บทที่2 ท้าทายงั้นเหรอ ดี...แบบนี้ผมชอบ
“มีอะไรตรงไหนที่ทำให้ลังเลเหรอครับ ทุกอย่างยังปรับเปลี่ยนได้นะ” เขามั่นใจว่าเธอแค่ลังเล เพราะถ้าไม่โอเคคงไม่ตามมา หรือไม่ก็คงเดินออกนอกประตูไปแล้ว
“ผ่านคืนนี้ไปแล้ว เราสองคนจะใช้เวลาดูใจหกเดือน หลังจากนั้นหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ ก็ให้จบกันเพียงเท่านั้น”
“ใช่ครับ”
“ฉลาดดีนี่ค่ะ ไม่ใช่ทั้ง One Night Stand และก็ไม่ได้ดูฉาบฉวยเกินไป”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ แต่ว่ายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะด้วยหน้าที่การงาน ผมคงไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้งได้ จึงจำเป็นต้องให้คุณเซ็นสัญญาฉบับนี้ด้วย” เขาเปิดสัญญาอีกหนึ่งฉบับออกมา หญิงสาวกวาดตาอ่านอย่างรวดเร็ว
“สัญญาไม่เปิดเผยข้อมูล?”
“ผมจำเป็นต้องมั่นใจว่าระหว่างที่เราทดลองคบหากัน จะไม่มีภาพ คลิปวิดีโอ หรือคำบอกเล่าของคุณไปถึงบุคคลที่สามเป็นอันขาด”
“นี่คุณคงไม่ได้เอาตัวอย่างมาจากหนังเรื่อง Fifty Shades of Grey หรอกใช่ไหม”
“ไม่ใช่แค่ในหนัง ในชีวิตจริงก็มีคนที่จำเป็นต้องเพิ่งสัญญาปกปิดความลับอยู่เหมือนกัน เหตุผลก็เป็นไปตามที่บอก ผมต้องทำอย่างนี้เป็นเพราะหน้าที่การงาน ดังนั้นคุณกุ๊กกิ๊กสบายใจได้ ที่นี่ไม่มีห้องเล่นเกมหรอกนะ ผมไม่ใช่พวกซาดิสม์”
“กุ๊กกิ๊กต้องดีใจสินะที่ไม่ต้องเรียกคุณว่านายท่าน” เธอหัวเราะเบา ๆ
“พูดแบบนี้ แสดงว่าคุณ...”
“ฉันไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาปกปิดความลับค่ะ แต่สัญญาฉบับแรก ฉันคิดว่าไม่จำเป็น”
“ไหนคุณว่าไม่อยาก One Night Stand”
“บางครั้งคนเราอาจจะต้องแหกกฎเหล็กของตัวเองบ้าง อีกอย่างถ้าคนมันจะใช่ ไม่ต้องรอถึงหกเดือนหรอกค่ะ”
“คุณนี่...น่าสนใจจริง ๆ”
“ไม่หรอกค่ะ เหตุผลของฉันธรรมดามากกว่าที่คุณคิด เพียงแต่...”
‘นั่นไง สุดท้ายก็มีเงื่อนไขอื่น’ ชายหนุ่มหรี่ตามองอย่างระแวดระวัง
“ในเมื่อเหลือสัญญาฉบับเดียว ฉันคิดว่าควรเพิ่มเงื่อนไขที่ชัดเจนลงไปอีกข้อ แล้วเพิ่มจำนวนค่าปรับอีกสักหน่อย น่าจะยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย” หญิงสาวใช้สมาร์ตเพนเขียนข้อความลงไปบนหน้าจอแท็บเล็ต แล้วยื่นให้เขาดู
“คู่สัญญาจะไม่เรียกร้อง หรือแสดงตนเป็นคนรัก หรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์มากกว่าความเป็นเพื่อน/คนรู้จัก หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญา จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อีกฝ่ายเป็นเงินสิบล้านบาท ยกเว้นกรณีที่คู่สัญญาตกลงเปลี่ยนสถานะโดยสมัครใจทั้งสองฝ่าย”
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างกังขา ทั้งที่ตอนแรกเหมือนเธอต้องการหลักประกัน แต่สุดท้ายกลับดูเหมือนว่าคนเจ้าชู้อย่างเขาต่างหากที่ได้เปรียบ
“คุณแน่ใจนะครับ”
