บท
ตั้งค่า

1.ไม่ได้บังคับ

วันที่2 เดือนมกราคา 2563

“เชอรีน เชอรีนดา นักแสดงสาวชื่อดังได้มีภาพหลุดกับไฮโซม.”

“มีข่าววงในรายงานว่า เชอรีน เชอรีนดานั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับไฮโซม. ซึ่งตัวไฮโซม.นั้นมีภรรยาอยู่แล้ว”

“ไฮโซม. ออกมาโต้ข่าวฉาวว่าไม่เป็นความจริง และปฏิเสธว่าไม่ได้รู้จักกับดาราสาวเป็นการส่วนตัว”

“มีรายงานมาว่า ดาราอักษรย่อ ช. สนิทสนมกับผู้กำกับจึงได้เล่นบทนางเอก..”

“แฟนคลับออกมาแสดงจุดยืน เลิกสนับสนุนดาราช.ทุกช่องทาง พร้อมกับแสดงความผิดหวังในตัวของดาราสาว..”

“ภายหลังถึงแม้ว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นการเต้าข่าวขึ้นมาและที่มาของรูปก็เป็นการตัดต่อ แต่ทว่าชื่อเสียงของดาราสาวกลับไม่สามารถกู้คืนได้แล้ว...”

ทุกคนค่อยๆ หลงลืมชื่อของเชอรีน เชอรีนดาไปอย่างช้าๆ จนในตอนนี้ไม่มีใครจำได้แล้วว่าครั้งหนึ่ง..เคยมีนักแสดงที่ชื่อว่าเชอรีนดา

“พี่คะ ถ้าพี่ไม่เลิกเล่นเกมนี่ ครั้งนี้ฉันจะให้พ่อตัดเน็ตพี่นะคะ! ลุกออกมาแล้วมาทานมื้อเช้าได้แล้ว นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนพี่ยังไม่ได้นอนน่ะ”

เสียงบ่นที่แสนคุ้นหูนั้นทำให้รอยยิ้มหวานระบายอยู่บนใบหน้าของฉัน ถึงแม้ว่าจะถูกบ่นทุกเช้าแต่ทว่าฉันก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรหรอกนะ ตรงกันข้ามเลย..ฉันกลับชอบเสียงเล็กๆ นั่นที่มากวนใจอยู่ทุกวัน

“เข้าใจแล้วน่า..แต่รอพี่หน่อยสิพี่กำลังจะจบบ้านอีกฝ่ายได้แล้ว เหลือป้อมสุดท้ายแล้วเนี่ย! เข้าใจกันหน่อยสิว่านี่ไม่ใช่เกมที่จะหยุดพักได้อีกทั้งพี่กำลังลงแรงค์อยู่ด้วยนะ”

พลอยใสส่ายหน้าเบาๆ เธอเดินไปเปิดม่านหน้าต่างออกเพื่อให้แสงแดดภายนอกสาดส่องเข้ามาบ้าง นี่เป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอทุกวัน..รอยยิ้มที่แสนสวยงามราวกับภาพวาดมากกว่าที่จะเป็นคนจริงๆ

พี่เชอรีนเป็นแบบนั้น เปล่งประกายถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานที่มืดมิดเช่นนี้ หลังจากที่มีข่าวเช่นนั้นออกไป จากนักแสดงที่กำลังรุ่งโรจน์ถึงขีดสุด กลับกลายเป็นดาราตกอับที่ไม่มีใครกล้าจ้าง ถึงแม้ว่าภายหลังเธอและพ่อจะสามารถหาหลักฐานมาลบเรื่องข่าวลือพวกนั้นแล้วก็เถอะ แต่การจะเรียกความเชื่อมั่นและชื่อเสียงที่เสียไปแล้วจากแฟนคลับกลับมานั้นมันยาก

พ่อของเธอเปิดบริษัทดูแลนักแสดงหรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นพวกแมวมองที่คอยทาบทามให้ผู้หญิงหรือว่าผู้ชายหน้าตาดีมาเข้าร่วมสังกัด และพี่เชอรีนคือเพชรเม็ดงามของพ่อเลย..จริงอยู่ที่เราไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันเลย แต่ทว่าพ่อของเธอก็รักพี่เชอรีนเหมือนลูกแท้ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีงานเข้ามาแต่ก็ยังคงเลี้ยงดูพี่เชอรีนอย่างดีเหมือนเดิม..

