3
ข้าไม่อาจทำอย่างไร้ที่ติได้
เด็กแฝดนั่งลงเมื่อถือตาข่ายที่สัตว์ภายในดิ้นด้วยความหวาดผวา
“หยุดนะ!”
ตุบ!
“โอ๊ย!” เซเวียร์สะดุดก้อนหินล้มลง
เด็กแฝดเงื้อมืดแวววาวขึ้นสูง!
“ไม่นะ!!”
ภายในบ้านหลังจากนั้นเซเวียร์นั่งร้องไห้ลั่น เลือดไหลซึมจากหัวเข่าข้างที่หกล้มจนถลอก คุณพ่อคุณแม่เพิ่งอุ้มเธอเข้ามาในบ้านจะได้ไม่ต้องเห็นว่ากระต่ายถูกเด็กบ้านนายพรานทำอย่างไรต่อ
“กระต่ายเป็นอย่างไรบ้างคะ!?”
เซเวียร์ถามร้อนรนทันทีเมื่อคุณป้าเดินเข้ามา
คนถูกถามระบายลมหายใจพร้อมส่ายหน้า “ลืมมันเสียเถอะค่ะคุณหนู พวกมันไปในที่ที่ดีกว่านี้แล้วล่ะ”
หมายถึงสวรรค์เหรอ แสดงว่าพวกมันตายแล้ว
มือย่นเคลื่อนลูบหัวเด็กน้อยที่ยิ่งร้องไห้จ้า
“มันเป็นวิถีชีวิตของคนแถบนี้ อย่าโทษพวกเขาเลยนะ”
“พวกมันตายแล้ว ฮือ...”
เซเวียร์ไม่เคยโกรธใคร ไม่เคยคิดเกลียดนายพราน แต่เธอสงสารกระต่ายจนเจ็บไปทั้งหัวใจยิ่งกว่าเจ็บแผลที่ขาเสียอีก
“ฮือๆ...”
แล้วเด็กน้อยก็ร้องไห้จนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
คืนนั้น...
สายลมพัดแผ่วเบาในความมืดข้างหน้าต่างห้องนอน
เซเวียร์ยังร้องไห้อยู่ แผลที่หัวเข่ายังเจ็บและแดงฉาน
‘ขอโทษนะครับที่พ่อปิดแผลให้เซเวียร์ไม่ได้ พ่อกลัวมันจะเน่า แต่แผลเล็กแค่นี้เดี๋ยวก็หาย” คุณพ่อปลอบใจก่อนจูบหน้าผากเด็กหญิงและเดินออกไปจากห้อง ตอนนั้นเซเวียร์เลิกร้องไห้แล้วเพื่อเห็นแก่พ่อ
ทว่าพอรอยจูบอุ่นหายจากหน้าผากก็แอบร้องไห้คนเดียวใหม่
“ฮือ...”
ทั้งที่สัญญากับแพนไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะไม่ร้องไห้อีก
แต่มันเจ็บนี่ ช่วยไม่ได้
“เด็กน้อย เจ้าร้องไห้อีกแล้วหรือ” เสียงอ่อนโยนเอ่ยทักจากเงาห้องมืด
“ข้าไม่ได้ชื่อเด็กน้อย ข้าชื่อเซเวียร์”
“ข้าจำได้”
“ฮือ ข้าเจ็บแผล วันนี้ข้าหกล้ม แล้วกระต่ายก็ยังมาถูกฆ่าตายอีก” ระบายอย่างอัดอั้นตันใจ “ข้าหกล้มเลือดไหลเจ็บมากด้วย ฮือ...!”
ดวงตาคมในเงาที่เห็นบาดแผลสีแดงพลันวูบไหว ที่จริงแพนไม่ชอบตั้งแต่ได้ยินเสียงเซเวียร์ร้องไห้แล้ว เสียงร้องไห้ทำให้เขาปวดใจและเศร้าใจไปกับเธอ
ยิ่งเห็นขาเล็กๆ เหมือนตุ๊กตาเป็นแผลเช่นนี้ยิ่งเจ็บปวดแทนเป็นร้อยเท่า
และมันคงดีหากเขาจะเป็นคนเจ็บแทนเสียได้ ทว่ามนุษย์เด็กมีพลังเสียงมากมายเสียจริงเทียบกับขนาดตัว และนั่นทำให้ผู้มาจากความมืดเช่นเขาประหลาดใจ
“หากเจ้าไม่เสียงดังจนเรียกผู้ใหญ่ให้แตกตื่นมาที่นี่ข้าจะช่วยเจ้าเอง”
“จริงหรือ” เซเวียร์กลั้นสะอื้น “ท่าน...ท่านจะช่วยข้าได้อย่างไร”
แพนนิ่งอึ้งใช้ความคิด “ไหน ให้ข้าดูแผลของเจ้าสิ”
มือใหญ่เคลื่อนยกขาเด็กน้อยขึ้นดูใกล้ๆ ดวงตาราวอัญมณีพลันหม่นหมองลง “แผลเล็กนิดเดียวเท่านั้น”
ก็แค่คำปลอบใจ เด็กน้อยช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้ สำหรับเขาแผลนั่นดูเหมือนเซเวียร์กำลังต้องเผชิญความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่อยู่
“เซเวียร์ เจ้าต้องเข้มแข็งสิ อย่าร้องไห้ สัญญาต้องเป็นสัญญา”
ทว่าทั้งที่ควรปลอบหนักแน่นเสียงทุ้มกลับแผ่วหาย แพนไม่เคยอยากให้เพื่อนตัวเล็กเจ็บแบบนี้
“แพนช่วยเซเวียร์ด้วย ช่วยทำให้แผลของเซเวียร์หายที”
ผู้เป็นนิรันดร์คิดว่าบางทีเซเวียร์อาจเชื่อว่าเขาเป็นผู้วิเศษที่จะรักษาแผลให้หายได้ ทว่าเด็กน้อยมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว
“ข้าไม่อาจรักษาบาดแผล ทว่ามีบางสิ่งที่ข้าอาจทำเพื่อเจ้าได้” ดวงตาสีมรกตหม่นลงอีก ร่างสง่างามนั่งลงบนเตียง มือใหญ่สีขาวยกขึ้น
เมื่อนั้นดวงตากลมของเด็กน้อยเบิกกว้างด้วยความตระหนกตกใจ!
