ตอนที่ 1
เสียงดนตรีภารตะบรรเลงท่ามกลางสายตาประชาชนในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองจัดประกวดเต้นชิงเงินรางวัลหกหลัก รับทุกสถาบันการเต้นหรือแม้แต่ชมรมในรั้วการศึกษาส่งเข้าประกวด แผ่นป้ายสถาบันบุษบาชูขึ้นโดยหญิงวัยกลางคนที่ยังโสดและยังดูอ่อนวัยทั้งทรวดทรงองค์เอวและใบหน้าที่ผุดผ่องยืนส่งเสียงเชียร์สถาบันตนเองกำลังขึ้นเวทีโดยใช้เสียงเพลงนำร่อง เด็กสาวในชุดส่าหรีสีเหลืองเครื่องประดับแต่งเต็มยับย้ายส่ายก้นเข้ากับจังหวะภารตะชวนเต้น เสียงเพลงเริ่มเรียกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเข้ามาล้อมดูอย่างสนใจ เสียงร้องต้นฉบับจากแดนภารตะเริ่มขึ้นก่อนปรากฏหญิงสาวชุดส่าหรีสีแดงมัดมวยผมกำไลข้อมือเต็มแขนซอยเท้าส่ายเอวหมุนรอบตัว ทุกสายตาจับตามองมาทางเธอเพียงผู้เดียวรวมถึงกรรมการที่เริ่มปรึกษากัน จังหวะภารตะยังคงชวนให้เต้นตาม หญิงสาวส่ายเอวไปมาส่งสายตายั่วยื่นมือมาทางกรรมการและคนดูอย่างยั่วยวนให้หลงก่อนหมุนตัวยืนส่ายหัวไหล่โยกเอวอยู่ตรงกลางเด็กสาวสองคนที่เต้นด้วยท่าเดียวกันอย่างพร้อมเพรียงก่อนเสียงเพลงจะติดขัดขาดหายราวกับถูกคลื่นแทรกสร้างความตื่นตัวให้ทุกคน เด็กสาวสองคนหมุนตัวเข้ามากระชากชุดส่าหรีสีแดงของหญิงสาวออกและทำนองได้เปลี่ยนเป็นเซ็กซี่แด๊นซ์ ชุดส่าหรีถูกดึงออกเผยเห็นเสื้อครึ่งตัวสีแดงคู่กับกางเกงหนังรัดรูปขาสั้นเพียงคืบเดียวสีแดงสวมคู่กับถุงน่องลายตาข่าย สายตาเริ่มเย้ายวนมากขึ้นจิกกล้องที่วนรอบตัวเธอแทบทะลุก่อนจะ
ปิ๊ด…
หน้าจอทีวีที่เล่นวิดีโออยู่ถูกปิดลงเมื่อหญิงสาวเดินลงบันไดมาหยิบรีโมทกดปิดจอด้วยความหนวกหูเดินเข้าห้องน้ำชั้นล่างโดยอยู่ในชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวไหล่พาดผ้าขนหนูถือแปรงสีฟัน ยาสระผม ยาสีฟัน สบู่อาบน้ำเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างบันได
“กรีนปิดวิดีโออาทำไม เด็กนี่นี้” หญิงวัยกลางคนรูปร่างดีใบหน้าอ่อนวัยสวมผ้ากันเปื้อนทับเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเดินออกมาจากครัวที่อยู่หลังทีวีติดผนังเดินมาหยิบรีโมทเปิดหน้าจอเริ่มใหม่
“หนึ่งปีแล้ววิดีโอก็เก่าดูทำไมนักหนา” กรีน หญิงสาวผมยาวย้อมสีแดงม้าฮอกกี้สะบัดหน้าม้าให้คลี่ออกจากการเป็นก้อนหลังจากเอากิ๊บติดเดินออกมาจากห้องน้ำโดยนุ่งผ้าขนหนูแปรงฟันคว้ารีโมทแย่งหญิงวัยกลางคนผู้เป็นอาแท้ๆ มากดปิดซึ่งเธอคือคนที่อยู่ในวิดีโอนั้น
“ความภาคภูมิใจไหมล่ะ เปิดบ่อยๆ เผื่อปีนี้จะเข้าประกวดอีก สนไหม” บุษบาเหล่มองกรีนที่แบะปากส่ายหัวบ่งบอกชัดเจน
“คราวที่แล้วยอมประกวดด้วยเพราะตอนนั้นเพิ่งเปิดสถาบันสอนเต้นของอายังไม่รุ่ง ไปโปรโมทให้เฉยๆ ไม่ได้อยากจะทำจริงสักหน่อย วาดรูปขายสบายกว่าตั้งเยอะ นี่พุงเป็นลอนเต้นไม่ได้หรอกอา ตอนนี้สถาบันก็รุ่งแล้วส่งเด็กในสังกัดไปประกวดก็ได้นี่” กรีนยักไหล่เดินเข้าห้องน้ำอาบต่อไม่สนใจผู้เป็นอาที่จิ๊ปากไม่พอใจพยายามหาทางกล่อมหลานสาวแล้วเอียงหน้ามองถ้วยรางวัลหนึ่งเดียวที่ตั้งอยู่บนหลังตู้โชว์
เอี๊ยดดดด!!!