“ถ้าคุณธรรม์ไม่แน่ใจ กุ๊กกิ๊กกลับก็ได้ค่ะ” ร่างระหงผุดลุกขึ้น ทว่าคนที่จับจ้องเธอตาเป็นมันอยู่ตลอดเวลาไม่คิดที่จะปล่อยคนไปง่าย ๆ เขาคว้าข้อมือเล็กไว้ในฉับพลัน แล้วรั้งร่างงามนั้นลงมาบนตัก กักขังเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
“อย่าใจร้อนสิครับ ผมยังไม่ได้ปฏิเสธเลย” ใบหน้าคมเคลื่อนเขาหาแก้มนวล ใกล้เสียจนปลายจมูกโด่งรั้นเฉียดพวงแก้มใส
“อย่าเพิ่งสิคะ เราควรจะเซ็นสัญญาให้เรียบร้อยก่อน” เธอแตะนิ้วเรียวบนปลายจมูกของเขาเบา ๆ
“คุณนี่รอบคอบจังนะครับ” เขาระงับอารมณ์วาบหวามที่กำลังไต่ระดับขึ้นสูง แล้วจัดแจงอีเมลหาทนายอีกครั้งเพื่อจัดการแก้สัญญา
ทนายประจำตัวก็ไม่ทำให้อธิปต้องรอนาน พอร่างสัญญาฉบับใหม่เสร็จ ก็ส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว อธิปสั่งปรินต์สัญญาลงในกระดาษ จากนั้นทั้งสองก็อ่านข้อตกลงทั้งหมดอีกครั้ง ต่างคนต่างลงลายมือชื่ออย่างไม่อิดออด แล้วเก็บคู่สัญญาไว้คนละชุด
“คราวนี้เราก็เผยตัวจริงกันได้เสียที คุณรู้ไหม ตั้งแต่ที่ปาร์ตี้ผมจินตนาการถึงหน้าคุณเป็นพัน ๆ ครั้งแล้ว”
“เพื่อความตื่นเต้น งั้นจินตนาการต่ออีกนิดดีไหมคะ”
“คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ ด้วย”
เพื่อสร้างบรรยากาศ ชายหนุ่มใช้รีโมตปรับไฟในห้องรับแขกให้อ่อนแสงลง ก่อนเขยิบเข้าไปประชิดติดร่างสมส่วนสมบูรณ์แบบของหญิงสาวตรงหน้า ขนาดมีชุดราตรียาวห่อหุ้มกายเธอยังดูเซ็กซี่ยั่วใจขนาดนี้ หากเป็นร่างเปล่าเปลือยไร้สิ่งอำพราง เธอจะงดงามมากขนาดไหน
ร่างหนากดร่างบางตรึงลงกับโซฟา ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบลงบนริมฝีปากอิ่ม มอบจุมพิตแผ่วเบาอย่างหยั่งเชิง ทันทีที่หญิงสาวสนองตอบด้วยการบดเบียดริมฝีปากเข้าหา จุมพิตของเขาพลันดุดันขึ้น
อธิปขบเม้มกลีบปากสีแดงสดของหญิงสาวที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างสลับไล้เลียรอยแยกอย่างเว้าวอน จวบจนเธอเผยอริมฝีปากหายใจลิ้นร้ายก็แทรกซุกลงไปทักทายเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กนุ่มอย่างโหยหา ในขณะที่ใช้มือใหญ่เคล้นคลึงบนความอวบอิ่มเหนือเนื้อผ้าไปด้วย
เมื่อจูบเธอจนพอใจ เขาละริมฝีปากออกมาแล้วกดจมูกซุกไซ้ไปตามลำคอระหง โดยไม่ลืมใช้ริมฝีปากขบเม้มไปบนผิวขาวกระจ่างจนทั่ว
“อ่า...อย่าทำรอยนะคะ” เธอร้องห้ามก่อนที่เขาจะลงมือประทับตราสีแดงไว้เป็นหลักฐาน
“ไม่ชอบเหรอ”
“ฉันเองก็ต้องไปทำงานนะคะ”
“ได้ ผมจะไม่ทิ้งรอยที่คอ” เขาให้คำมั่นสัญญาก่อนกดใบหน้าลงบนทรวงเต้าที่กำลังถูกฟอนเฟ้น แล้วจูบลงไปหนัก ๆ จนเกิดเป็นรอยสีแดงเท่ากลีบกุหลาบ
“อ๊า...ไหนว่าเข้าใจแล้วไงคะ” หญิงสาวร้องประท้วง
“ตรงนี้ไม่มีใครเห็นสักหน่อย ไม่ผิดกติกา”
“อย่าแกล้งกุ๊กกิ๊กสิคะ”
“ผมไม่ได้แกล้ง แค่ไม่อยากให้กุ๊กกิ๊กลืมผมง่าย ๆ เท่านั้นเอง”
“จะลืมหรือไม่ลืม ก็อยู่ที่ฝีมือของธรรม์แล้วล่ะค่ะ”
“ท้าทายงั้นเหรอ ดี...แบบนี้ผมชอบ”
