CLOSE FRIEND 2
CLOSE FRIEND 2
03.00 น.
ถึงจะเมาจนอ้วกแตกไปสามรอบ แต่ก็ยังประคองสติตัวเองได้อยู่ ไม่นับเรื่องเดินไม่ไหวไว้เรื่องนึง ตอนนี้ฉันกำลังถูกใครสักคนอุ้มอยู่ในอ้อมแขน เสียงคุ้นหูของผู้ชายหลายคนกำลังดังอยู่รอบๆ ตัวนี่เอง ปรือตามองก็พบว่าไอ้ยักษ์เป็นคนที่อุ้มฉันอยู่ คนที่ก้าวเท้าขึ้นบันไดนำหน้าอยู่คือเจินกับคราม ส่วนอีกคนเดินเคียงอยู่ข้างๆ
รามชำเลืองมองมาที่ฉันแค่เล็กน้อยก่อนจะเบนสายตาไป
“นอนนี่แหละ… ตีสามแล้ว”
“เออ”
เสียงพวกมันคุยกันแทบจะไม่ได้อยู่ในโสตประสาทฉันเลย แต่ก็พอเดาได้ว่าพวกมันจะนอนที่ห้องของฉันเอง ตัวฉันถูกไอ้เพื่อนเวรโยนลงบนเตียงทันทีที่เดินเข้ามาถึงในห้อง ฉันไม่ได้สนใจพวกมันแล้วพลิกตัวไปกอดหมอนข้างทันที ความรู้สึกเหมือนใครสักคนกำลังดึงรองเท้าถอดให้ ก่อนที่จะมีใครอีกคนโยนผ้าห่มมาคลุมตัว
“เดี๋ยวกูอาบน้ำก่อน เลอะอ้วกไอ้พริกด้วยเนี่ยไอ้สัส” เสียงที่ฉันจำได้ว่าเป็นของไอ้ยักษ์ฟังดูหงุดหงิดหนัก และถึงแม้จะง่วงหนักมากแต่ฉันก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“เมาแล้วเรื้อน” อันนี้ก็จำได้อีกว่าเป็นเสียงของคราม เดาได้เลยว่ามันจะต้องทำหน้าเบื่อโลกอยู่แน่ๆ
“เดี๋ยวกูโทรหาน้องอ้ายก่อน” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครที่กำลังเปิดประตูระเบียงเดินออกไปคุยโทรศัพท์กับเมีย
ฉันไม่ได้ยินเสียงของรามเลย มันคงจะอยู่แถวๆ นี้แหละ เสียงคนเดินไปเดินมาในห้องเหมือนกำลังจัดแจงปูที่นอนกันอยู่ พวกเราสนิทกันมาก และฉันไม่เคยถูกใครล่วงเกิน หรือแม้กระทั่งแสดงออกว่าจะมายุ่มย่ามเลยค่อนข้างไว้ใจพวกมันมาก
และแค่เวลาไม่กี่นาทีฉันก็หลับเป็นตายโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันหยุด อาจจะเป็นเพราะฉันหลับไปคนแรกก็เลยตื่นเช้ากว่าทุกคน ร่างเหยียดยาวสามร่างนอนห่อตัวอยู่ในผ้าห่มบนพื้น ทุกคนมีหมอนประจำตัวที่พากันซื้อมาทิ้งไว้ เวลาเมาๆ จะได้แวะนอนที่นี่ได้เลยเพราะห้องฉันมันอยู่ใกล้กับผับที่เราชอบไปกันที่สุด คนเดียวที่นอนข้างๆ ฉันบนเตียงคือราม ใบหน้าหล่อจัดกำลังหลับสนิทอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่ฝ่ามือ เรือนร่างท่อนบนเปลือยเปล่า อวดมัดกล้ามเนื้อแบบคนหุ่นดีขั้นสุด
แต่เพราะเห็นมามากพอแล้วเลยไม่ได้ทำให้ฉันตื่นเต้นอะไรมาก ก็แค่โยนผ้าห่มไปคลุมตัวให้มัน เพราะมันเป็นคนเดียวที่นอนแบบไม่ห่มผ้า ทั้งๆ ที่จะแบ่งของฉันไปห่มก็ได้แท้ๆ ตอนนี้ก็เลยได้เห็นไอ้ลำๆ ตรงเป้านั่นกำลังเคารพธงชาติอยู่ มันก็ใหญ่สมกับที่สาวๆ พากันมาติดนั่นแหละ