ฉึบ...
ภายใต้ความมืดแห่งแสงจันทร์เลือนจางแพนใช้มือหนึ่งกรีดข้อมืออีกข้างของตัวเอง “หากทว่าข้าไม่อาจทำอย่างไร้ที่ติได้”
เสียงเลือดสายเล็กของแพนหลั่งรินแผ่วเบาไปบนข้อมือใหญ่ เซเวียร์นิ่งราวกับถูกสาป!
“พ...แพน...”
เลือดของแพน...!
“ข้าทำได้เพียงเท่านี้ ทำตามวิธีของข้า” เสียงแผ่วเบาของแพนล่องลอยไปกับอากาศเย็นและสายลมที่พัดผ่านไป ก่อนริมฝีปากราวภาพวาดยกยิ้มจางที่แทบมอบไม่เห็น
“ทีนี้ข้าก็เป็นแผลเหมือนเจ้าแล้ว เป็นแผลด้วยกันสองคนเจ้าจะได้ไม่เหงาและไม่เจ็บ”
ไม่เหงาหรอก ไม่มีทางอยู่แล้ว เพราะเซเวียร์กำลังจะหัวใจวาย! คนตัวเล็กอ้าปากค้างเหมือนกลายเป็นหิน แพนคิดว่าก็ไม่เลวนัก ตกใจก็ดีกว่าร้องไห้ไม่ใช่หรือ
“บอกข้าสิว่าเจ้าเจ็บน้อยลง ไม่สิ ไม่เจ็บอีกแล้ว” เสียงทุ้มกำชับจริงจัง “ว่าไง”
“ค...ค่ะ”
แต่เธอหายเจ็บเพราะอะไรนะ เพราะแพนทำให้เธอตกใจหรือ หรือเพราะเหมือนที่แพนพูดว่าหากมีคนเจ็บไปด้วยกันความเจ็บปวดนั้นก็จะหายไป “ข้าไม่เจ็บแล้ว”
เมื่อนั้นเซเวียร์จึงได้เห็นรอยยิ้มบางของอีกฝ่าย อ่อนโยนทว่าเงียบงันราวแสงจันทร์ห่างไกล ส่วนแพนคิดว่าเซเวียร์เป็นเด็กที่ว่าง่ายและเชื่อฟังผู้ใหญ่เสียจริง
หากแต่ใช่ว่าเขาดีพอจะสอนหรือดูแลเด็กได้หรอก แม้ว่าเขาจะอยู่ในโลกนี้มานานเพียงไหน
“ข้าอยากกอดแพน” แขนเล็กไขว่คว้ากอดอีกร่าง สั่นเทา “นอนเป็นเพื่อนข้าที”
ใบหน้ากลมซบเหนือแผ่นอกของแพน แนบแน่นจนได้ยินเสียงหัวใจ หลับตาแน่น อาจเพราะเธอกลัวเลือด แพนคิดเช่นนั้น หากทว่าสำหรับเซเวียร์แล้วไม่ใช่
ที่จริงแล้วเซเวียร์เจ็บเพราะเห็นเลือดของเพื่อนคนเดียวที่เธอมีต่างหาก และเมื่อแพนเจ็บเธอยิ่งรู้สึกเจ็บกว่า เจ็บแทนเสียจนกระทั่งลืมความเจ็บปวดของตัวเองไป
...ไม่เคยอยากให้แพนเจ็บปวด ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและเป็นห่วงแพนเมื่อกอดเขาไว้แน่นกว่าครั้งไหนราวกลับกลัวว่าแผลนั้นจะทำให้เขาตายจากเธอไป
“แพนทำแบบนี้ทำไม ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย”
“ช่างข้าเถอะ”
ร่างเล็กสั่นไหว
“แพนคะ”
“...”
“กอดข้าที”
ริมฝีปากแพนทาบทับบนเส้นผมเหนือหน้าผากเด็กหญิงที่กอดเขาไว้ แขนกำยำเคลื่อนกอดเด็กน้อยที่เขาหลงยิ่งกว่าสิ่งใด หลายพันปีนี้มีไม่กี่อย่างที่ทำให้เขาชอบ
ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มลึกลับอีกครั้งเมื่อเด็กน้อยหาวออกมา
ได้เวลานอนแล้ว ร่างสูงและร่างเล็กนอนลงเคียงข้างกัน กอดกันไว้
แต่แพนยังเกร็งอยู่ ยังไม่ชินกับการกอดถึงจะรู้สึกชอบ
“กอดเซเวียร์แน่นกว่านี้ได้ไหมคะ”
แพนนิ่งเกร็ง
ทว่าสุดท้ายก็กอดเธอ แน่นกระชับ ก่อนอ้อมกอดนั้นจะรัดจนแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนราวกับจะให้เธอหลอมรวมเป็นร่างเดียวกับเขา
ทำไมนะเขาถึงต้องทำตามคำขอของเซเวียร์ทุกครั้งเช่นนี้
เด็กน้อยตัวนุ่มและอบอุ่นมากทีเดียว เขาหลงรักความอบอุ่นจากร่างของเธอ
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...”
แล้วสายลมแห่งค่ำคืนก็พัดผ่านไป
