EP.5
“นั่นมันอะไร” วานิลาขมวดคิ้วมองที่หน้าจอใหญ่เจอชิ้นอุกกาบาตกระจัดกระจายจนยานต้องหลบหลีกจนกระทั่งไฟติดกลับมาปกติ แพรอทเดินเข้ามายืนข้างๆ เช่นเดียวกับวิคเตอร์ที่รีบวิ่งพาทีมเข้ามามองดูเหตุการณ์
“เกิดอะไรขึ้นกัปตัน” คำถามเคร่งขรึมพร้อมเดินเข้ามาดูเรดาห์
“ไม่มีอะไรแค่เฉี่ยวอุกกาบาต”
“อุกกาบาต” ทวนคำมองจอแสดงผลก่อนลดหันข้างเจอสายตาแพรอทกำลังเบิกตาโต
“แพรอท!”
“พี่วิคเตอร์” ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
“มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ถ้าแพรอทอยู่นี่ วานิลาก็ต้อง…” ไม่ทันได้คิด ผู้หญิงที่หลบหลังแพรอทก้าวออกมา
“พี่วิคเตอร์” ยิ้มแห้งยกมือทักทายอย่างจำนน วิคเตอร์มองสองสาวอย่างตกใจ
“ไว้เราค่อยเคลียร์กันนอกรอบ” แม้สงสัยมีคำถามมากมายในหัวแต่จำต้องตัดบทหันมองวิกฤตที่ปรากฏบนจอ “นั่นอุกกาบาตอะไรทำไมเรดาห์ตรวจจับไม่ได้”
“เป็นไปได้ยังไง” กัปตันสาวพยายามประคองนิ่งมองสิ่งตรงหน้าขนาดใหญ่ขวางเส้นทาง
“ยิงทิ้งเลยไหม” โอเวอร์ยื่นข้อเสนอตามสัญชาตญาณ
“หยุดความคิดนั่นซะ เราจะไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ แค่หักหลบ พวกทหารไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น” สวนกลับทันควันทำโอเวอร์งับปากชี้มือแซวไปกับไครส์
“มีเผ่าพันธุ์อื่นหรือเอเลี่ยนหรือเปล่า” เซราเท่าเอวฉีกยิ้มกว้างต่างจากสายตาเฉียบคม
“มีแต่ในหนังมากกว่า” เหมยลี่ฉีกยิ้มตอบกลับสร้างความขบขัน
กรุณาคาดเข็มขัด กรุณาคาดเข็มขัด
เสียงประกาศทำให้วิคเตอร์มองหน้าวานิลาให้เดินตามตนกลับห้องรับรองปล่อยให้เหล่านักบินอวกาศจัดการ
ห้องรับรอง
ความตึงเครียดแทบกลบชั้นบรรยากาศอยู่ภายในห้องระหว่างสองพี่น้องตระกูลแองโควเวอร์ เซราแบ่งช็อกโกแลตให้แพรอทราวกับสนิทสนม โอเวอรเห็นแล้วถึงกับถอยห่างไปอยู่ข้างไครส์
“เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหน ไม่คิดรายงาน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แม่จะเป็นห่วงแค่ไหน”
“ฉันได้รางวัล เห็นพี่ไม่อยู่เลยไม่ได้บอกใคร ว่าแต่พี่เถอะเป็นทหารมีส่วนร่วมอะไรในอวกาศ เป็นนักสำรวจตั้งแต่เมื่อไหร่” ไม่สำนึกซ้ำยอกย้อนสบตาพี่ชายที่มีสีหน้าวิตก
“มันคืองาน”
“มากกว่างานปกติแน่นอน ดูหน้ากัปตันไม่ชื่นชมทหารเข้ามายุ่งวุ่นวายด้วยซ้ำ พวกพี่มาทำอะไรกันแน่ สำหรับฉันกับแพรอทได้รางวัลชิงโชค แต่พวกพี่เป็นทหาร ไม่มีเหตุผลต้องมาบนดวงจันทร์”
“รู้แค่ว่าหน้าที่ เรามีความผิดอยู่อย่าย้อน” วิคเตอร์สวนกลับด้วยความหนักใจ
“ผู้พัน ดูนั่น” โอเวอร์เหลือบเห็นยานอวกาศจอดแน่นิ่งอยู่บนดวงจันทร์ทำให้เขาต้องรีบมาดูหน้าจอแสดงผลติดตามห้องต่างๆ สะท้อนการฉายจอใหญ่ ไม่ทันได้คิดสิ่งใดการปรากฏตัวของกัปตันเดินดุ่มเข้ามายกมือตบหน้าเขาทันที
“นี่คือสาเหตุที่พวกคุณขึ้นยานฉันมาใช่ไหม นั่นมันยานที่ถูกขโมยมาของ ดร.ซุส ต้องการอะไรกันแน่ผู้พัน!” ความเดือดดาลปะทะทันทีเมื่อรู้ความจริงถึงสาเหตุแต่ยังไม่กระจ่างเสียทั้งหมด วิคเตอร์จับแก้มตนเองก่อนยืนประชัน
“ผมรับหน้าที่นำยานที่ถูกขโมยกลับโลกทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบ”
“แค่นั้น ใช่รึ แล้วผู้หญิงสองคนนี้เป็นทหารด้วยหรือเปล่าผู้พัน” สายตามองไปทางเหมยลี่กับเซราอย่างจับผิดเพื่อต้อนให้คนตรงหน้ายอมรับและปริปากพูดความจริง
“แค่มาร่วมทีมกับผม”
“งั้นรึ รู้อะไรไหมผู้พัน การออกนอกโลกได้ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าไม่ผ่านการอนุมัติ การนำยานกลับทหารกล้าตายอย่างคุณทำได้ไม่ยาก นอกจากพวกเธอมีความรู้บางอย่างที่พวกคุณไม่ถนัด”
“คิดมาไปหรือเปล่ากัปตัน” ยังคงยืนหยัดยืนยัน
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าพวกคุณมีแผนการอะไร ตราบใดที่คุณอยู่ในยานของฉัน อย่าทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง ให้ความเคารพกันบ้างผู้พัน ฉันชักหมดความอดทน”
“รับประกันจะไม่วุ่นวายการสำรวจของกัปตัน”
“ให้มันจริง วานิลากับแพรอทอยู่ในการดูแลของฉัน อย่าเอาพวกเธอไปอยู่ในขบวนการของคุณ” ว่าจบเดินชนไหล่จากไปด้วยความโมโห วิคเตอร์ถึงกับผ่อนลมหายใจยาวมองหน้าทุกคน