อีพริกก็ได้แค่เช็ดน้ำหมาก มองได้แต่ตา…
อืม… ใจฉันมันก็แรดๆ แบบนี้นี่แหละ…
ฉันลุกไปเข้าห้องน้ำเงียบๆ ปล่อยให้พวกมันนอนกันต่อไปโดยไม่กวน แค่ส่องกระจกก็ต้องยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างเซ็งๆ สภาพตอนไปอย่างกับนางฟ้า ขากลับเละเป็นหมาแบบนี้ตลอดเลย
ฉันใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมาทั้งผ้าเช็ดตัวเพราะคิดว่ายังไม่มีใครตื่นหรอก ไอ้พวกนี้ถ้าตะวันไม่อยู่กลางกบาลก็ไม่ขยับตัวกันแน่ๆ แต่ก็ต้องคิดผิดเมื่อคนที่นอนอยู่บนเตียงตื่นแล้ว รามที่กำลังนอนตะแคงตัวเลื่อนมือถือด้วยท่าทางงัวเงียชำเลืองมองมาที่ฉันเงียบๆ ก่อนจะเบนสายตากลับไป
ฉันเองก็ทำเป็นไม่สนใจรีบเดินไปหาเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ในใจกำลังเต้นตึกตักเพราะความเขินอาย เราสนิทกันแต่พวกมันก็ไม่เคยได้เห็นฉันอยู่ในสภาพล่อแหลมสักเท่าไหร่หรอก ยกเว้นว่าจะเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จฉันก็เดินออกมาในชุดอยู่บ้านง่ายๆ แค่เสื้อสายเดี่ยวกับกางเกงขาสั้น ทั้งยังต้องเอาแว่นมาสวมอีกต่างหากเพราะถอดคอนแท็กต์เลนส์ออกไปแล้ว รามเปลี่ยนจากนอน ลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงมันจ้องมาที่ฉันอีกครั้งแล้วถอนหายใจเบาๆ
“เป็นไร?” ฉันเอ่ยถามทันที แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำกินดับกระหาย
“มึงไม่มีชุดธรรมดาๆ บ้างเหรอ?”
“…” ฉันยกน้ำขึ้นกระดก หันหน้าไปมองมันอย่างไม่เข้าใจ “ปกติก็ใส่แบบนี้”
“เอาเหอะ” มันพยักหน้าส่งๆ เหมือนขี้เกียจจะพูด ฉันเลยต้องก้มลงมองตัวเอง
เอาจริงๆ มันก็แอบโป๊ไปหน่อยเพราะว่าเสื้อมันค่อนข้างรัดรูปทั้งหน้าอกฉันเองมันก็ค่อนข้างใหญ่กว่ามาตรฐาน กางเกงก็อาจจะดูสั้นไปนิดเพราะว่าขาฉันค่อนข้างยาว แต่สี่ปีที่ผ่านมาฉันก็ใส่แบบนี้ตลอดนะ… ไม่เห็นมีใครมาบ่นอะไร พวกมันมองฉันเป็นผู้หญิงตอนไหนก่อน… ถ้าจะมีคนบ่นก็คงจะเป็นรามนั่นแหละ
ร่างสูงเดินลงมาจากเตียง เพื่อเดินมาขอน้ำกินบ้าง ฉันเลื่อนสายตามองไอ้ท่อนลำยาวๆ ที่เดินทีก็สะบัดทีของมันเงียบๆ ขนาดไอ้พวกบ้านี่ใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวนอน แล้วเห็นกันเป็นลำๆ ขนาดนี้ฉันยังไม่บ่นเลยสักคำ และก็ไม่เคยมีใครโด่มาชี้หน้ากันด้วย!
นี่ไง… วัดได้ไหมล่ะ ว่าไม่มีใครพิศวาสฉันแบบนั้นเลย!
ฉันส่งน้ำต่อให้มันโดยใช้ขวดเดียวกันนั่นแหละ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงโดยนอนคว่ำตัวลง คว้ามือถือมาเลื่อนเล่น รอพวกมันตื่นแล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน
เสียงแชตไลน์ของมือถือรามดังไม่หยุดจนต้องแอบมอง แต่แค่เห็นว่าเป็นใครทักมาแต่เช้าขนาดนี้ฉันก็ต้องเซ็งจัด จะเป็นใครได้ ก็น้องเหมยนั่นแหละ…
แบบนี้มันคงจะสานต่อไม่ต้องสืบเลย…
“มึงนี่แม่ง…”
“ว่า?”
เพราะเสียงเพื่อนดังขึ้นจากข้างหลังฉันเลยเอ่ยถาม แต่ก็ไม่ได้หันไปสนใจ มันไม่ตอบแค่พ่นลมหายใจเสียงดัง อึดใจก็มีผ้าห่มโยนมาคลุมตัวให้ฉัน ก่อนที่คนตัวโตจะเดินมานั่งข้างๆ กัน มันคว้าเอามือถือไปตอบแชตมือเป็นระวิง ฉันได้แค่เบ้หน้ามองอย่างหมั่นไส้เท่านั้น
“สรุปยังไงน้องเหมยอะไรนั่น?”
“น้องเขาก็ดี” มันตอบโดยไม่หันมามอง เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดๆ “แต่กูก็ยังเบื่อๆ”
“หืม? นี่น้องเหมยเลยนะ” ฉันคว่ำมือถือลงเงยหน้ามองมันอย่างแปลกใจ
“ก็ตอนนั้นมันก็ชอบ”
“แล้วตอนนี้?”
“ก็ชอบ… มั้ง”
“…”
ฉันเม้มริมฝีปากแน่น พยายามจะไม่ออกอาการอะไรนอกจากผุดตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิคว้ามือถือมาตอบแชตผู้ชายบ้าง แหม… ก็ไม่ใช่แค่พวกมันหรอกที่มีคนคุยฉันเองก็พอมีเหมือนกันนั่นแหละ แต่ไม่ค่อยตอบใครหรอก มีแต่คนน่าเบื่อ เอะอะๆ จะขอมาห้องท่าเดียวเลย คงคิดว่าฉันกร้านโลกกันมากน่ะแหละ
เปล่าเลย อีพริกนี่ยังไม่เคยมีครั้งแรกด้วยซ้ำจ้า…
แก่ปูนนี้แล้ว อีกแค่ปีเดียวจะเรียนจบแล้วแท้ๆ ช่างน่าเศร้า... TT____TT
สามชั่วโมงต่อมา
พวกมันตื่นกันแล้ว และพวกเราเลยได้ฤกษ์กินข้าวกันสักที เราเลือกร้านข้าวใต้หอฉันนั่นแหละ ง่ายๆ ไม่ต้องไปไหนไกล แถมอร่อยด้วย แต่จะติดก็ตรงที่ไอ้หอเวรนี่ผู้ชายมันเยอะไปหน่อย เพราะฉันดันมาได้หอที่มีแต่เด็กวิศวะฯ เต็มหอมันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
ตอนนี้ฉันเลยถูกคนตัวโตสองคนนั่งขนาบข้างไว้ เพราะแค่เดินเข้าร้านมาพวกผู้ชายก็เอาแต่มองมาไม่ได้หยุด ถ้าไม่มีครามที่หันไปจัดการด้วยสายตา หรือไอ้ยักษ์ที่ทำตัวปึงปังแสดงออกว่าไม่พอใจคนพวกนั้นก็คงจะยังมองมาไม่เลิก
ฉันไม่ใช่คนคิดเยอะ ก็เลยไม่ได้คิดอะไรลงมาทั้งสภาพเดิมๆ นี่แหละ เพื่อนฉันมันไม่คิดอะไร แต่คนอื่นไม่ใช่ไง…
“กูไหว้ล่ะ ทีหลังเวลาจะลงมาข้างล่างก็เปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยไอ้สัส กูรำคาญ” ไอ้ยักษ์ทำหน้าบอกบุญไม่รับ “เดินนมเด้งมาแบบนี้ใครๆ แม่งก็ต้องมอง”
“ปากหมา” ฉันด่าสวนทันที ยกมือดันแว่นเข้าดั้งจมูก “ก็พวกมึงอยู่ด้วยไง”
“แล้วเวลาพวกกูไม่อยู่?”
