึนตึงและเย็นชาเมื่อเอ่ยถามไรอันอย่างไม่ไว้หน้า

“ไรอัน นายยังไม่ได้ถามฉันเลยว่าฉันอยากมีเพื่อนใหม่หรือเปล่า”

เขาหยาบคายกว่าที่ฉันคิดไว้ บางทีเขาอาจนิสัยแย่กว่าที่ฉันเคยได้ยินมาก็ได้

“อ้าว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะอเล็กซ์” ไรอันใบหน้าซีดเผือดลงเมื่อเห็นสายตาดุดันของเพื่อนสนิท “โทษที ฉันไม่นึกว่านายจะหงุดหงิด ก็เห็นทุกทีนายออกจะตามใจฉันตลอด ไม่นึกว่าเรื่องแค่นี้...”

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณจะไม่พอใจ พวกเราผิดเองที่เดินตามไรอันมา” แอนรีบช่วยไรอันแก้ตัว ดูเดือดร้อนสุดขีดทีเดียวที่ทำให้อเล็กซ์อารมณ์เสีย “ถ้างั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอให้พวกคุณสนุกกันมากๆ ก็แล้วกัน พวกเราไปก่อนนะคะ”

แต่แล้วทันทีที่แอนลากมือฉันเพื่อวิ่งออกไปจากที่นั่นอเล็กซ์ก็พูดขึ้น “เดี๋ยวสิครับ กับคุณผมไม่มีปัญหาหรือรังเกียจอะไร”

แอนชะงักฝีเท้าด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะปรากฏสีแดงจัดบนใบหน้าและแผ่ไปทั่วทั้งตัวเธอเมื่ออเล็กซ์หยักยิ้มให้ และให้ตายสิ ฉันไม่ชอบเลยที่ยิ้มของเขามีเสน่ห์อย่างร้ายกาจจนเพื่อนของฉันแทบจะละลาย

“ผมแค่อยากให้ไรอันถามผมก่อนทุกเรื่องเท่านั้น เขารู้ดีว่าผมไม่ใช่คนที่เข้ากับใครง่ายๆ” แล้วอเล็กซ์ก็กราดมองไรอันด้วยสายตานิ่งแข็งที่ทำให้คนถูกมองได้แต่ยิ้มแห้งๆ “นายเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม? ”

“โอเคๆ ฉันผิดไปแล้ว โทษที”

เห็นได้ชัดเจนว่าอเล็กซ์มีบารมีพอจะเรียกตัวเองว่าหัวหน้าแก๊งหรือลูกพี่ของไรอันได้ ว่าแต่เขาพูดว่า ‘กับคุณ’ อย่างนั้นเหรอ? โอเค ฉันอาจจะคิดมากไปเอง แต่ฉันรู้สึกเหมือนอเล็กซ์ตั้งใจชวนแต่แอน เพราะเขาไม่ได้บอกว่า ‘กับพวกคุณ’ จริงไหม? บางทีเขาอาจจะหมายถึงให้แอนเข้าแก๊งและให้ฉันวิ่งกลับห้องไปก็ได้ แต่ฉันไม่ได้โทษอเล็กซ์เลย อีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากมายืนอยู่ตรงนี้ให้เขารำคาญตาเลย สาบานได้

“นั่งสิ” อเล็กซ์ลุกขึ้นและดึงเก้าอี้มาเพิ่มข้างๆ เขาสองตัว คำเชิญของเขาทำให้แอนที่หน้าแดงอยู่แล้วหน้าแดงขึ้นไปอีก เธอดูน่าหวาดเสียวเหมือนลูกโป่งสีแดงแปร๊ดที่พร้อมจะแตกโพละเอาง่ายๆ อีกพักใหญ่กว่าเธอจะหายเขินอเล็กซ์และกล้าจ่อมตัวลงบนเก้าอี้

“นั่งสิอัยย์” ไรอันชวนฉันเมื่อเห็นฉันยืนเก้ๆ กังๆ แถมยังทำตัวเหมือนจะหนีกลับห้องด้วยซ้ำ

“ฉันอยากจะกลับไปห้องก่อนน่ะ” ฉันบอกไรอัน คิดว่าคงไม่สนุกแน่ที่จะมีเพื่อนใหม่เป็นอเล็กซ์ แวนครอฟ

“ไม่เอาน่าอัยย์ มาถึงนี่แล้วอยู่ๆ จะรีบกลับทำไม? ” ไรอันไม่ยอม

“ฉัน...”