อีกทั้งหลังจากเรื่องวันนั้นพี่เชอรีนก็มีอาการแพนิคในช่วงเวลาที่ออกไปข้างนอกบ้านหรือแม้กระทั่งออกไปในที่ที่มีคนเยอะๆ เมื่อเห็นอาการป่วยของพี่เชอรีน พ่อก็เลยให้พี่เชอรีนคอยทำงานเบื้องหลังแทนอย่างเช่นการจัดการตารางคิวงานและคอยติดต่องานอะไรแบบนั้น..

จะว่าไปแล้วก็น่าเสียดายนะที่คนสวยๆ แบบนี้..กลับใช้ชีวิตอยู่ในห้องมืดๆ นี่คนเดียวไม่ออกไปไหน ทั้งๆ ที่พี่เชอรีนสามารถเปล่งประกายได้มากกว่านั้นแท้ๆ

“ติ้ง!!”

เสียงข้อความในโทรศัพท์ที่เอาไว้ทำงานดังขึ้นมา พร้อมกับแชทที่ทวงถามว่าน้องในสังกัดของเธอไปไหนกัน ป่านนี้ยังไม่ถึงกองถ่าย

“คุณลุงไปไหนเหรอ เห็นว่าวันนี้มีคิวที่จะต้องพานักแสดงใหม่ไปกองถ่าย คนที่กองทักมาถาม..”

เชอรีนเอ่ยถามพลอยใส เธอวางมือถือที่กำลังเล่นเกมลงในทันที เพราะหากว่าเป็นเรื่องงานเชอรีนจริงจังอยู่เสมอ

พลอยใสเงียบไปพักหนึ่ง

“วันนี้พ่อยังไม่ได้ออกจากบ้านเลยนะ ตอนที่ฉันออกมาพ่อก็กำลังนั่งรอเจ้าหนี้มาเก็บดอกเบี้ย...!!”

เชอรีนยืนขึ้นในทันที ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งตามพลอยใสลงไปที่ด้านล่าง คอนโดของเธออยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณลุงภาคินสักเท่าไหร่ ลงมาชั้นล่างวิ่งอ้อมไปสองซอยก็ถึง และเมื่อมาถึงที่หน้าบ้าน สิ่งที่เชอรีนเห็นคือมีรถยนต์สีดำสองคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน

เธอจับมือของตัวเองที่กำลังสั่นเอาไว้ ในช่วงเวลาที่มีสายตานับสิบคู่มองมา

“พี่รออยู่ข้างนอกก็ได้ เดี๋ยวฉันเข้าไปเอง..”

เชอรีนจับมือของพลอยใสเอาไว้

“พี่..มะ..ไม่เป็นไร พี่จะเข้าไปด้วย”

มีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด ปกติเจ้าหนี้ของคุณลุงไม่ได้ขับรถหรูแบบนี้มาเก็บหนี้สักหน่อย เจ้าหนี้ของเราคือเจ้เล้ง ที่ถึงจะปากร้ายไปหน่อยแต่แกใจดีมากเลยแล้วทำไมวันนี้..เจ้าหนี้ของเราถึงมาเก็บหนี้แบบใหม่แบบสับขนาดนี้นะ

“เซ็นชื่อลงไปสิ..แค่เท่านี้ทุกอย่างจะเรียบร้อยและดอกเบี้ยงวดแรกของเราก็ไม่ควรจะผิดนัด..ไม่อย่างนั้นนักแสดงในสังกัดของลุงจะต้องมาอยู่ภายใต้การดูแลของผมแทนนะครับ นี่ถือว่าผมใจดีมากๆ แล้วนะสำหรับพวกที่พูดได้แต่ทำไม่ได้น่ะ”

เชอรีนยืนอยู่ด้านหน้าประตูด้วยความรู้สึกประหม่า หัวใจของเธอเต้นแรงพร้อมกับมือที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อาการแพนิคเธอไม่ดีขึ้นเลย และเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอไม่ได้ออกมาพบเจอผู้คน จากที่คิดว่าตัวเองหายดีแล้วเพราะอาการไม่กำเริบขึ้นมาแต่มันกลายเป็นว่าเธอไม่ได้ดีขึ้นเลย

“นี่มันอะไรกันคะพ่อ? เจ้าหนี้ของเราไม่ใช่เจ้เล้งแล้วงั้นเรอะ!!”