“ก็ไม่ลงมาไง”
“เฮ้อ”
พวกมันถอนหายใจแทบจะพร้อมกันแล้วไม่ได้หันมาสนใจอะไรอีก เพราะข้าวมาเสิร์ฟแล้ว เราก็คุยกันไปเรื่อยนั่นแหละ โชคดีที่ฉันอยู่กับพวกมันมานานเลยร่วมอยู่ในบทสนทนาแบบผู้ชายๆ ได้ไม่ยาก จะมีก็แค่ถ้าพวกมันเมาท์กันเรื่องบนเตียงฉันจะทำได้แค่นั่งเงียบเก็บข้อมูลเท่านั้น และแน่นอนว่าพวกมันไม่อายฉันหรอก ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะไม่มีใครกล้าพูด แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่า ใครเอากับใคร ท่าอะไร อีพริกรู้หมดนั่นแหละ…
หน้าหนาๆ แบบพวกมันคงไม่คิดว่าฉันรู้สึกอะไรแหงๆ =______=
“กูไปละ น้องอ้ายมาหา” เจินเป็นคนแรกที่เอ่ยลา มันแทบจะลุกออกไปกลางวงข้าวเลยด้วยซ้ำ
“ติดเมีย” พวกเราเอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมๆ กัน คนโดนแซวแค่หัวเราะเบาๆ แล้วรีบเดินหลบไปทางลานจอดรถ
“มึงว่างปะ? ไปช่วยกูขนของที่บ้านหน่อย” ไอ้ยักษ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ชะโงกหัวมองข้ามหน้าฉันไปถามครามซึ่งกำลังนั่งเงียบๆ เลื่อนมือถือเล่นอยู่
“เออ”
แล้วพวกมันสองคนก็พากันลุกขึ้น ทำให้ฉันกับรามต้องลุกขึ้นตาม เราสี่คนเดินออกมาจากร้านข้าว โดยที่ยักษ์กับครามหันมาโบกมือให้พอเป็นพิธีแล้วเดินออกลานจอดรถไป ฉันไม่แปลกใจที่มันไม่ชวนราม เพราะบ้านรามไม่ได้ไปทางเดียวกับบ้านพวกมันสองคน
และในที่สุด… ตอนนี้ก็เลยเหลือแค่ฉัน… กับมัน
“กูจะนอนต่ออีกหน่อย” ร่างสูงข้างๆ เอ่ยบอก พร้อมยกมือขึ้นเสยผม ดูไม่รีบร้อนอะไร
“อือ” ฉันพยักหน้ารับ แล้วเดินนำมันเข้าไปในหอ
ร่างสูงเดินตามมาเงียบๆ ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้อยู่กันสองต่อสอง แต่เหตุการณ์แบบนี้นี่แหละที่ทำให้ใจฉันเต้นตึกตักได้เสมอ กระทั่งเดินขึ้นบันไดในตอนนี้… หัวใจฉันก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาอย่างง่ายดาย
พอเราเดินเข้ามาในห้องมันก็เดินผ่านฉันไปถอดเสื้อยืดออกแล้วทิ้งตัวใส่ที่นอน ฉันได้แค่มองคนตัวโตนอนหงายโชว์เรือนร่างฮอตปรอทแตกเงียบๆ มันใส่แค่บ็อกเซอร์เท่านั้นเลยทำให้ฉันต้องมานั่งมองไอ้สิ่งที่นูนๆ ขึ้นมาเป็นลำๆ แบบนั้นอีกแล้ว
ถึงจะไม่ได้ตั้งตรง แต่มันก็ใหญ่มากอยู่ดี…
“แล้ววันนี้ไม่ไปไหน?” คนที่บอกว่าจะนอนต่อเอ่ยถามขึ้น ฉันเบนสายตาไปทางอื่นแล้วยักไหล่
“ไม่ไป ว่าจะเก็บห้อง”
“มึงเนี่ยนะเก็บห้อง?” รามคว่ำจอมือถือลงบนหน้าท้อง มองมาด้วยสายตากวนประสาท
“กูนี่แหละ”
ฉันพยายามจะไม่สนใจสิ่งที่มันล้อแล้วเดินไปคว้าไม้กวาดที่จับครั้งสุดท้ายน่าจะตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วมากวาดห้อง
โอเค… ถ้าเทียบกับผู้หญิงด้วยกันฉันค่อนข้างที่จะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่หรอก และยิ่งมีเพื่อนผู้ชายเป็นฝูงแบบนี้ด้วยแล้ว คงไม่ต้องบอกหรอกใช่ไหมว่าบางครั้งสภาพห้องมันก็อาจจะดูเอ่อ… เละเทะไปหน่อย
จะไม่ให้รกได้ยังไง… พวกมันเล่นเอานั่นเอานี่มาโยนทิ้งไว้ ไม่ก็พาดๆ บนพนักเก้าอี้บ้าง ถ้าคนอื่นมาเห็นต้องเดาไม่ออกแน่ๆ ว่าเป็นห้องสาวโสด นี่ไม่อยากจะพูด!! ขนาดกล่องถุงยางยังมีเลย! ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ตัวไหนมันโยนทิ้งเอาไว้ รู้แค่ว่าต้องเป็นของพวกมันสักคนนี่แหละ! ฉันใช้ถุงยางที่ไหนกัน!!
ฉันเดินกวาดนั่นกวาดนี่ไปเรื่อย ก้มๆ เงยๆ คว้าขยะทิ้งลงถังที่ถึงกับต้องเดินลากมันไปด้วยทั่วห้อง โดยที่ไอ้คนบอกว่าจะนอนก็ยังไม่นอน มันนอนตะแคงตัวเล่นมือถือ บางจังหวะก็ชำเลืองมองมาที่ฉันโดยไม่คิดจะเข้ามาช่วยกันเก็บสักนิด ทั้งๆ ที่ของที่มันรกส่วนใหญ่ก็คือของพวกมันทั้งนั้น
ให้ตายสิ… นึกว่าตัวเองเป็นแม่แล้วหนึ่ง =______=
รามก็คือราม… มันชอบมานอนเล่นที่ห้องฉันโดยไม่มีเหตุผล ถึงคนอื่นก็เหมือนกัน แต่ถ้าใครมาบ่อยสุดก็คงต้องเป็นราม ต่อให้มันมีบ้านให้กลับมันก็ยังคงเห็นห้องฉันเป็นสถานที่โปรดปรานเสมอ และต่อให้ไม่มีอะไรทำมันก็ยังจะมา อย่างตอนนี้มันจะกลับบ้านก็ได้แต่มันก็ไม่ไป
ฉันชินซะแล้วกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะตัวเองก็ชอบไปนอนเล่นที่คอนโดเจินบ่อยๆ เหมือนกัน เว้นแต่ว่าช่วงหลังอาจจะไปน้อยลงเพราะเพื่อนมีเมีย
แต่ที่มันทำใจให้ชินไม่ได้สักทีก็เพราะรามเป็นคนที่ฉันแอบชอบมานาน เป็นคนเดียวในบรรดาเพื่อนหล่อๆ ยกแก๊งที่ทำให้ฉันใจเต้นได้ และยิ่งเราอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน ความรู้สึกฉันมันก็ทับถมอยู่ในใจมากขึ้นทุกที ถึงจะไม่ได้มีอะไรระหว่างเราที่มันดูสเปเชียลมากกว่าปกติ
แต่ฉันก็รู้สึก… รู้สึกมากขึ้นทุกวัน
