บทที่ 2
“ลุงชมคะ ค่อยๆ เดินเข้ามานะคะ…” หลินพยุงคนไข้ที่ชื่อว่าลุงชมเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ ลินลดา ตามด้วยลูกสาวของลุงที่เดินตามเข้ามาติดๆ ลุงชมเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตที่ไม่ปกติก็คืออารมณ์สองขั้ว หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าไบโพลาก็ได้ แต่ไม่รุนแรงเท่าใดนัก อาการของลุงชมดีขึ้นมาก หลังจากมารักษากับเธอ
“ลุงชมคะ สวัสดีค่า~ ลินลดาคิดถึงลุงชมจังเลยไม่ได้เจอตั้งหลายวัน อยากฟังเรื่องเล่าสนุกๆ ของลุงชมมากๆ เลยค่ะ” ลินลดายกมือไหว้ลุงชมและเริ่มพูดคุยอย่างสนิทสนม
“หนูลินลดา ลุงได้เจอหนูสักที คนที่บ้านลุงไม่ค่อยมีใครอยากจะฟังเรื่องของลุงเลยสักคน ดูอย่างยัยจิ๊บสิเวลาฟังก็ทำเหมือนไม่อยากจะฟัง ลุงอยากมาหาหนูลินลดาทุกวันเลยลูก…” ลุงชมบอกก่อนจะหันไปมองค้อนลูกสาวที่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้ลินลดา
“จิ๊บก็ตั้งใจฟังนะพ่อ” จิ๊บประท้วงพ่อน้อยๆ อย่างไม่ใส่ใจอะไรมาก
“ลุงชมคะ คุณจิ๊บเป็นลูกสาวที่ดีมากเลยนะคะ พาลุงชมมาหาลินลดาทุกครั้งที่เรานัดกัน แล้วยังฟังลุงชมเล่าเรื่องสนุกๆ อีกที่คุณจิ๊บไม่แสดงอารมณ์ร่วมด้วยเพราะว่ากำลังตื่นเต้นกับเรื่องที่ลุงชมเล่าอยู่แน่ๆ เลย ใช่มั้ยคะ…คุณจิ๊บ” ลินลดาหันไปถามจิ๊บที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ลุงชม พร้อมทั้งขยิบตาให้เธอรีบเออออห่อหมกตามน้ำไปด้วย
“ใช่พ่อ หนูตื่นเต้นมากกับเรื่องที่พ่อเล่า หนูเลยแสดงอาการไม่ถูก…” ลินลดายิ้มเมื่อเห็นว่าวิธีนี้ได้ผล ลุงชมยิ้มกว้างพลางเริ่มเล่าเรื่องราวผจญภัยในอดีตของตนให้หมอสาวและลูกสาวฟัง ถึงเรื่องที่ลุงชมชอบเล่าจะเป็นเรื่องซ้ำๆ เหมือนเดิม แต่การที่มีคนเข้าใจและนั่งฟังไปด้วยนั้น จะทำให้ อารมณ์ของคนไข้คงที่มากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ลุงชมเล่าจบ ลินลดาก็เขียนใบสั่งยาและยื่นให้หลินพยาบาลสาว พร้อมทั้งบอกลาลุงชมกับจิ๊บ ซึ่งเป็นลูกสาว ก่อนจะเตรียมตัวเก็บของเพื่อขับรถกลับบ้าน แต่ดูเหมือนฝนฟ้าจะไม่เป็นใจ เมื่อทันทีที่เธอเดินออกมาจากอาคารของโรงพยาบาลเพื่อไปยังลานจอดรถ ฝนก็เทกระหน่ำลงมาจนเธอต้องรีบวิ่งไปหาที่หลบฝน
“ฝนมาตกอะไรตอนนี้เนี่ย เปียกหมดเลย…” หญิงสาวบ่นเล็กน้อย ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาซับน้ำที่เกาะอยู่ตามใบหน้า ด้วยเพราะเมื่อเช้าเธอมาทำงานสายที่จอดรถบนตึกจึงเต็ม ทำให้เธอต้องมาจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถกลางแจ้งที่มีที่หลังคากันแดดกันรถไว้ได้บ้าง ใครจะไปคิดกันว่าฝนจะเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ ลินลดามองน้องฟ้าใสหรือรถเต่าคันสีฟ้าของเธออย่างอาลัยอาวรณ์ เธอเพิ่งจะไปล้างมาเมื่อวานแท้ๆ น้องฟ้าใสก็ต้องมอมแมมอีกแล้ว เธออยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา
ในขณะที่ลินลดายืนมองน้องฟ้าใสอย่างซึมเศร้า หางตาก็เธอก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังถือร่มเพื่อเดินไปยังลานจอดรถ เหมือนสวรรค์เป็นใจให้เธอเจอเจ้าชายขี่ม้าขาวอย่างไรอย่างนั้น ลินลดาตะโกนสุดเสียง หวังแค่จะขอติดร่มไปยังลานจอดรถด้วยเท่านั้น
“เออ…คุณคะ! เฮ้! คุณคนใส่หมวกนั่นแหละค่ะ คุณนั่นแหละ!” เธอโบกไม้โบกมือให้กับชายที่สวมฮู้ดแขนยาวสีดำสนิทกับกางเกงยีนสีซีด แถมยังสวมหมวกแก๊ปและสวมผ้าปิดปาก นี่ถ้าเธอไม่เห็นว่าเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวที่จะพาเธอไปหาน้องฟ้าใส เธอคงจะคิดว่าเขาเป็นโจรจะเข้ามาปล้นโรงพยาบาลจริงๆ นะเนี่ย
“ครับ?” ชายคนนั้นขานรับ
“เออ…ฉันขอติดร่มของคุณไปหาน้อง...เออ…ไปขึ้นรถที่ลานจอดได้มั้ยคะ พอดีฉันไม่ได้เอาร่มมาด้วยอะค่ะ” ลินลดาบอกจุดประสงค์พลางยกมือขึ้นพนมขอเขาอีกแรง
แม้ชายหนุ่มคนนี้จะสวมผ้าปิดปากแถมยังสวมหมวก ปิดบังหน้าตามิดชิด ทว่าลินลดากลับยังเห็นถึงประกายความหล่อเหลาพุ่งออกมาจนแทบจะตาบอดเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้และห่างกับเธอเพียงแค่ครึ่งเมตรเห็นจะได้