“ปล่อยเธอกลับห้องไปเถอะถ้าหยิ่งขนาดนั้น” อเล็กซ์ขัดขึ้นด้วยคำพูดที่ทำให้ฉันเจ็บจี๊ดขึ้นมา ทำให้เพื่อนๆ หันไปตำหนิอเล็กซ์ที่ว่าฉัน

“ฉันไม่ได้หยิ่งนะ” ฉันรีบแก้ตัว “ฉันแค่...”

“ถือตัว” อเล็กซ์บอก

“เปล่า ฉันแค่...” เกลียดคนหยิ่ง...ฉันกำลังจะบอกแบบนั้น แต่คำแก้ตัวของฉันกลับเลือนหายไปเมื่อสายตาสงสัยของคนอื่นๆ จ้องมองมา

...เหมือนคำว่าหยิ่งกำลังย้อนกลับมาที่ตัวฉัน และทุกคนกำลังรอดูว่าฉันเป็นคนแบบนั้นจริงไหมถึงได้ไม่ยอมอยู่ที่นี่... แต่ฉันไม่ใช่คนหยิ่งสักหน่อย ฉันเกลียดคนแบบนั้นจะตาย เพราะฉะนั้นฉันจะพิสูจน์ให้ดูก็ได้!

ฟึ่บ ฉันนั่งลง แต่เพราะอเล็กซ์ลากเก้าอี้มาต่อข้างๆ ตัวเขาในขณะที่แอนเลือกนั่งเก้าอี้ตัวที่ติดกับไรอัน ฉันก็เลยต้องนั่งข้างอเล็กซ์ บางอย่างทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังจะโชคร้าย

“ชื่ออัยย์? ” อยู่ๆ อเล็กซ์ก็ถามฉันด้วยเสียงสั้นห้วน ดวงตาคมเข้มไม่ได้มองฉันทว่ามองตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังคุยกันราวกับไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าฉัน

“ใช่” ฉันตอบโดยไม่มองเขาเช่นกัน สายตาจับอยู่ที่กลุ่มเพื่อนของ

อเล็กซ์ที่กำลังพูดคุยกัน

“มาจากไหน? ”

“แถวๆ นี้” ในเมื่อเขาถามห้วนฉันก็ตอบห้วนได้ แต่ใบหน้าของอเล็กซ์ไม่ปรากฏรอยยิ้มเลย ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกไต่สวนความผิดที่ได้สบประมาทเขาลงไป

“พักกี่คืน? ” เขาถามอีก

“เจ็ด”

“กับใคร? ”

“กับแอน”

เขานิ่งไป

“มากันสองคน” ฉันบอกเพิ่ม

เขาเงียบไปอีกก่อนจะพูดสั้นๆ “โอเค”

ฉันกระพริบตาปริบๆ กับคำพูดที่ฟังสั้นจนไม่รู้เรื่องของอเล็กซ์ คำว่า “โอเค” ของเขาหมายถึงอะไร? เขาหมายถึงฉันมีฐานะพอจะอยู่ในระยะสิบเมตรข้างเขาได้โดยเขาไม่ต้องปัดฝุ่นบนเสื้อของตัวเองเหรอ? ใครจะรู้ แต่ก็ช่างเหอะ ฉันกับเขาคงไม่มีทางคุยกันได้ และเขาก็ดูเหมือนจะต้องพยายามมากจนรู้สึกขัดใจที่ต้องลดตัวลงมาคุยกับคนอย่างฉัน เขาถึงได้พูดจาห้วนสั้นแบบนั้น

แล้วอเล็กซ์ก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรฉันอีก ฉันก็เหมือนกัน มีแต่เพื่อนๆ ตรงหน้าเท่านั้นที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อไป

เวลาผ่านไปราวสิบนาที พอนั่งฟังอเล็กซ์และเพื่อนของเขาคุยกันจริงๆ ฉันก็ต้องแปลกใจที่อเล็กซ์ไม่ได้เลวร้ายหรือเย็นชาอย่างที่ฉันคิดไว้ เขาออกจะมีเสน่ห์และใจดีกับเพื่อนด้วยซ้ำไป ท่าทางของอเล็กซ์ดูสบายๆ นอกจากนี้เขายังห่วงใยเพื่อนทุกคน ติดอยู่นิดหนึ่งว่าเขาออกจะเงียบไปสักหน่อยเท่านั้น และฉันประหลาดใจที่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าดุดันแบบที่ริมสระเมื่อบ่ายนี้ให้ฉันเห็นอีกเลย

