บทย่อ
รสนิยมที่แตกต่างกลับอยู่ด้วยกันได้ แค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมจะชอบด้วยกันไม่ได้
ตอนที่ 1 SEVEN DAY สุดหัวใจนายแบดบอย
ตึก ตึก ตึก
หัวใจเต้นแรงราวกลองรบตีรัวสนั่นในยามวิกาล ขาสองข้างวิ่งหนีตายสุดชีวิตตามเส้นทางเปลี่ยวเงียบสงัดไร้ซึ่งทางออก ปึก! สะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้นเป็นอันสะดุ้ง ตื่น…
“ฝันเพ้อเจ้ออีกแล้ว” เกร หญิงสาวลูกคนเดียวของบ้านลืมตาตื่นอยู่บนที่นอนเก่าในห้องตัวเองลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจมองห้องแสนรกบางครั้งเนื่องด้วยช่วงนี้จำต้องดิ้นรนหาใช้ชีวิตเพราะหนี้ท่วมศีรษะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เกรตื่นหรือยัง แม่อยากคุยด้วย” เสียงมารดาดังเข้ามาทำให้เกรบิดขี้เกียจเกาหัวมองตัวเองในกระจกโต๊ะเครื่องแป้งชื่นชมสัดส่วนสามสิบสี่-ยี่สิบแปด-สามสิบสี่ด้วยความภาคภูมิใจส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรถึงจะเตี้ยในหมู่เพื่อนฝูงแต่ก็สูงกว่าเพื่อนสนิทแสนน่ารัก
“เกร! แม่จะเข้าไปแล้ว มัวทำอะไรอยู่” เสียงเริ่มแข็งขึ้นด้วยความรีบร้อนรออยู่หน้าประตูจนอดไม่ไหวกระชากประตูเปิดมองลูกสาวกำลังทำตาปริบๆ หาวปากกว้าง ดูสีหน้ามารดาไม่ค่อยดีเลย
“มีอะไรแม่” เกรเดินไปนั่งลงข้างมารดาด้วยความงุนงง
“ไปแต่งตัว เก็บของที่จำเป็น แล้วออกจากบ้านไปซะ” ว่าแล้วก็ลุกพรวดปาดน้ำตาคลอเบ้ายืนหันหลังให้ลูกสาว
“แม่”
“ไม่ต้องพูด ถ้าไม่รีบไป พวกเจ้าหนี้จะลากไปแทน รีบแต่งตัวเร็ว แม่จะเก็บของให้แล้วห้ามกลับมาเหยียบที่นี่อีก”
“แม่”
ปัง!
เกรถูกยัดเข้ามาในห้องน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างพาสับสนแต่ก้รีบอาบน้ำอย่างเร็วก่อนเปิดประตูออกจากห้องน้ำหลังสิบนาที หญิงสาวมองชุดที่มารดาเตรียมไว้ให้แล้วหยิบมาสวมมองกระเป๋าเสื้อผ้าอย่างระอาใจในชีวิตรันทดถือลงบันไดมองมารดายืนร้องไห้ก่อนจะ
ฟืบ
ไม่มืดเปล่าซ้ำรู้สึกเหมือนโดนมัดแขนทำให้หญิงสาวต้องดิ้นไปมาแหกปากโวยวายถูกลากขึ้นรถกระบะ ลมโกรกพาผมที่ยังไม่แห้งสะบัดไปมาตามแรงลม ได้แต่เอียงหูฟังบิดากับมารดาสนทนากันอยู่ข้างๆ ไม่ใช่เพราะคุยเบาแต่เพราะลมโกรกแรงเกินควรพาหูอื้ออึง ทุกอย่างเกิดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวได้แต่คิดว่าพ่อแม่จะพาไปปล่อยที่ไหน
เอี๊ยดดดด
ปึก…
ไม่นานดั่งโดนถีบลงจากรถ มือถูกปลดออก เกรรีบแกะผ้าปิดตามองป้ายรถเมล์ ผู้คนเดินพลุกพล่านชวนงงงวย มีเพียงกระเป๋าข้างกายไร้ซึ่งคนพามาพยายามมองหาป้ายว่าที่นี่ที่ไหน
“ขอแล้วกัน” ไม่ทันจบคำถึงกับอ้าปากค้างเอียงมองชายหัวขโมยถือกระเป๋าตนเองหนีไป อยากจะแผดเสียงร้องลั่นแต่เสียงไม่ออก