เสียงรถเบรกล้อฟรีทำให้บุษบาต้องเดินออกไปดูหน้าบ้านก่อนหันมองกรีนพุ่งพรวดวิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากแต่งตัวเสร็จด้วยสภาพที่ผมเปียกโชก บุษบาหมุนตัวมองกรีนวิ่งไปห้องกระจกหลังบ้านก่อนหันมองชายหนุ่มผมยาวสีดำขลับวิ่งเข้ามาในบ้านผ่านหน้าไปอย่างชุลมุนวุ่นวาย
“ดักมัน จับมัน มันไปแล้ว” เสียงโวยวายของชายหนุ่มผมสั้นสีทองวิ่งอยู่นอกบ้านบอกคนที่วิ่งนำไปก่อนซึ่งเป็นผู้ชายผมสั้นสีเขียวเบรกหน้าเกือบทิ่มยกขายันประตูที่กำลังจะปิดแต่แรงหญิงที่ไหนจะสู้แรงชายได้
“อั่ก ไอ้พวกหัวฆวด! เว้ยวุ่นวาย” กรีนปล่อยมือออกจากประตูเท้าเอวยอมจำนนมองเพื่อนผู้ชายสามคนรวมตัวกันดึงแขนเธอออกมาด้านนอกพร้อมยืนขวางประตูกั้นเธอพรวดเข้าไป
“มีปัญหาวะ อยากปรึกษาไปด้วยกันหน่อย เลี้ยงไอติม” เพชร ชายหนุ่มผมเขียวเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมองหน้ากรีนที่เป่าลมใส่หน้าเขาทำให้ กังฟู หนุ่มหัวทองหลุดหัวเราะชอบใจและ น้ำอุ่น หนุ่มผมยาวสีดำที่หัวเราะแห้งๆ ตามเพื่อนอย่างไร้อารมณ์ร่วมด้วย
“ปัญหาร้อยแปด แก้เองไม่เป็นหรือไง”
“ช่วยมันหน่อย สงสารเขา” กังฟูสนับสนุนคะยั้นคะยอคว้าแขนกรีนมาควงย่อตัวซบออดอ้อนเพราะสูงกว่าเธออยู่มาก
“สงสาร สงสารใคร”
“เออน่ามาด้วยกัน เดี๋ยวพาไปที่เกิดเหตุ” พูดจบเพชรก็พยักหน้าให้เพื่อนสองคนช่วยกันจับแขนขาแบกกรีนออกจากบ้านยัดเข้ารถ บุษบาโผล่หน้าออกมามองด้วยความงุนงงพร้อมยกมือรับไหว้จากชายหนุ่มสามคนที่ไหว้โดยไม่พูดจายัดตัวกรีนเข้ารถก็รีบขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“อะไรกันแก๊งนี้ นี่ฉันมีหลานสาวหรือหลานชายเนี้ย มีเพื่อนผู้หญิงบ้างไหม เฮ้อ ไม่แปลกเลยถ้าพ่อจะคุมลูกไม่อยู่ ห้าวจริง” บุษบาส่ายหน้าไปมาเดินเข้าไปในบ้านดูวิดีโอต่ออย่างสบายใจ
ผ่านไปเกือบชั่วโมงสี่สหายแสนจะห้าวยืนเลียไอติมโบราณรสกะทิคนละแท่งสายตามองตรงไปทางคลินิกสัตวแพทย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามล้อมรอบด้วยลานจอดรถมีเพียงคลินิกที่ตั้งอยู่กลางลานซึ่งมีเนื้อที่เหลือเฟือมากกว่าคลินิกขนาดเล็ก
“สาวสวยขยี้ใจวีดวิ้ว” กรีนแซวสาวสวยเดินผ่านหน้าไปทำให้เพื่อนทั้งสามคนมองตามก่อนที่กังฟูจะยกมือปิดปากกรีนทันที
“ทำอะไร”
“อ้าว ไม่ได้ให้มาแซวสาวเหรอ เฮ้อ ไร้สาระวะ กลับละ” กรีนหมุนตัวกลับแต่ถูกเพชรล็อกคอไว้ในขณะที่เอาไอติมเข้าปากหมดเหลือแต่ไม้
“ไปไหนเลี้ยงไอติมแล้วอยู่ฟังปัญหาก่อน มีแกคนเดียวที่ช่วยได้” เพชรคว้าไม้ที่กรีนถืออยู่โยนข้ามหัวทิ้ง