จะว่าไปตอนนั้นฉันก็ทำตัวก้าวร้าวเกินไปเหมือนกัน ฉันใจร้อนตัดสินโทษเขาไปก่อนเพราะเห็นว่าเขาเป็นนายแบบชื่อดัง ส่วนแอนตอนนี้เธอกำลังหัวเราะคิกคักกับเพื่อนใหม่ทุกคนยกเว้นอเล็กซ์เหมือนรู้จักกันมาหลายปียังไงยังงั้น

“พวกเราเป็นเพื่อนของอเล็กซ์ที่อังกฤษ แต่เพราะนานๆ ครั้งอเล็กซ์ถึงจะได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยพวกเราก็เลยต้องฉวยโอกาสรีบตามมาเที่ยวด้วย” โรเซียเล่าให้แอนฟังเมื่อถูกถามว่าทำไมเธอกับลูก้าถึงมาอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ได้ และอเล็กซ์ที่ฟังอยู่ก็ร่วมบทสนทนาด้วยการมองเรานิ่งๆ พลางจิบเตกิล่าสีสวยด้วยท่าเอนหลังสบายๆ

เลอาห์มักอยู่เคียงข้างอเล็กซ์ เธอชอบเคลื่อนแขนเล็กบางไปโอบเหนือไหล่กว้างของเขา หรือไม่ก็ขยี้เส้นผมสีดำสนิทของเขาราวกับสัมผัสเล่นกับเส้นไหม นานๆ ครั้งเธอจะผละจากอเล็กซ์ไปที่สระเพื่อเล่นน้ำบ้าง และเมื่ออยู่ในห้วงน้ำสีฟ้าเรืองแสงเธอก็ดูราวกับเจ้าหญิงเงือกที่แสนจะน่าหลงใหล

“คนติดตามเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะอเล็กซ์” อยู่ๆ ไรอันก็พูดขึ้นพลางยื่นโทรศัพท์ที่เปิดหน้าไอจีของอเล็กซ์ให้เจ้าตัวดู ก่อนจะถามต่อเมื่อเห็นว่า

อเล็กซ์ดูนิ่งเฉยกับยอดผู้ติดตามของตัวเอง “ได้เช็คไอจีมั่งหรือเปล่านายน่ะ? ”

“เช็คบ้าง” อเล็กซ์ตอบสั้นๆ น้ำเสียงราวกับไม่สนใจความป๊อปปูล่าร์ของตัวเอง

“ชอบหรือเปล่า? ” ไรอันถามอีก

“ไม่รู้สิ”

“ไม่รู้? ”

“มันไม่สำคัญหรอก”

คำตอบของเพื่อนทำให้ไรอันงุนงง หากแต่อเล็กซ์ไม่ใส่ใจปฏิกิริยาประหลาดใจนั้นสักนิด เขาปล่อยให้เพื่อนๆ ที่ยังตื่นเต้นกับไอจีของเขาส่งมือถือไปรอบๆ เพื่อแบ่งกันดู เมื่อแอนดูเสร็จด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นจนแทบหัวใจวายมือถือที่ประดับด้วยรูปของอเล็กซ์บนหน้าจอก็ถูกส่งต่อมาถึงฉันบ้าง

ฉันเลื่อนดูภาพของอเล็กซ์ตามมารยาท และถึงจะไม่อยากยอมรับเพราะไม่อยากทำให้เขาได้ใจ ทว่าแต่ละภาพของนายแบบอินเตอร์อย่างผู้ชายคนนี้ช่างดูไร้ที่ติจริงๆ ใบหน้าของเขาคมสวยน่ามอง การโพสต์ท่าก็สมบูรณ์แบบ ทุกรูปล้วนแต่หล่อเหลาและลงตัวอย่างยากจะอธิบายหรือละสายตาไปได้ เส้นผมและคิ้วสีดำสนิทกับผิวที่ขาวจัดของเขาดูจะเป็นคู่ตรงข้ามที่ผสานกันอย่างลงตัว เขาเป็นลูกครึ่งที่ถูกสร้างได้น่ามองที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel