ตอนที่ 5
“จริงดิ?...นี่อายุขนาดนี้ยังไม่มีแฟนเลยเหรอ...นี่ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยนะปิ๊ก เรามาทำงานกับฉันตั้งครึ่งปีแล้ว นึกว่ามีแฟนมารับมาส่งที่ทำงานทุกวันซะอีก”
“ปิ๊กเคยมีค่ะ แต่ตั้งนานแล้ว มีสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้เขาไปทำงานที่อื่นเราเลยไม่ได้คุยกันอีกเลย”
“คุยเหรอ?” ภูวดลเลิกคิ้ว “ไอ้คำว่าคุยนี่ ฉันว่าสาว ๆ สมัยนี้เขาไม่ใช้กันแล้วนะ เดี๋ยวนี้คบกันก็ต้อง...เอ้อ...ผูกพันกันมากกว่านั้นซี”
“เรื่องของเรื่องคือพ่อกับแม่ปิ๊กรู้ว่าเราคบกัน ปิ๊กพยายามไม่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่พอท่านอยากทำความรู้จักกับแฟนของปิ๊กเขาก็ไม่คุยเรื่องนี้อีก ปิ๊กว่าเขาไม่จริงจังสักเท่าไหร่”
“แสดงว่าถ้ามีคนจริงจังพ่อกับแม่ของปิ๊กก็คงดีใจ”
“คงงั้นมังคะท่านประธาน”
หญิงสาวช้อนตามองชายหนุ่มแล้วต้องรีบหรุบเปลือกตาลงต่ำอีกหน ภูวดลจะรู้ไหมว่าเวลาเขาจ้องตาหล่อนหัวใจดวงน้อย ๆ ดวงนั้นก็เต้นแรงทุกครั้งที่สบประสานสายตา แก้มของหล่อนเป็นสีแดงเรื่อ นึกโกรธตัวเองที่ปกปิดความรู้สึกไว้แทบไม่อยู่ แต่สักพักเขาก็เอ่ยขึ้นว่า
“โอเคๆ...เราไปบนดาดฟ้าเรือกันเถอะ พ่อกับแม่รออยู่ที่นั่น”
ประธานหนุ่มพูดเสียงขัด ๆ เขาเองรู้สึกเขิน ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน น่าแปลกที่ก็ทำงานกับปนัดดาทุกวันแต่วันนี้กลับเกิดจะหายใจผิดจังหวะเวลาอยู่กับหล่อนสองคนซะงั้น เขาเริ่มสงสัยเสียแล้วว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่
เรือยอร์ชลำหรูที่ภูวดลเช่ามาเพื่อความสำราญของพ่อและแม่ ทั้งเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่บุพการีมายตาไว้ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของชายหญิงวัยกลางคนทั้งสองได้ดีทีเดียว ที่สำคัญและสิ่งที่ภูวดลคาดไม่ถึงคือพ่อกับแม่ของเขาท่าทางชื่นชอบปนัดดา เพราะหล่อนคุยเก่ง สมแล้วกับตำแหน่งเลขาประธานบริหารบริษัทใหญ่อย่างเขา หล่อนทำให้วงสนทนาเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจนเขาเองนึกประหลาดใจว่าตลอดเวลาการทำงานระหว่างเขากับหล่อนมันผ่านมาได้อย่างไรโดยที่เขาไม่ได้คุยและส่งเสียงหัวเราะแบบนี้กับเลขาส่วนตัว
