บทที่3 ผมแค่คิดว่าเราทักทายกันมามากพอแล้ว
ดวงตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนากวาดมองร่างระหงอย่างไม่ปิดบังอาการ อธิปค่อย ๆ ใช้นิ้วเรียวยาวเกี่ยวสายชุดเดรสออกจากหัวไหล่กลมมนทีละข้าง ก่อนจัดการกับซิปทางด้านหลัง
ภาพเต้าทรวงอวบอัดงดงามกว่าที่เขาจิตนาการเผยโฉมออกมาชวนให้ลมหายใจหนุ่มร้อนรุ่มติดขัด แม้ไม่ใช่คนที่หมกมุ่นกับขนาดหน้าอกของผู้หญิง แต่พอได้เจอทรวดทรงองค์เอวอะร้าอร่ามที่หาจุดติแทบไม่ได้นี้เข้าไป ลำคอของเขาคล้ายแห้งผาก กระทั่งจะกลืนน้ำลายลงไปยังยากเย็น
สายตาคมเลื่อนตามมือใหญ่ที่รั้งชุดเดรสของเธอลงไปถึงเอวขอดกิ่ว จนกระทั่งชุดกระโปรงตัวนั้นพ้นออกจากกายเธอ เผยให้เห็นร่างเปล่าเปลือยขาวกระจ่างที่มีเพียงจีสตริงสีดำสนิทปกปิดอยู่เพียงชิ้นเดียว ส่วนเว้าส่วนโค้งซึ่งรับกันอย่างเหมาะเจาะสะท้อนอยู่ในครรลองสายตา เรือนร่างแสนกระตุ้นตัณหาของเธอกำลังทำให้ความคิดของชายหนุ่มกระเจิดกระเจิง นึกเพียงอยากจะเขมือบเธอลงท้องเสียเดี๋ยวนั้น
“คุณสวยกว่าที่ผมจินตนาการไว้สะอีก” เขาพึมพำดังคนละเมอ พลางลูบไล้ไปบนเต้าทรวงอวบอิ่ม ด้วยนัยน์ตาวาววาม “คุณนี่มันน่ากินเป็นบ้า น่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัว”
“แหม...ดีใจจัง” หญิงสาวปริศนาหัวเราะคิกคัก
“ผมจะทำให้คืนนี้เป็นค่ำคืนที่ดีที่สุดในความทรงจำของคุณ” เขาเอ่ยราวกับประโยคนี้เป็นถ้อยคำปฏิญาณ จากนั้นค่อยก้มลงลากลิ้นสากร้อนเวียนวนบนยอดสีหวานจนแข็งชัน พลางหยอกล้อด้วยฟันคมอย่างมันเขี้ยว
“อ่า...” เสียงครางหวานตอบรับยามอุ้งปากอุ่นครอบครองปลายยอดแข็งเป็นไตของเธอ ลิ้นร้ายป่ายปัดระรัวเร่งเร้าปลุกอารมณ์กำหนัดของหญิงสาว มืออีกข้างก็ไม่วายเคล้นคลึงความอลังการอย่างหนักหน่วง
มือเรียวเล็กแทรกเข้าไปใต้เส้นผมที่จัดทรงมาอย่างดีของเขา แล้วจิกเบา ๆ เพื่อคลายความเสียดเสียวในขณะที่เขาดูดดึงยอดอกเธอเล่น เสียงครางแผ่วเบาหลุดรอดจากริมฝีปากอิ่มเป็นระยะ สร้างความย่ามใจให้ชายหนุ่มเป็นเท่าทวี
อธิปยอมรับว่าตั้งแต่ตนเองปิดประตูหัวใจ ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกระหายอยากได้มากขนาดนี้มานานแล้ว ความรู้สึกส่วนลึกจึงเผลอไผล คิดว่าบางทีหลังจากที่พวกเขาสองคนผ่านบทรักครั้งแรก เธออาจจะเป็นคนที่ทำให้หัวใจที่แห้งแล้งของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งก็ได้
แขนแข็งแรงตวัดช้อนร่างบางขึ้นมา แล้วตรงดิ่งไปยังห้องนอนซึ่งมีเตียงใหญ่นุ่มแน่นที่เหมาะจะเป็นสังเวียนสวาทมากกว่าโซฟาอยู่ในนั้น เขาวางเรือนร่างเย้ายวนลงตรงขอบเตียง ก่อนประกบจูบริมฝีปากสีแดงของอีกฝ่ายอย่างร้อนแรง ครั้นตั้งใจจะจัดการกับเสื้อผ้าของตนเอง หญิงสาวที่เหมือนจะรอให้เขาแสดงฝีมือฝ่ายเดียวกลับลงมือช่วยเปลื้องเสื้อผ้าของเขาให้พ้นตัว
ยิ่งเห็นสายตาชื่นชมจดจ้องมายังร่างกายของเขาที่ถูกเปิดเปลือยด้วยน้ำมือเธอ รอยยิ้มพึงใจผุดขึ้นที่มุมปากก็ยิ่งหยักลึก ดูเหมือนว่าตอนนี้คงไม่ใช่แค่เขาที่กำลังจะอดรนทนไม่ไหว
แต่ยังก่อน แค่นี้ยังไม่พอให้หญิงสาวเจนจัดคนหนึ่งคลั่งไคล้ลุ่มหลงเขา
ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูง จากนั้นจึงค่อย ๆ จัดการปลดหัวเข็มขัดแล้วรูดซิป ก่อนเลื่อนกางเกงให้ไหลหล่นลงไปกองอยู่กับพื้น แค่ดึงขอบชั้นในลงเล็กน้อยตัวตนที่กำลังเริ่มตื่นตัวพลันดีดตัวขึ้นมาอวดสายตาเธอ
หญิงสาวผงะเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ คนตัวโตก็เกิดอยากอวดศักดา เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ชายหนุ่มคล้ายเห็นไอหมอกราง ๆ ในแววตาคู่งามของหล่อน แต่เพียงชั่วพริบตา ก็กลับมาพราวระยับอีกครา เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะตื่นเต้นจนมองผิดไป
“พอใจกับสิ่งที่เห็นไหมครับ” แม้จะเป็นคำถาม ทว่าสีหน้าแววตาของอธิปกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ดูดีทีเดียวค่ะ แต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้บ่งบอกคุณภาพ”
“ผมยินดีเป็นอย่างมากที่จะให้คุณทดลอง ‘สินค้า’ ดูก่อน” เขาเดินหน้าเข้าไปใกล้เธออีกนิด แก่นกายที่กำลังเติบโตแข็งขึงอยู่ไม่ไกลดวงหน้าหวาน “กุ๊กกิ๊กลองทักทายมันดูสิครับ”
ดวงตาคู่สวยจดจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ใช้ล่อลวงหญิงสาวทั้งประเทศสลับกับท่อนเนื้อหนุ่มขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทยอยู่สองสามครั้ง ก่อนเอื้อมมือไป ‘ทักทาย’ ความแข็งขึงที่ผงาดกล้าอยู่ตรงหน้าเธออย่างทะนุถนอม
ปลายนิ้วเรียวขาวไล้บนปลายหยักบานสีชมพูแผ่วเบา เล่นเอาอธิปครางเครือในลำคออย่างอดไม่อยู่ หญิงสาวค่อย ๆ รูดมือขึ้นลงไปตามความยาวของผิวเนื้อที่มีเส้นเลือดปูดโปนอย่างใจเย็น สิ่งที่เขาประสบผิดไปจากความคิดแรกเสียถนัด
หญิงสาวคนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ได้เจนจัดแบบนางแมวยั่วสวาท หากบอกว่าเธอกำลังสัมผัสเพื่อเอาใจคนรักอยู่ก็นับว่าไม่ผิด
ที่ผ่านมาผู้หญิงที่เคยทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้มีเพียงแค่คนเดียว แต่เขากลับรักษาเธอคนนั้นเอาไว้ไม่ได้
‘บ้าฉิบ มาคิดอะไรตอนนี้วะ’
อธิปส่ายศีรษะเบา ๆ ไล่ความฟุ้งซ่านออกไป แล้วโฟกัสกับ ‘ของดี’ ที่เขาเพิ่งค้นพบวันนี้อีกครั้ง
ชายหนุ่มปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ตนเองเพลิดเพลินไปกับจังหวะที่สาวปริศนาปรนเปรอให้ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทุกการขยับและทุกจุดที่เธอเน้นล้วนเป็นในแบบที่เขาชื่นชอบทั้งสิ้น
‘ให้ตายเถอะ เด็ดชะมัดยาด’
ทั้งที่ตั้งใจจะทำให้เธอคลั่งไคล้หลงใหลในความช่ำชองของเขา แต่ความงามกับเสน่ห์ตามธรรมชาติของเจ้าตัวกลับทำให้ไฟราคะแล่นปราดไปทั่วลำกาย ความเป็นชายผงกหัวหงึกหงัก หยาดน้ำใส ๆ เอ่อซึมร่ำร้องหาการปลดเปลื้องอย่างน่าอาย
“จะไม่ไหวแล้วเหรอคะ” คำถามและรอยยิ้มร้ายยิ่งทำให้เธอดูน่าค้นหาและน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้ความปรารถนาของชายชาตรีพลุ่งพล่านจนแทบระงับไว้ไม่อยู่
“ผมแค่คิดว่าเราทักทายกันมามากพอแล้ว ควรเข้าเรื่องกันเสียทีต่างหาก”
“คุณใจร้อนกว่าที่คิดนะคะเนี่ย” หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะขณะค่อยๆ ถัดกายขึ้นไปนั่งกลางเตียงใหญ่ ท่วงท่าและตำแหน่งในตอนนี้ของเธอทำให้อธิปมองเห็นสัดส่วนที่สามารถยั่วยุตัณหาผู้ชายทั้งโลกได้ชัดเต็มสองตา
ภาพหญิงสาวเปล่าเปลือยที่สวมเพียงหน้ากากดูไม่ต่างจากงานศิลปะชั้นสูงสักนิด
