บทนำ
บทนำ
เธอคือหงษ์สุดสง่า เธอคือคุณหนูพันล้าน และเธอคือคุณหนูถังแตก…
“กล้าดียังไง มาแย่งแฟนฉัน!!”
หญิงสาวตะโกนก้องเมื่อเปิดประตูห้องภาพเข้ามาเห็นริวแฟนหนุ่มของเธออยู่กับอิงฟ้าสองต่อสองในห้องสูทของโรงแรม ใช่! มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากเรื่องทั้งคู่กำลังสวมเขาให้เธอ
“เดี๋ยวไอ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ” ตอนนี้เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น ความโกรธทำให้เธอหูดับไปชั่วขณะ ราวกว่าความคิดไอรีนเดินเข้าไปกระชากกผมอิงฟ้าฟาดฝ่ามือลงบนหน้าเธอซ้ำไปซ้ำมาราวคนสติหลุด
แชะ! แชะ! แชะ!
นอกจากเสียงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้างามๆ นั้นแล้ว เธอก็ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงอื่นที่ช่วยดึงสติเธอกลับมามือง้างค้างอยู่กลางอากาศ เธอค่อยๆ หันไปมองทางต้นเสียงที่ชวนเอาเสียวสันหลังวาบ แสงแฟลชสาดใส่หน้าเธอรัวๆ จนทำเอามึนงงไปหมด…
นักข่าวมาได้ยังไง… ใครเป็นคนเรียก
นั่นแหละ จุดเริ่มต้นความตกต่ำของชีวิตเธอ จากคุณหนูพันล้านสู่ยาจกที่หนี้ท่วมหัวเพียงเพราะความผิดพลาดขาดสติของเธอแค่ครั้งเดียว
Rrr Rrr
เฮือก!
ไอรีนเบิกตาโพลง หัวใจเต้นแรง หายใจกระชั้นราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งรอบสนามมาเป็นสิบๆ รอบ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือปลุกให้เธอตื่นจากฝันร้ายที่ยังคงตามมาหลอกหลอนไม่เลิกรา
เธอควานหาโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอก็ต้องทำเสียงฟึดฟัดอย่างหงุดหงิด
“โทรมาทำไมแต่เช้าเนี่ย”
ถึงปากจะบ่นและไม่อยากรับสักแค่ไหนแต่เธอก็จำใจต้องกดรับสายอย่างเสียไม่ได้
“ฮัลโหล”
เสียงที่กรอกใส่ปลายสายแทบจะเป็นเสียงตวาด ด้วยความที่ยังรู้สึกขุ่นเคืองเรื่องเมื่อคืนไม่หาย
[ไปเที่ยวกัน]
แต่ปลายสายกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ทั้งที่เมื่อคืนเล่นด่าเธอตรงหน้าคนอื่นซะเละเลย แต่นี่ยังผ่านไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำกลับทำตัวดี๊ด๊าเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น เกลียดชะมัด
“ไม่! แค่นี้นะ!”
ไอรีนตะคอกใส่ปลายสายและกำลังจะกดตัดสาย แต่ได้ยินบางสิ่งที่น่าสนใจซะก่อน
[แต่เอ๊ะ แอร์แม็สเพิ่งออกคอลเลคชั่นใหม่นี่นา ได้ยินว่าคนแถวนี้อยากได้ หรือว่าฉันจะจำผิด งั้นแค่นี้แหละ ขอโทษที่โทรมารบกวน]
“เดี๋ยวๆๆ! กี่โมงว่ามา” ไอรีนรีบเบรกปลายสายเอาไว้แทบไม่ทัน
ได้ยินแค่เท่านั้นก็สามารถทำให้เธอหางกระดิกเป็นลูกหมาได้แล้ว อะไรที่เคยโกรธ นี่หายเป็นปลิดทิ้งเลย เขาหัวเราะ แหงสิ ก็เขารู้ทันเธอทุกอย่าง เขารู้ว่าทำยังไงถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ นี่แหละ ผู้ชายที่ชื่อ ‘ไคริล’
[อีกครึ่งชั่วโมง ลงมารอได้เลย]
“โอเค ดีล”
หลังจากเขาตัดสาย ไอรีนก็รีบเด้งตัวคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำทันที
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ไอรีนเดินออกมาจากบ้านก็เห็นรถBMWสีน้ำเงินจอดรออยู่หน้าบ้านแล้วพร้อมกับร่างสูงในชุดออลแบล็กที่ชอบใส่เป็นประจำซึ่งมันช่วยทำให้เขาดูเท่และโดดเด่นขึ้นมากจริงๆ ผมสีน้ำตาลธรรมชาติ แซกข้างยุ่งๆ ใบหน้าเรียว จมูกโด่ง ปากรูปกระจับราวกับผู้หญิง จะเรียกว่าเป็นผู้ชายหน้าหวานก็ได้ แต่นิสัยเขาไม่ได้หวานเหมือนหน้าหรอกนะ ออกจะคุ้มดีคุ้มร้าย เดาใจยาก
“นี่ฉันลงมาช้าหรือนายมาเร็ว”
ไอรีนกระเซ้า ไคริลถอดแว่นกันแดดสีชาเสียบกับคอเสื้อเชิ้ตสีดำก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปาก
“ก็ต้องเป็นฉันสิที่มาเร็ว แหม ขึ้นรถดีกว่า เบ๊บ”
“โอ๊ย ขนลุกชะมัด”
โดนไคริลเรียกแบบนี้ไอรีนแทบจะก้าวขาไม่ออกรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาเลย แต่ท่าทางแบบนั้นกลับทำให้ไคริลชอบใจจนต้องหัวเราะออกมาอย่างขบขันที่สามารถแกล้งหญิงสาวตรงหน้าได้สำเร็จก่อนจะเดินมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ไอรีน
“ไม่ขอบคุณนะ”
เธอประชดพลางสอดตัวเข้าไปในรถ แต่ก่อนที่ประตูจะปิดไอรีนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคำก่อนที่เขาจะเดินอ้อมมานั่งประจำที่นั่งคนขับหลังพวงมาลัย
“วันนี้นึกยังไงชวนมาช็อปปิ้ง”
ไอรีนถามขณะที่รถมุ่งหน้าไปด้วยความเร็วกว่าร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งคาดว่าเป้าหมายน่าจะเป็นเซนทรัลภูเก็ต ห้างสรรพสินค้าประจำเมืองที่ประจำของเขา
“ปลอบใจน่ะ”
“หือ?”
“เมื่อคืนขอโทษนะที่ด่าเธอต่อหน้าทุกคนแถมแรงซะด้วย ไม่โกรธใช่มั้ย”
ไคริลยื่นมือมาลูบหัวเธอเบาๆ อย่างปลอบโยน เขารู้ว่าเธอโกรธเขามากแน่ๆ แถมยังรู้อีกด้วยว่าเธอแอบไปร้องไห้ที่หลังร้านวันนี้เธอพาเธอมาปลอบใจและไถ่โทษ
สัมผัสนั้นทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของไอรีนเหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยง นี่คือการตบหัวแล้วลูบหลังแบบที่เขาชอบทำซึ่งทำเอาเกลียดไม่ลงสักที
“เหนื่อยใช่มั้ยล่ะ ฉันใจร้ายไปหรือเปล่านะ”
แววตาคู่นั้นหันมามองเธออย่างเป็นห่วงระคนสำนึกผิด ไอรีนสบตาคู่นั้นก่อนจะเบนหน้าหนีไปทางกระจกเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
“ก็รู้ตัวนิ”
ถึงจะใจอ่อนตั้งแต่ได้ยินคำว่ากระเป๋าแอร์แมส แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอน้อยใจเขามากๆ แต่ขืนแสดงความรู้สึกมากเกินไปก็จะทำให้เขาได้ใจ แค่นี้ก็ตกเป็นเบี้ยล่างของเขามากพอแล้ว
“ก็ถึงได้พามาปลอบใจนี่ไง วันนี้อยากทำอะไร อยากได้อะไร เต็มที่เลยนะ พี่พร้อมเปย์คร้าบ”
ฟังมาถึงตรงนี้คงจะคิดว่าเขาสองคนเป็นแฟนกันสินะ แต่เข้าใจผิดแล้วพวกเขาเป็นแค่เจ้านายและลูกน้อง แต่เจ้านายที่ไหนจะใจดีซื้อของราคาแพงๆ ให้ลูกน้องล่ะจริงมั้ย อืม จะว่ายังไงดี เรื่องมันยาวเลยล่ะ
เขาเป็นทั้งเจ้านาย เป็นทั้งเจ้าหนี้ และเป็นทั้ง FWB ที่ไม่ได้แปลว่าแฟน และคงไม่มีวันได้เป็น…
พร้อมฟังหรือเปล่า… จุดเริ่มต้นของมันน่ะ