“กระ กระเป๋า ฉาน..นนน” เกรพยายามตั้งสิร้องลั่นวิ่งตามด้วยความเหนื่อยหอบสุดท้ายไร้ร่องรอยตามหา ความซวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำเธอเริ่มท้อแท้เพราะทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าตอนนี้เหลือเพียงตัว ทำใจยืนเหนื่อยหอบมองสภาพตัวเองผมกระเซอะกระเซิงพันกันยุ่ง
“สวัสดี” เกรหันตามเสียงทักถึงกับเบิกตาโต ใจร่วงหาย ผู้ชายหล่อหน้าหวานปานขนมชวนน่ากิน แต่นี่ไม่ใช่เวลามาเคลิ้ม ในหัวเริ่มสับสนประมวลว่าเขาคือขโมยหรือไม่
“นายเป็นใคร”
“ไปด้วยกันเถอะ”
“ไปไหน ไม่ไป” เกรสวนกลับรีบหันกลับด้วยความกลัว นี่อาจเป็นภัยค้ามนุษย์ตั้งตัวหาทางหนี
เอี๊ยด…
รถตู้สีดำจอดขวางทางเกือบเสยหน้าดีที่หยุดทัน สายตาเกรหยุดมองชายที่กำลังลงจากรถก้าวเข้ามาช้าๆ อย่างหล่อเหลาก่อนจะ ปึก! นาทีสุดท้ายรู้สึกเจ็บท้ายทอยแล้วต่อจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร โลกหมุนติ้วจนชวนอาเจียนไส้หมดพุง ในห้วงแห่งความฝันเหมือนอยู่ในโลกนิทาน เป็นเจ้าหญิงหงส์สวยสง่าจูงมือเจ้าชายเต้นรำอยู่ในห้องโถงใหญ่ มีแขกมาร่วมงานกันมากมาย ทำหญิงสาวยิ้มแก้มปริหน้าบานมีความสุขเปี่ยมล้น
“ตายหรือยัง” เสียงแหบห้าวดังขัดทำเกรหันซ้ายหันขวามองหาคนพูด จากถูกรายล้อมด้วยเจ้าชายบัดนี้หายหัวไปหมด จนต้องหมุนตัวมองพื้นสีขาวที่เหยียบอยู่ นี่นรกหรือสวรรค์ได้แต่คิดอยู่ในใจ ก่อนได้ยินเสียงแว่วที่สอง
“แค่สลบไม่ตายหรอกมั้ง”
“กล้องพร้อมแล้ว ถ่ายเลยไหม” เสียงที่สามเอ่ยอย่างมีเลศนัย
“เอาน้ำมาสาดให้ฟื้นสิ” เสียงแรกบอกอีกครั้ง เกรเงยหน้ามองทั่วรีบยกมืออุดหูเพราะเสียงก่อกวนพาหลอน
“อย่านะอย่ามายุ่งกับฉันไอ้ผีโรคจิต” เกรรีบลุกพรวดเด้งตัวออกจากเตียงนอนนุ่มก่อนหยุดชะงักตั้งสติมองรอบห้องอย่างมึนงง ห้องโทนขาวสะอาดตาทุกสิ่งถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยก้มมองตัวเองสวมเสื้อตัวบางสีขาวเป็นเชิ้ตแขนยาวตัวใหญ่จนคลุมขาอ่อน นึกในใจเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ มือขวาจับทุกอย่างในร่างกายตรวจดูว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ กางเกงขาสั้นยังอยู่ ชุดชั้นในเหมือนเดิม แสดงว่ายังไม่ถูกพรากพรหมจรรย์
“สวัสดี ที่รัก” เสียงที่สามเอ่ยขึ้น เธอจำได้ดีรีบเหลียวมองข้ามเตียง ผู้ชายหน้าตาดีสูงโปร่งถือกล้องวิดีโอส่องมาทางตนเอง กรี๊ด…
“โอ๊ย…! หุบปากสักที” เสียงตะคอกแข็งกร้าวอยู่ปลายเตียง นี่คือเสียงแรกที่แช่งเธอ แต่ แต่เขาหล่อเหมือนดาราอันดับต้นของฮอลลีวูด อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวผิดจากผู้ชายที่ถือกล้องสวมชุดธรรมดา เขาอยู่ในชุดนั้นแล้วเธออยู่ในชุดนี้ ช็อก!
“ดูท่าจะสำเร็จ” เกรหันขวับมองด้านหลัง ผู้ชายที่เคยเจอกัน นายหน้าหวานใจร้ายยิ้มระรื่นพาหลอนสับสนพยายามตั้งสติ “หันหน้ามาทางนี้หน่อยนางเอก” คนถือกล้องเข้ามาจับหน้าเกรให้เอียงมองกล้อง
“ไม่ อย่ายุ่งกับฉัน” สะบัดหน้ารีบวิ่งไปทางประตู กึก... ซวยซ้ำเพราะเปิดไม่ออก หรือโชคดีได้แอ้มผู้ชายในห้องสามคนเกรเร่งเขย่าลูกบิดประตูหลุดได้คงหลุดไปแล้ว
แกร็ก…
ในที่สุดได้ผล มีคนช่วยเปิดประตูให้ แต่ต้องเอ๊ะเมื่อมีแต่คนหล่อๆ ทยอยกันเดินเข้ามา เกรลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อประตูถูกปิดสนิทเหล่มองหนุ่มหล่อเจ็ดคน ผมทรงคล้ายกันแต่บุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผู้หญิงคนเดียวกับผู้ชายหล่อหุ่นดีเจ็ดคน จะโชคดีหรือโชคร้ายโปรดเรียงเข้ามาทีละคน หือ แบบนี้คิดดีไม่ได้จริงๆ เกรพยายามเปิดประตูแต่เหมือนล็อกจากด้านนอก
“แน่ใจนะว่าจะออกไป” ผู้ชายสวมผ้าคลุมอาบน้ำหน้าตาเหมือนดาราจ้องตาแทบกลืนกินทรงอย่างแบดแซดเลยไหม เดินเข้ามาครอบตัวเกรชิดประตูจนสบตากัน เขาก้มมองเกรแล้วผละออกทันทีหันกลับไปเข้ากลุ่มกระซิบกับชายหนุ่มหน้าหวานและคนหล่อถือกล้อง เกรกลืนน้ำลายอึกใหญ่มองพวกเขาทำตัวนิ่งไม่ขยับจนชายหน้าหวานก้าวเข้ามาหาช้าๆ นี่ขนาดเขาดูตัวเล็กในหมู่คณะแล้วนะเธอยังตัวเตี้ยกว่าเขา หรือเธออยู่ในมวลหมู่เปรต…ใช่ไหม
“งั้นจะให้ออกแล้วกันนะ” ชายหน้าหวานฉีกยิ้มให้เกรก่อนผงะเมื่อถูกสบตาเริ่มมีหวัง เขารีบเปิดประตูผลักเธอออกจากห้องแล้วปิดประตูทันที เกรมองตาปริบเกาหัวงงแต่ก็นะ รอดแล้ว รีบหันหน้าออกจากประตู อะ อะผู้ชายชุดดำหน้าหื่นยืนออกันอยู่ตรงหน้าสายตาบ่งบอกอารมณ์ชัดเจนจนเกรแทบช็อก หนีเสือปะจระเข้!!!