พลอยใสถามพ่อของเธอที่กำลังนั่งห่อไหล่ด้วยความรู้สึกผิด

“พ่อ..ผิดเอง เพราะพ่ออยากให้ทิวเขาเป็นพระเอก พ่อก็เลยตอบรับคำขอที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้กองถ่าย..พ่อไม่คิดว่าจะต้องใช้เงินมากขนาดหลายสิบล้านขนาดนั้น..พ่อพลาดเองพลอย..อ๊ะ!! เชอรีนมาที่นี่ทำไมกัน อาการป่วยของหนูยังไม่หายดีเลยนี่”

เมื่อคุณลุงภาคินเอ่ยถึงชื่อของเธอขึ้นมา ผู้ชายที่นั่งหันหลังให้เธอในคราแรกก็หันหน้ามา ดวงตาคู่นั้นของเขาทำให้เธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรมาที่นี่เลย ใบหน้าของเขานั้นสมบูรณ์แบบราวกับพระเจ้าทรงปั้นแต่งใบหน้านั้นอย่างเต็มความสามารถของพระองค์ เขาปรายตามองหน้าเชอรีนก่อนจะหันกลับไปมองหน้าของลูกหนี้อีกครั้งหนึ่ง

ริมฝีปากของเขายกสูงขึ้นแต่ก็รีบกลับไปบึ้งตึงเช่นเดิมราวกับเขาไม่ยินดีจะให้ผู้ใดมองเห็นรอยยิ้มของเขา

“มีนักแสดงในสังกัดที่สวยขนาดนี้..ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะลุง ไม่อย่างนั้นหนี้สินของเราคงจะคุยกันง่ายขึ้นไปนานแล้ว”

ลุงภาคินยืนขึ้นในทันที

“เชอรีน..ไม่ใช่นักแสดงนะครับ..เธอไม่ได้เป็นนักแสดงในสังกัด..”

เขากำลังเปิดอ่านสัญญาของนักแสดงในสังกัดของลุงภาคินไปเรื่อยๆ จนมาเจอสัญญาของเชอรีน..

สิบปี และนี่พึ่งจะผ่านไปแปดปี ยังเหลือสัญญาอีกสองปี..ในการเป็นนักแสดงในสังกัดของลุงภาคิน

เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะชูสัญญาให้ลุงภาคินดู

“จริงอยู่ที่ผมนั้นใจกว้างและใจดีที่จะให้โอกาสลุงจ่ายดอกเบี้ยมาก่อน แต่ผมคิดว่าผมต้องการมัดจำนะครับลุงภาคิน..”

ลุงภาคินส่ายหน้าเร็วๆ

“เชอรีนแสดงไม่ได้นะครับ เธอป่วยอีกทั้ง..เธอไม่พร้อมที่จะกลับไปอยู่ในวงการ..”

“ก็ไม่ได้บอกให้กลับไปรับงานแสดงสักหน่อย..แค่จะให้เชอรีน..ชื่อเชอรีนสินะ แค่อยากให้เธอมาอยู่ในสังกัดของผมเป็นการชั่วคราว เอาไว้ลุงมีเงินมาใช้หนี้ผม ผมก็จะส่งตัวเธอคืนไป แค่นั้นเอง..เรื่องง่ายๆ หรือว่าลุงจะให้ผมพังที่นี่แล้วแย่งสัญญาของนักแสดงทุกคนของลุงไปก็เลือกเอาเลยครับ..ผมไม่ได้บังคับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel